เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม ที่ ภ.จว.สุราษฏร์ธานี พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า จากกรณี ที่ น.ส.แก้วตา (สงวนนามสกุล) ได้หลอกลวงกลุ่มผู้เสียหายว่าสามารถสั่งซื้อตั๋วเครื่องบินในราคาพิเศษ ทั้งสายการบินภายในประเทศและต่างประเทศ กลุ่มผู้เสียหายหลงเชื่อจึงได้โอนเงินให้น.ส.แก้วตาไป แต่เมื่อต้องการใช้ตั๋วที่สั่งซื้อ ปรากฏว่าไม่สามารถใช้งานได้จริง
พนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้เบื้องต้น และได้นัดหมายให้ผู้เสียหายให้มาสอบปากคำเพิ่มเติมภายหลัง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป โดยคาดว่ากรณีดังกล่าวมีผู้เสียหายประมาณ 50 คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายโดยประมาณ 3,672,890 บาท พนักงานสอบสวนจึงได้รับคำร้องทุกข์ไว้แล้ว ที่ สภ.บ่อผุด และรวมโรงพักอื่นๆอีกหลายที่นั้น
พล.ต.ต.เสริมพันธ์ กล่าวว่า กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.พร้อมทั้ง พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ. 8 ได้สั่งกำชับให้เร่งรัดจับกุมตัว ผู้ต้องหารายดังกล่าวมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะเข้าข่ายข้อหาฉ้อโกงประชาชน มีอัตราโทษสูง ซึ่งมีผู้เสียหายจำนวนมากได้รับความเสียหายเป็นจำนวนเงินกว่า 3 ล้านบาท พร้อมถ้าหากจับกุมตัวได้ให้สืบสวนขยายผลเพราะอาจมีผูัเสียหายมีมากกว่านี้ รวมถึงผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องเป็นขบวนการ หากพบพยานหลักฐานถึงผู้ใดให้ดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดตามกฏหมายต่อไป
พล.ต.ต.เสริมพันธ์ ยังกล่าวอีกว่าวันนี้ ร.ต.อ.ศิรชัช กามูณี พนักงานสอบสวน สภ.บ่อผุด จว.สุราษฏร์ธานี ได้รวบรวมพยานหลักฐานยื่นขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดเกาะสมุย ศาลฯได้อนุมัติหมายจับที่ 134/2568 ลงวันที่ 7 พ.ค. 2568 ตนจึงได้นำข้อมูลหมายจับเข้าระบบ เพื่อส่งให้ทุก สภ.,สน.ทั่วประเทศและรวมถึงตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ฯลฯ วันนี้ได้สั่งการกำชับให้ชุดสืบสวน สภ.บ่อผุด กองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัด จัดระดมชุดสืบสวนไล่ล่าเพื่อจับกุมตัวผู้ต้องหารายนี้มาดำเนินคดีพร้อมให้สืบสวนขยายผลถึงผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงประชาชนของผู้ต้องหารายนี้ตามกฏหมายต่อไป อยากให้ ผู้ต้องหาเข้ามอบตัวเสีย เพราะอย่างไรเสียก็หนีไม่รอดอยู่แล้ว ผบก.ภ.จว.สุราษฏร์ฯ กล่าว
