รองผู้ว่าฯถก ‘รอยเลื่อนเสี่ยง’ ดีลกรมทรัพยากรธรณี ชี้จุดดินอ่อน – ดัน ‘เครื่องวัดดินไหว’ กลับสภากทม.
GH News May 08, 2025 06:22 PM

รองผู้ว่าฯ หารือรับมือ ‘รอยเลื่อนเสี่ยง’ เผย กรมทรัพยากรธรณี เล็งเช็กฐานรากมหานคร อีกครั้ง –เล็งประกอบร่าง ทุกความเชี่ยวชาญ เสริมความปลอดภัยให้เมืองหลวง – จ่อดึงเรื่อง ‘เครื่องวัดแรงสั่นในตึก’ กลับเข้าสภากทม.

เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม ที่ห้องประชุมกรมทรัพยากรธรณี ชั้น 1 อาคารเพชร กรมทรัพยากรธรณี เขตราชเทวี น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เข้าร่วมการหารือเพื่อการเตรียมความพร้อมและมาตรการรับมือเหตุแผ่นดินไหว โดยมี นายพิชิต สมบัติมาก อธิบดีกรมทรัพยากรธรณี เป็นประธานการหารือ

สำหรับประเด็นหารือการเตรียมความพร้อมและมาตรการรับมือเหตุแผ่นดินไหวระหว่างกันในวันนี้ ประกอบด้วย 1. รอยเลื่อนมีพลังที่มีความเสี่ยง 2.แนวทางความปลอดภัย กรณีเกิดแผ่นดินไหว และ 3.แนวทางลดผลกระทบและเตรียมความพร้อม กรณีเกิดแผ่นดินไหว

น.ส.ทวิดา รองผู้ว่าฯ เปิดเผยภายหลังการประชุมหารือว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาสะท้อนว่าอาคารในกรุงเทพฯ ที่ควบคุมโดย พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร มีความแข็งแรงกฎหมายใช้ได้ มีเพียงหนึ่งอาคารที่ถล่มซึ่งสาเหตุต้องไปหาว่าเกิดจากอะไร

“และจากเหตุการณ์นี้ทำให้เรามีความรู้กันมากขึ้นว่า ‘กรุงเทพมหานครเป็นดินอ่อน มีจุดต่ำ’ ซึ่งที่ผ่านมากรุงเทพมหานครได้จัดทำแผนที่เสี่ยงภัยกรุงเทพมหานคร แต่สัณฐานหรือองค์ประกอบข้างใต้ดินต้องอาศัยผู้มีความรู้อย่างกรมทรัพยากรธรณี

“ทั้งนี้ ความร่วมมือแรก คือทางกรมทรัพยากรธรณีอยากทำการสำรวจทบทวนกรุงเทพมหานครอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี อีกทั้งกรุงเทพมหานครเข้าร่วมโครงการ Resilient City ของ UN คือจะมีการวัดว่าเมืองเตรียมพร้อมและสามารถรับมือกับเรื่องต่างๆ ตลอดจนฟื้นกลับคืนได้ดีเพียงใด

โดยหนึ่งในแผนปฏิบัติการที่ กทม. มีอยู่คือเรื่องของแผ่นดินไหวและหรือภัยใดๆ ที่อาจจะก่อให้เกิดผลที่ตามมา ก็คืออาคารถล่ม ดังนั้นเมื่อเราพูดถึงอาคารจะเกี่ยวกับฐานรากข้างล่างด้วย ซึ่งกรมทรัพยากรธรณีมีความรู้และความเชี่ยวชาญมาก” น.ส.ทวิดาเผย

น.ส.ทวิดากล่าวต่อไปว่า ความร่วมมือเรื่องที่ 2 คือ จากการรับฟังข้อมูลของผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น ซึ่งเป็นประเทศที่มีความรู้เรื่องนี้สูงและมีนวัตกรรมมากมาย สิ่งที่เขานำเสนอเป็นเรื่อง ‘การปรับอาคารที่มีอยู่เดิมให้แข็งแรงขึ้น’ การทำให้อาคารยืดหยุ่นมากขึ้น หรือการทำให้อาคารมีอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงรูปแบบการสื่อสารด้วย เขามีความรู้ในเรื่องของการวิเคราะห์สูง

“ดังนั้นสิ่งที่ กทม. ทำอยู่น่าจะสามารถแลกเปลี่ยนความรู้ ในแง่การวิเคราะห์ทำให้เมืองปลอดภัย เพราะเมื่อเราร่วมมือกับกรมทรัพยากรธรณี ก็สามารถครอบคลุมไม่ใช่เพียงเรื่องแผ่นดินไหว แต่รวมถึงภัยอื่นๆ ด้วย”

ทั้งนี้ สิ่งที่ กทม. ต้องการคือ ‘เครื่องวัดแรงสั่นสะเทือนในอาคารสูง’ โดยเฉพาะติดตั้งในโรงพยาบาล เรายังคงเดินหน้าเสนอเรื่องเข้าสภากรุงเทพมหานครอีกครั้ง กรุงเทพมหานครดูแลโรงพยาบาล 12 แห่ง ซึ่งมีอาคารสูงรวมถึงหอพักแพทย์พยาบาลด้วย โดย วชิรพยาบาล มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช อาจสามารถใช้งบวิจัยบางส่วนดำเนินการนำร่องไปก่อนได้ อีกแห่งที่ติดตั้งแล้วอยู่ที่อาคารธานีนพรัตน์ หากในอนาคตเรามีเครื่องมือเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ต่ออาคารที่มีกลุ่มเปราะบางและสามารถเรียกความเชื่อมั่นได้ด้วย

“เมื่อมองกรุงเทพฯ หรือมองประเทศไทย เหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมาสะท้อนให้เห็นว่าการบังคับใช้กฎหมายและอาคาร รวมถึงการศึกษาของกรมทรัพยากรธรณีเดิม ว่าจุดใดเป็นดินอ่อน ดินแข็ง จุดใดปลอดภัย ที่ผ่านมาเราทำได้ดี ถ้าไม่นับรวมอาคารที่มีปัญหาถือว่าประเทศไทยใช้ได้เลย เรามีคนมีความรู้ ผู้เชี่ยวชาญ พร้อมด้วยเครื่องมือ ต้องนำออกมาใช้และให้ความสำคัญ ประกอบกับระบบเตือนภัย Cell Broadcast ก็ทดสอบแล้ว ถึงเวลาที่ต้องนำทุกอย่างมาประกอบร่างกัน และร่วมมือกันอย่างจริงจังเพื่อทำให้เมืองเราปลอดภัย” น.ส.ทวิดา กล่าวทิ้งท้าย

ในการนี้ คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่น สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สมาคมโรงแรมไทย และสมาคมอาคารชุดไทย ร่วมการหารือ

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image
© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.