มิเกล อาร์เตตา กุนซือใหญ่ อาร์เซน่อล ชี้ว่าทีมของตนไม่ได้มีอะไรที่เป็นรอง ปารีส แซงต์ แชร์แม็ง เลยแม้แต่น้อย แต่ต้องมาตกรอบด้วยสกอร์ที่ต่างกัน และประสิทธิภาพในกรอบเขตโทษที่ทีมคู่แข่งนั้นเฉียบคมกว่า

อาร์เซน่อล บุกพ่ายให้กับ เปแอสเช 1-2 ในรอบรองชนะเลิศ ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก 2024/25 เลกสอง (รวมผลสองนัด แพ้ 1-3)ทั้งที่ทีมมีโอกาสลุ้นประตูมากถึง 19 ครั้งในเกมนี้ แต่กลับเปลี่ยนเป็นสกอร์ไม่ได้ จนสุกท้ายต้องกระเด็นตกรอบ

“ขอแสดงความยินดีกับ เปแอสเช ที่เข้าถึงรอบชิงชนะเลิศ ผมจะประเมินลูกทีมของผมเมื่อผมใจเย็นลงหน่อย” อาร์เตตา เริ่มกล่าว

“เมื่อดูจาก 2 เกมที่ผ่านมา ผู้เล่นดีที่สุดในสนามคือผู้รักษาประตู เขาสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้ เราเกือบชนะแล้ว เกือบชนะมากกว่าที่ผลงานแสดงให้เห็น แต่โชคไม่ดีที่เราตกรอบ ผมภูมิใจในตัวผู้เล่นมาก”

“หลังผ่าน 20 นาที มันควรเป็น 3-0 มีความพิเศษบางอย่างที่คุณต้องมีในรายการนี้ แต่มันไม่มี เราเกือบชนะ และในช่วงเวลาส่วนใหญ่ของทั้ง 2 เกม เราทำได้ดีกว่าพวกเขามาก แต่เราทำไม่ได้ และมันเจ็บปวดมาก”

“ถ้าเราอยากคว้าแชมป์รายการนี้ เราต้องตระหนักถึงสิ่งนั้น มีบางอย่างที่เราต้องรับผิดชอบ คุณไม่ควรเข้าใจแค่ว่า เราตกรอบแล้ว นั่นไม่ใช่แนวทางที่ผมมองดู”

“ผมไม่คิดว่ามีทีมไหนที่ดีกว่าอาร์เซน่อลในรายการนี้ แต่เราตกรอบ รายการนี้เป็นเรื่องของกรอบเขตโทษ และในกรอบเขตโทษทั้ง 2 ฝั่งมีกองหน้าและผู้รักษาประตู ซึ่งพวกเขาดีที่สุดทั้ง 2 เกม”

“ผมภูมิใจในนักเตะมาก พวกเขาสมควรได้รับเครดิตอย่างมากสำหรับสิ่งที่พวกเขาทำในบริบทของสถานการณ์และการบาดเจ็บมากมาย ซึ่งอาจเป็นสถานการณ์แย่ที่สุดคุณจะมาถึงที่นี่ในฐานะทีม การมาที่นี่ในบริบทที่แตกต่างและยังคงทำเช่นนั้นได้ มันทำให้ผมมีแง่บวกมากมายสำหรับอนาคต แต่คืนนี้ผมเสียใจมาก”

“มั่นใจว่าสามารถคว้าถ้วยรางวัลได้? มันขึ้นกับสถานการณ์ตรงหน้า ย้อนกลับไปเมื่อ 2 ปีก่อนด้วยขุมกำลังกลุ่มนี้ ไม่มีใครเชื่อว่าพวกเขาจะสามารถแม้แต่ผ่านไปเตะชปล., ไม่มีใครเชื่อว่าจะสามารถเป็นรองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ หรือต่อกรท้าทายแชมป์”

“มองย้อนเรื่องจำนวนแต้มที่เราทำได้เมื่อ 1-2 ปีที่แล้ว หากเกิดซีซั่นนี้คงถึงแชมป์ลีก หรือผลงานชนะต่อเนื่องเป็นชุดๆ ฟอร์มที่แสดงออกมาบนชปล.หากถูกเวลาพวกเราก็จะไปได้ไกลกว่านี้”

“แต่ความเป็นจริงคือท้ายสุด คุณจำเป็นต้องเสียอะไรไป ซึ่งนั่นคือถ้วยรางวัลที่เราทำงานหนักเพื่อมัน นี่จึงน่าผิดหวังที่ไม่สามารถทำมันให้เกิดได้” นายใหญ่ชาวสแปนิช กล่าวปิดท้าย