ป.ป.ช.ชี้มูลผิด นายก อบต.คลองขาม กับพวก ทุจริตก่อสร้างโรงเรียนอนุบาลอบต. ปี 2560
GH News May 07, 2025 11:21 AM

ป.ป.ช. ชี้มูล ‘วิทยา บุญตาโลก’ นายก อบต.คลองขาม ทุจริตก่อสร้างโรงเรียนอนุบาล

เมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ว่าที่ร้อยตรีสมบูรณ์ หัสดม ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดกาฬสินธุ์ แถลงว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายวิทยา บุญตาโลก นายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) คลองขาม อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธ์ กับพวก ทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารเรียนโรงเรียนอนุบาลองค์การบริหารส่วนตำบลคลองขาม เมื่อปี พ.ศ.2560 คดีหมายเลขดำที่ 44-1-810/256 ล่าสุดเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติเป็นเอกฉันท์ ดังนี้

การกระทำของนายวิทยา บุญตาโลก มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่นเนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 125 และมาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในฐานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุมคุม ตรวจสอบ หรือดำเนินคดี และฐานเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 100(1) ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 และมีมูลความผิด ฐานกระทำการฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน หรือละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ ตามพระราชบัญญัติสภาตำบลแลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ.2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

การกระทำของ น.ส.ชัญญานุช ยนต์โชย น.ส.ดรุณี ทองน้อย นางจันทิรา ยนต์ไชย และ น.ส.มธุรส ภูน้ำเย็น จากการไต่สวนเบื้องต้น ไม่ปรากฏข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานว่าได้กระทำการอันมีมูลความผิดในทางอาญาตามที่กล่าวหา ข้อกล่าวหาในทางอาญาไม่มีมูล ให้ข้อกล่าวหาตกไป แต่มีมูลความผิดทางวินัยไม่ร้ายแรง ฐานปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยปราศจากความอุตสาหะ เอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาประโยชน์ของทางราชการและประมาทเลินเล่อในหน้าที่ราชการ ตามประกาศคณะกรรมการพนักงานส่วนตำบลจังหวัดกาฬสินธุ์ เรื่อง หลักเกณฑ์และเงื่อนไขการสอบสวน การลงโทษทางวินัย พ.ศ.2558 ลงวันที่ 30 ธันวาคม 2558 ข้อ 9 วรรคหนึ่ง

การกระทำของนายคำปุน ภูคงสด มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานมีหน้าที่จัดการหรือดูแลกิจการใดเข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น เนื่องด้วยกิจการนั้น และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 152 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 ฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าเป็นคู่สัญญาหรือมีส่วนได้เสียในสัญญาที่ทำกับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้นั้นปฏิบัติหน้าที่ในธานะที่เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งมีอำนาจกำกับ ดูแล ควบคุม ตรวจจจสอบหรือดำเนินคดี และฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่ หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามพระราชญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2552 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 100(1) ประกอบมาตรา 122 และมาตรา 123/1 ประกอบประมวลกฎหมายอาญามาตรา 86

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาล ซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับ นายวิทยา บุญตาโลก นายคำปุ่น ภูคงสด และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัยไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยกับ นายวิทยา บุญตาโลก น.ส.ชัญญานุช ยนต์ไชย น.ส.ดรุณี ทองน้อย นางจันทิรา ยนต์ไชย และ น.ส.มธุรส ภูน้ำเย็น ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 และมาตรา 98 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป และให้แจ้งผลการพิจารณาของคณะกรรมการ ป.ป.ช.ให้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ทราบด้วย

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.