วันที่ 7 พ.ค.2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ที่เป็นกระแสมาอย่างต่อเนื่องว่า ในส่วนของพรรคภูมิใจไทย เราดูแลอยู่ทั้งสิ้น 4 กระทรวง ไม่มีปัญหา ยังทำงานอย่างเต็มที่ เรื่องการปรับ ครม. ใน ครม. ไม่เคยพูดคุยกันเลย นายกรัฐมนตรีไม่เคยปรารภ หรือแม้กระทั่งเจรจา หรือแจ้งว่าจะมีการปรับเปลี่ยน ก็ไม่ได้พูดถึง นายกฯพูดแต่ว่า ต้องทำงานด้วยกัน ทำเต็มที่ ทำให้รัฐบาลเข้มแข็ง ทำให้จบ แล้วไปต่อ ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เคยบอกแล้ว ว่าต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน ซึ่งเมื่อมาดูที่การทำงาน นายกฯไม่มีปัญหา และแข็งแกร่งขึ้นทุกวัน สนุกในการทำงาน ส่วนตน สนับสนุนนายกฯแน่นอน ความสัมพันธ์ระหว่างกันนับว่าดี
“ผมอยู่ตรงนี้ ถ้าผมเป็นนักฟุตบอลเล่นกันในสนาม ผมเองไม่รู้สึกว่าจะมีใครมาเตะเจาะยาง แต่คนนอก ก็มองจากมุมเขา เราเองก็ไปคิดแทนกันไม่ได้ สำหรับพรรคภูมิใจไทย ต้องทำงานหนัก สร้างผลงาน ก็หวังว่า เมื่อเข้าตาประชาชน จะได้ สส.มากขึ้น” นายอนุทิน กล่าว
นายอนุทิน ยังกล่าวถึงทิศทางการขับเคลื่อนของพรรคภูมิใจไทย ว่าจากนี้ต้องเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ในพรรค เข้ามามีบทบาทมากขึ้น คนรุ่นตน มีประสบการณ์ ถึงเวลาต้องเปิดพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่เข้ามารับใช้พี่น้องประชาชนมากขึ้น ส่วนคนรุ่นก่อนจะถอยไปประคอง พรรคของเราจะพัฒนา จากรุ่น สู่รุ่น และจะต้องทำงานให้ได้มากขึ้น ประชาชน ต้องได้ประโยชน์มากขึ้น
“เราเปิดกว้างรับสิ่งใหม่ๆ เมื่อมันเป็นประโยชน์กับประชาชน อย่างพรรคภูมิใจไทย เราก็ดันคนรุ่นใหม่ขึ้นมามีตำแหน่งสำคัญเสมอ และเราก็เปิดรับไอเดียใหม่ๆ ด้วย แต่ที่สุดแล้ว ก็ต้องมาคุยกันให้ตกผลึก เป็นมติพรรค เมื่อออกมาแล้ว ต้องดำเนินการไปตามนั้น” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่า ใครคือคู่แข่งหลักของพรรคภูมิใจไทย นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่เคยมองใครเป็นคู่แข่ง ให้แข่งกับตัวเอง ถ้าทำงานการเมือง ให้คิดเสมอว่าประชาชนเป็นผู้มีพระคุณ เป็นเจ้านายเรา ขอให้เอาใจใส่ รักษาสัญญา ไม่ทอดทิ้ง ประชาชน เป็นคนทำให้ได้เข้ามา ทำงานในสภา ต้องไม่ลืม ถ้าตระหนักได้แบบนี้ จะเป็นผู้แทนตลอดการ คุณต้องแข่งกับความขี้เกียจ บางคนขึ้นมาเป็น สส. ก็ลงพื้นที่น้อยลง แล้วมาบอกว่า ให้คนอื่นทำงานแทน ทำแบบนี้ แพ้ ชาวบ้าน ไม่ต้องการแบบนี้ ชาวบ้านต้องการท่าน เพราะชาวบ้านเลือกท่านมา สำหรับตน เป็น สส.ปาร์ตี้ลิสต์ ถือว่าทั้งประเทศคือพื้นที่ที่เราต้องดูแล ได้ไปพบกับประชาชน ดูแลทุกข์สุขของคนที่เป็นเจ้านายเรา และทุกครั้งที่ได้ไปก็มีความสุข นั่นคือที่ของเรา