ภูมิธรรม โว ทลายแก๊งคอลฯ ในเมียนมาสำเร็จ หลังครบ 3 เดือน ตัดไฟ-น้ำมัน-สัญญาณเน็ต รับใช้มาตรการ 3 ตัด ชายแดนลาว-กัมพูชา เป็นเรื่องยาก
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 8 พ.ค. 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการประเมินมาตรการ 3 ตัด เพื่อตัดตอนขบวนการคอลเซ็นเตอร์ในประเทศเมียนมา หลังครบรอบ 3 เดือนว่า ประเด็นหลักอยู่ที่การส่งคนกลับในพื้นที่ประเทศแอฟริกา, ลาตินอเมริกา และเอธิโอเปีย ซึ่งยังไม่สามารถประสานประเทศต้นทางให้มารับคนกลับได้
แต่ก็มีการประสานมูลนิธิเอกชนให้เข้ามาช่วยผู้ประสบภัย รวมถึงจะมีการขยายดำเนินการส่งคนกลับให้มากขึ้นเนื่องจากการที่มีคนตกค้างจะเป็นปัญหา
นายภูมิธรรม กล่าวว่า มาตรการตัดการส่งออกไฟฟ้า น้ำมัน และสัญญาณอินเตอร์เน็ตไปยังประเทศเมียนมา ถือว่าเป็นประโยชน์และประสบความสำเร็จ และปัญหาตามแนวชายแดนแม่สาย จ.เชียงราย และแม่สอด จ.ตาก ถือว่าลดน้อยถอยลงไปมาก โดยมีการย้ายแหล่งไปยังพื้นที่อื่น
ส่วนปัญหาในประเทศกัมพูชาอยู่ระหว่างการประสานงานกัน แต่ก็ต้องติดตามดูเรื่องขบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยจะมีการประสานขอตัวการที่ใหญ่ขึ้น และเมื่อครบ 4 เดือนก็จะมีการประเมินสุดท้ายว่า จะขยายผลต่ออย่างไร แต่ยอมรับว่าปัญหาบริเวณแนวชายแดนลาวและกัมพูชาหากจะใช้มาตรการ 3 ตัดคงเป็นเรื่องยาก จะสามารถหาจากแหล่งอื่นได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า มาตรการ Seal Stop Safe นอกจากจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องขบวนการคอลเซ็นเตอร์และค้ามนุษย์แล้ว ยังสามารถแก้ไขปัญหาการปราบปรามยาเสพติด แต่เป็นขบวนการที่ใหญ่ และแทรกซึมไปทุกภาคส่วน มีกลุ่มนอกประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ก็สามารถจับกุมดำเนินคดีได้อยู่เรื่อยๆ คิดเป็นร้อยละ 60 จากที่เคยมีมา ถือว่าเป็นมาตรการที่ได้ผล และสิ่งสำคัญคือพยายามที่จะขยายผลไปยังตัวการใหญ่
เมื่อถามกรณีผู้ประกอบการตามแนวชายแดนมองว่ามาตรการ 3 ตัดไม่ได้ผล เมื่อเทียบกับผลกระทบที่ทำการส่งออกลดลง นายภูมิธรรม กล่าวว่า มีการประเมินว่าผู้ค้ารายย่อยไม่ได้รับผลกระทบมากนัก เนื่องจากมีความพยายามที่จะปิดท่าข้าม ซึ่งจะกระทบกับผู้ประกอบการบางส่วน
เนื่องจากท่าข้ามถือเป็นจุดโหว่ที่สุด การนำเข้าและส่งออกสินค้ายังเปิดตามปกติตามเส้นทางทางการ แต่สินค้าที่ควบคุม คือสินค้าประเภทที่จะนำไปสู่การใช้งานของกระบวนการคอลเซ็นเตอร์ โดยรวมจึงไม่น่าจะมีปัญหาอะไรมาก