กรมส่งเสริมสหกรณ์ จับมือ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ผุดเครื่องมือ “Credit Lock” เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ
ปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือน นับเป็นอุปสรรคสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโต กรมส่งเสริมสหกรณ์ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่แนะนำส่งเสริม และกำกับดูแลสหกรณ์ออมทรัพย์ทั่วประเทศ ตระหนักถึงปัญหาความเดือดร้อนจากหนี้สินของสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ จึงได้ดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของลูกหนี้ ตามมติ ครม. เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. 66 ต่อแนวทางแก้ไขปัญหาหนี้สินประชาชนทุกภาคส่วน ซึ่งนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำหนดเป็นนโยบายหลักของรัฐบาลที่ต้องผลักดันให้เกิดการปรับโครงสร้างหนี้สินทั้งระบบ ภายใต้ปรัชญาที่ต้องไม่ขัดต่อวินัยทางการเงิน
ทั้งนี้กรมส่งเสริมสหกรณ์ได้ออกประกาศ เรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ และมีหนังสือขอความร่วมมือให้สหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่งลดดอกเบี้ยเงินกู้แก่สมาชิก ซึ่งมีสหกรณ์ออมทรัพย์หลายแห่งได้ดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินสมาชิกตามแนวทางที่กรมส่งเสริมสหกรณ์เสนอ รวมถึงมาตรการรวมหนี้ของสมาชิกจากสถาบันการเงินอื่นมาไว้ที่สหกรณ์โดยมีเงื่อนไขว่าสมาชิกจะไม่ก่อหนี้เพิ่ม โดยเล็งเห็นว่าการใช้เครื่องมือที่จะช่วยสร้างวินัยทางการเงินให้กับสมาชิก นับเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ทำให้สมาชิกรู้จักวางแผนการใช้จ่าย รู้จักประเมินความสามารถในการผ่อนชำระหนี้ของตนเองได้ และนำไปสู่การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี สอดคล้องไปกับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งแก้ไขปัญหาหนี้สินภาคครัวเรือนของประเทศให้หมดไป
โดยล่าสุดกรมส่งเสริมสหกรณ์ได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) ระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์ และบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) เพื่อให้การบริหารจัดการข้อมูลที่่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้สหกรณ์สามารถประเมินสถานการณ์ทางการเงินของสมาชิกได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ และเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ให้สามารถดำเนินการสร้างวินัยทางการเงินแก่สมาชิกได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้รับเกียรติจากเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นประธานสักขีพยาน พร้อมผู้บริหารกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้บริหารกรมส่งเสริมสหกรณ์ กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ผู้แทนสหกรณ์ออมทรัพย์ ร่วมเป็นเกียรติ ณ ห้องประชุม 115 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ถนนราชดำเนินนอก กรุงเทพมหานคร
นางสาวอนงค์นาถ จ่าแก้ว เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะประธานสักขีพยาน พิธีลงนามในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูลฯ เปิดเผยว่า ในยุคปัจจุบัน “ข้อมูล (Data)” ถือเป็นทรัพยากรที่มีคุณค่าและเป็นหัวใจสำคัญในการกำหนดทิศทางของการพัฒนา การบริหารจัดการข้อมูลที่่ถูกต้อง ครบถ้วน และทันสมัย ซึ่งจะช่วยให้สหกรณ์สามารถประเมินสถานการณ์ทางการเงินของสมาชิกได้อย่างแม่นยำ ช่วยลดความเสี่ยงในการปล่อยสินเชื่อ เพิ่มประสิทธิภาพในการกำกับดูแล และส่งเสริมความโปร่งใสในการดำเนินงานขององค์กรสหกรณ์
“กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการผลักดันให้เกิดการบริหารจัดการภาคสหกรณ์บนฐานข้อมูล โดยมุ่งหวังให้เกิดการวางแผนเชิงกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพ ตอบสนองต่อความต้องการของสมาชิก และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยความร่วมมือระหว่างกรมส่งเสริมสหกรณ์ และบริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ในวันนี้ จะช่วยให้หน่วยงานของรัฐสามารถเข้าถึงข้อมูลที่จำเป็นต่อการกำกับดูแล ซึ่งในขณะเดียวกัน สมาชิกสหกรณ์ก็จะได้รับบริการทางการเงินที่เหมาะสม และสอดคล้องกับศักยภาพตนเองอย่างแท้จริง” เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าว
ด้าน นายวิศิษฐ์ ศรีสุวรรณ์ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงความร่วมมือระหว่างสองหน่วยงานในวันนี้ ว่าทั้งสองหน่วยงานมีความเห็นร่วมกันที่จะสร้างความเข้มแข็งแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ให้สามารถดำเนินการสร้างวินัยทางการเงินแก่สมาชิกสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สิน โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์จะร่วมกับบริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด (NCB) ใช้เครื่องมือที่เรียกว่า “Credit Lock” นำส่งข้อมูลสมาชิกที่เข้าร่วมโครงการ และยินยอมที่จะรับเงื่อนไขไม่ก่อหนี้เพิ่ม ให้แก่บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ดำเนินการต่อ เพื่อให้การบริหารสินเชื่อของสหกรณ์มีความเหมาะสม รวมทั้งเป็นการเสริมสร้างวินัยทางการเงินแก่สมาชิก ซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างมั่นคงและยั่งยืนแก่สมาชิกสหกรณ์
“บันทึกข้อตกลงความร่วมมือในวันนี้ เป็นบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการข้อมูล รวมถึงส่งเสริมสนับสนุนการนำข้อมูลไปใช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการและตัดสินใจ โดยข้อมูลของสมาชิกสหกรณ์ที่นำมาใช้ประโยชน์จะเป็นไปตามประกาศ คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขสำหรับบริษัทข้อมูลเครดิตในการประมวลผลข้อมูลจากแหล่งข้อมูลที่เชื่อถือได้ ประกอบด้วย ชื่อ นามสกุล เลขประจำตัวประชาชน และวันที่เข้าร่วมโครงการฯ ภายใต้เงื่อนไขไม่ก่อหนี้เพิ่ม เพื่อให้สถาบันการเงินอื่นตระหนักในการพิจารณาให้สินเชื่อเพิ่มเติมแก่สมาชิกรายดังกล่าว จะเป็นการช่วยให้สมาชิกมีวินัยทางการเงินและส่งผลให้การบริหารสินเชื่อของสหกรณ์มีความเหมาะสมและยั่งยืน และหากสมาชิกดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินเรียบร้อยแล้ว สามารถดำเนินการยกเลิกเงื่อนไขไม่ก่อหนี้เพิ่มได้ ซึ่งกรมส่งเสริมสหกรณ์จะนำส่งข้อมูลวันที่สมาชิกออกจากโครงการเพื่อให้บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป” อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าว
ขณะที่นายสุรพล โอภาสเสถียร ผู้จัดการใหญ่ บริษัทข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด กล่าวว่า บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด มีความเชื่อมั่นว่าข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับสมาชิกสหกรณ์ได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยจะช่วยให้สมาชิกเห็นภาพรวมภาระหนี้ของตนเอง เพื่อให้สามารถบริหารจัดการภาระหนี้สินได้อย่างเหมาะสม เป็นไปตามศักยภาพที่สามารถชำระหนี้ได้ และไม่ก่อหนี้เกินตัว ทั้งนี้ บริษัท ข้อมูลเครดิตแห่งชาติ จำกัด เป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานทางการเงิน เป็นองค์กรหลักในการให้บริการข้อมูลเครดิตที่มีคุณภาพสำหรับสถาบันการเงิน รวมถึงส่งเสริมให้ประชาชนมีวินัยทางการเงิน เพื่อสร้างเสริมเสถียรภาพให้กับระบบเศรษฐกิจของประเทศ
ความร่วมมือครั้งนี้ ไม่เพียงแต่สร้างวินัยทางการเงินให้กับสมาชิกผ่านเครื่องมือ “Credit Lock” อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีเท่านั้น แต่ช่วยให้สหกรณ์ออมทรัพย์มีการบริหารสินเชื่ออย่างรับผิดชอบและเป็นธรรม เป็นที่พึ่งและความหวังให้สหกรณ์เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน