กรมอุตุนิยมวิทยา วันนี้ เตือนวันพืชมงคล-หยุดยาว 9-12 พ.ค.นี้ รับมือ-เฝ้าระวัง “พายุฤดูร้อน” ทั้งพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บ ภาคอีสานโดนก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป ชี้อากาศมีความแปรปรวนสูง เป็นช่วงเตรียมเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ฤดูฝน แนะควรวางแผนและลดการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าว

กรมอุตุนิยมวิทยา อัพเดตผลการพยากรณ์ฝนสะสมรายวัน (ทุกๆ 24 ชม. (นับตั้งแต่ 07.00น. ถึง 07.00น.วันรุ่งขึ้น) และลมที่ระดับ 925hPa (750 ม.)15 วันล่วงหน้า ระหว่าง 8-22 พ.ค.68 init. 2025050712 จากศูนย์พยากรณ์อากาศระยะกลางยุโรป (ECMWF) วิเคราะห์ตามผลจากแบบจำลองฯ เฉดสีแดงหมายถึงฝนหนัก สีเขียวหมายถึงฝนเล็กน้อย :

วันนี้ (8 พ.ค.68) ภาคเหนืออากาศยังร้อนถึงร้อนจัดบางจังหวัด ฝนน้อยลงกว่าเมื่อวาน แต่ยังมีฝน/ฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่บริเวณภาคเหนือด้านตะวันตก ภาคอีสานตอนบน ภาคกลาง ภาคตะวันออกตามแนวชายฝั่ง กทม.และปริมณฑล ฝนอยู่ในเกณฑ์เล็กน้อยถึงปานกลางส่วนภาคใต้ยังมีฝนฟ้าคะนองกระจายตกต่อเนื่อง ปริมาณเป็นฝนเล็กน้อยถึงปานกลาง (ฝนตกหนักน้อยลง) ฝนมาช่วงบ่ายถึงค่ำ ทิศทางลมเริ่มมีลมตะวันตก ลมตะวันตกเฉียงใต้ พัดจากอันดามันปกคลุมประเทศไทยมากขึ้น เป็นสัญญาณก่อนเข้าสู่ฤดูฝน (Pre-Southwest monsoon) ต้องเตรียมความพร้อม

ส่วนช่วงวันหยุดยาวๆ 9 – 12 พ.ค.68 (9 พ.ค. วันพืชมงคล)จะเป็นช่วงที่ประเทศไทยจะเริ่มมีฝนเพิ่มขึ้น และยังเป็นพายุฤดูร้อน (พายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บ) และมีฝนตกหนักบางแห่ง รวมถึงฟ้าผ่าที่อาจเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ โดยจะเริ่มวันพรุ่งนี้ (9/5/68) ทางด้านตะวันออกของภาคอีสานก่อน ส่วนภาคอื่นๆ จะได้รับผลกระทบในระยะต่อไป เช้าถึงบ่ายอากาศยังร้อน ต้องติดตามและเฝ้าระวังเตรียมรับมือกันตลอดช่วง

ทั้งนี้เนื่องจากเป็นช่วงที่อากาศมีความแปรปรวนสูง จะเป็นช่วงเตรียมเปลี่ยนถ่ายเข้าสู่ฤดูฝน ลมใกล้ผิวพื้นเริ่มเปลี่ยนเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้เริ่มมีกำลังแรงขึ้น แต่ยังมีบางวันที่ยังมีลมใต้พัดแทรกในช่วงแรกๆ ประกอบกับช่วง 9-12 พ.ค.68 คาดว่าจะมีมวลอากาศเย็นกำลังปานกลางแผ่ลงมาปกคลุมทางตอนบนของเวียดนาม ในขณะที่ประเทศไทยมีอากาศร้อน ทำให้ทั่วไทยมีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักได้หลายพื้นที่ ต้องเฝ้าระวังและติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด

ช่วงวันที่ 13 – 18 พ.ค.68 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้น่าจะเริ่มพัดปกคลุมประเทศไทยและมีกำลังแรงขึ้น และมีหย่อมความกดอากาศต่ำทางด้านทะเลอันดามัน ทำให้ฝนทั่วไทยยังกระจายต่อเนื่อง ต้องเฝ้าระวังฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากได้

และ ช่วง 19 – 22 พ.ค. 68 มรสุมอ่อนลงบ้าง ฝนเบาลงบ้าง ฝนที่เกิดขึ้นในช่วงเปลี่ยนถ่ายฤดู อาจมีหลายเวลา ส่วนใหญ่ยังเป็นฝนฟ้าคะนอง มีลมกระโชกแรง ปริมาณเฉลี่ยเล็กน้อยถึงปานกลาง และเมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ฝนจะเกิดขึ้นในช่วงบ่ายถึงค่ำ โดยปกติประเทศไทยจะเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนประมาณกลางเดือน พ.ค. สำหรับฤดูฝนปีนี้รอประกาศอย่างเป็นทางการจากกรมอุตุนิยมวิทยาอีกครั้ง เมื่อพิจารณาเกณฑ์หรือเงื่อนไขต่างๆ ครบถ้วน ช่วงที่มีฝนควรสำรองน้ำไว้ใช้ เพื่ออุปโภค บริโภค ในบางพื้นที่น้ำฝนยังไม่เพียงพอต่อการเกษตรกรรม

ข้อควรระวัง

ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนและฝนตกหนักที่จะเกิดขึ้น ควรหลีกเลี่ยงการเดินทางผ่านบริเวณที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง รวมถึงเส้นทางที่มีปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำที่มีข้อจำกัดในการระบายน้ำ ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมขังในระยะสั้นได้ เนื่องจากการระบายน้ำอาจทำได้ไม่สะดวก ทั้งนี้ควรหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง หรือป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง

สำหรับเกษตรกรควรเสริมความแข็งแรงให้ไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง รวมทั้งดูแลรักษาสุขภาพในช่วงที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลง

สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากลมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามันและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันจะมีกำลังแรงขึ้น โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ประชาชนในภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย ส่วนชาวเรือในบริเวณดังกล่าวควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในช่วงวันดังกล่าวไว้ด้วย

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยและลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น ขอให้ประชาชนวางแผนการใช้ชีวิตและการเดินทางในช่วงเวลาดังกล่าวอย่างระมัดระวัง จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือที่ 0-2399-4012-13 และ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

(ข้อมูลนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ ตามข้อมูลนำเข้าและประมวลผลใหม่ ใช้เป็นแนวทางประกอบการตัดสินใจและติดตามสภาพอากาศ)

สัญญาณการเข้าสู่ ‘ฤดูฝน’

สำหรับการจะเข้าสู่ฤดูฝนในแต่ละปี มีปัจจัย 3 ประการที่กรมอุตุนิยมวิทยาใช้ในการพิจารณา ประกอบด้วย

1.ทิศทางลมตั้งแต่ระดับล่างใกล้ผิวพื้นถึงความสูง 3.5กิโลเมตร เปลี่ยนทิศทางเป็นลมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดนำความชื้นจากทะเลอันดามันเข้าปกคลุมประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

2.ลมชั้นบนตั้งแต่ระดับความสูง 5 กิโลเมตรขึ้นไป เปลี่ยนทิศทางเป็นลมตะวันออกเฉียงเหนือ

3.มีฝนตกชุกต่อเนื่องและครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ