พมจ.ขอนแก่น รับตัวหนูน้อยไปดูแล โดนแม่เทน้ำราดหัวกลางร้านอาหาร แม่รับเพิ่งเสพยาบ้า เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบหลังคลิปแชร์ว่อน
วันที่ 7 พ.ค. 68 ร้อยตรีเสถียร สาระสิทธิ์ นายอำเภอหนองสองห้อง พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดขอนแก่น นายกอบต.หนองไผ่ล้อม และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบ ไปที่บ้านของ น.ส.มุ้ย อายุ 32 ปี แม่ของเด็กหญิงวัย 3 ขวบ 6 เดือน ที่ถูกทำร้ายภายในร้านแจ่วฮ้อนตามที่ปรากฏในสื่อโซเชียลมีเดีย
โดยได้พบตัวทั้งแม่และลูก ซึ่งขับรถกลับมาที่บ้านพอดี โดยทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปพูดคุยทำความเข้าใจกับแม่ ของเด็กถึงเรื่องราวที่เกิด พร้อมทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด ซึ่งไม่พบมีสารเสพติดในร่างกาย แต่เจ้าตัวยอมรับว่าเสพยาบ้ามาก่อนเมื่อ 2 สัปดาห์ที่แล้ว โดยซื้อมาจาก นายมอส ราคาขึ้นลงตามอารมณ์นายมอสที่ตลาด เม็ดละ 60-100 บาท
พมจ.ขอนแก่น รับตัวหนูน้อยไปดูแล โดนแม่เทน้ำราดหัวกลางร้านอาหาร แม่รับเพิ่งเสพยาบ้า
และหากไม่เสร็จก็เหมือนจะลงแดง พร้อมทั้งยินยอมให้พาลูกสาววัย 3 ขวบ 6 เดือน ไปอยู่ในความดูแลของทาง พม.จ.ขอนแก่น ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่นเป็นการชั่วคราว เนื่องจากควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ และยอมรับว่าทำร้ายลูกจริง โดยทางเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะดูแลลูกสาวของ น.ส.มุ้ย เป็นอย่างดี ซึ่งในช่วงนี้ น.ส.มุ้ยก็จะอยู่ที่บ้านตามลำพัง
โดยมีทางผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้ามาคอยดูแลเป็นระยะ เพื่อประเมินว่าจะสามารถนำลูกสาวของน.ส.มุ้ยกลับมาสู่อ้อมอกได้เมื่อไหร่ซึ่งขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายและจิตใจของ น.ส.มุ้ย รวมถึงพฤติกรรมต่างๆที่สุ่มเสี่ยงจะทำร้ายลูกสาวอีก โดยเบื้องต้นนั้นทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวเด็กกลับมาหาน.ส.มุ้ย ในวันเปิดเทอม วันที่ 16 พ.ค.68 หากสามารถอยู่ด้วยกันอย่างปลอดภัยได้ก็จะให้ทั้งคู่ได้อยู่กันตามปกติ โดยมีผู้นำชุมชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดูแลเป็นระยะเช่นเดิม
ซึ่งภายหลังพูดคุยทำความเข้าใจกันนั้น ในช่วงที่รอรถของทางเจ้าหน้าที่มารับลูกสาวไปที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดขอนแก่น พบว่านางสาวมุ้ยเกิดความเครียดอย่างเห็นได้ชัดลุกขึ้นไปสูบบุหรี่และน้ำตาคลอเสียงสั่นที่จะจะต้องให้ลูกสาวไปอยู่กับทางเจ้าหน้าที่ แต่ก็ยินยอมแต่โดยดีก่อนที่ทางเจ้าหน้าที่จะนำตัวลูกสาววัย 3 ขวบ 6 เดือนขึ้นรถเดินทางออกไปทันที
นายวิโรจน์ มีมานะ อายุ 56 ปี ส.อบต.หนองไผ่ล้อม ซึ่งเป็นคนคอยดูแลครอบครัว น.ส.มุ้ยกับลูกสาววัย 3 ขวบ 6 เดือน กับลูกชายวัย 8 ขวบของ น.ส.มุ้ยอีกคน และเพื่อนสนิทของพ่อน.ส.มุ้ยด้วย ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า พฤติกรรมความรุนแรงของ น.ส.มุ้ย นั้น มีมาตั้งแต่ลูกทั้งสองคนเกิด ตั้งแต่ยังไม่แยกทางกับสามี
ซึ่งสาเหตุที่เป็นแบบนี้เพราะ น.ส.มุ้ย เป็นคนเอาแต่ใจ พอไม่ได้ดั่งใจก็จะมีพฤติกรรมความรุนแรง กระทั่งเกิดเรื่องล่าสุดขึ้นมา ส่วนตัวก็ดีใจที่ทางเจ้าหน้าที่ลงมารับตัวลูกสาวไปดูแล ซึ่งก็อยากจะให้การดูแลนั้นเป็นไปอย่างยั่งยืน อยากให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของน.ส.มุ้ย ในเรื่องของยาเสพติดนั้นส่วนตัวไม่ทราบแต่หากมีพฤติกรรมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดก็จะทำให้ อารมณ์ดังกล่าวเกิดการใช้ความรุนแรงมากขึ้นตาม
ส่วนการใช้ชีวิตความเป็นอยู่ของแม่ลูกนั้นในส่วนของแม่ถือว่าเป็นคนทำมาหากินดีคนหนึ่ง รู้จักหาเงินเลี้ยงดูลูก แต่จะเสียอย่างเดียวคือพฤติกรรมการใช้ความรุนแรงดังกล่าว และในส่วนของลูกเองก็ไม่ใช่คนดื้อซนจนบอกไม่ได้ ทั้งลูกสาวลูกชายพยายามปรับตัวให้เข้ากับแม่
และตัวลูกชายเองที่ไปอยู่กับญาตินั้นก็จำใจไป เพราะไม่สามารถอยู่ร่วมกันกับแม่ได้เนื่องจากพฤติกรรมความรุนแรงดังกล่าว ส่วนฐานะทางการเงินนั้นก็ไม่ได้ขาดแคลน และมีญาติญาติคอยดูแล พร้อมจะเลี้ยงดูลูกสาวของมุ้ยหากมุ้ยดูแลไม่ไหว แต่มุ้ยต้องการที่จะเลี้ยงดูลูกสาวซึ่งคิดว่าอยากให้มีคนอยู่เป็นเพื่อนเพราะมุ้ยอาศัยอยู่ตามลำพังกับลูกเท่านั้น.