ดร.หนุ่มลงสนามท้าชน’แชมป์เก่า’
วัดพลังพรรคส้ม-บ้านใหญ่’นครสุราษฎร์’

การเลือกตั้งเทศบาลพร้อมกันทั่วประเทศในรอบนี้ พื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรี และสมาชิกสภาเทศบาล (ส.ท.) รวม 40 แห่ง แยกเป็นเทศบาลตำบล 34 แห่ง เทศบาลเมือง 4 แห่ง ได้แก่ เทศบาลเมืองดอนสัก เทศบาลเมืองนาสาร เทศบาลเมืองท่าข้าม เทศบาลเมืองเวียงสระ และเทศบาลนคร 2 แห่ง คือ เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี กับเทศบาลนครเกาะสมุย โดยพื้นที่มีการแข่งขันสูงมาโดยตลอด คือ สนามเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เพราะเป็นเทศบาลขนาดใหญ่ มีงบประมาณบริหารมาก ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา มักมีคนการเมืองจากเครือข่ายบ้านใหญ่ และพรรคการเมือง เสนอตัวอาสาเข้ามาบริหารงานเทศบาลอยู่เสมอ

เทศบาลนครสุราษฎร์ธานี มีพื้นที่ 68.97 ตารางกิโลเมตร มีประชากรตามทะเบียนกว่า 1.3 แสนคน มีงบประมาณบริหารกว่า 1,400 ล้านบาท ในปีล่าสุด สำหรับการเลือกตั้งในวันที่ 11 พฤษภาคมนี้ มีผู้สมัครนายกเทศมนตรีเพียง 2 ราย คือ หมายเลข 1 นายประเสริฐ บุญประสพ กลุ่มสุราษฎร์ก้าวหน้า และหมายเลข 2 นายเธียรทัศน์ เอี่ยมตระกูล ทีม ดร.อาร์ ถือเป็นการแข่งขันระหว่างคนสองวัย ของ “เครือข่ายการเมืองเก่า กับพลังคนรุ่นใหม่ หรือหน้าใหม่ไฟแรง”

รายแรกเป็นแชมป์เก่า น้าแป๊ะ หรือนายกแป๊ะ ประเสริฐ บุญประสพ วัย 63 ปี นอกจากเป็นอดีตนายกเทศมนตรีสมัยที่ผ่านมาแล้ว ยังเป็นน้องชาย “ป้าโส โสภา กาญจนะ” นายก อบจ.สุราษฎร์ธานีคนล่าสุดที่เพิ่งทวงเก้าอี้คืนให้กลุ่มบ้านใหญ่เมืองสุราษฎร์ได้สำเร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นอกจากนี้นายกแป๊ะเคยสร้างประวัติศาสตร์ ล้มแชมป์เก่า 2 สมัย อย่าง “ธีระกิจ หวังมุทิตากุล” ในการเลือกตั้งสมัยที่ผ่านมา ว่ากันว่ามาจากฐานเสียงสนับสนุนที่แข็งแกร่งของป้าโส และกลุ่มการเมืองเดิม ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ในการลงสนามครั้งนี้ นายกแป๊ะ ฝ่ายถูกท้าชิง และต้องป้องกันแชมป์ไว้ให้ได้ หากรักษาเก้าอี้ไว้ได้ ถือว่าบ้านใหญ่เมืองสุราษฎร์จะสามารถยึดครอง อปท.ใหญ่ของจังหวัด และแน่นอนว่าย่อมจะเป็นฐานเสียงสำคัญของการเลือกตั้ง ส.ส.ในอีก 2 ปีข้างหน้า

ลงสนามครั้งนี้ นายกแป๊ะชูสโลแกน “เพื่อชีวิตที่ดีกว่า” ประสานใจ พัฒนาอย่างมืออาชีพ ด้วยนโยบาย 9 นคร พัฒนายั่งยืน ซึ่งได้แก่ นครน่าเที่ยว ต้อนรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ โดยจะพัฒนาบึงขุนทะเล ทำการท่องเที่ยวรูปแบบ วันเดย์ทริป จัดทริปท่องเที่ยวภายใน 1 วัน โดยใช้สุราษฎร์ธานีเป็นศูนย์กลาง, นครเลิศรส พัฒนาปรับปรุงคุณภาพร้านอาหาร ใช้หลักการ ‘คลีน ฟู้ด กู๊ด เทสต์’, นครสะอาด จัดการภูมิทัศน์และสภาพแวดล้อมภายในพื้นที่ให้สวยงาม, นครสะดวก พัฒนาและปรับปรุงเส้นทางคมนาคม เชื่อมโยงโครงข่ายการคมนาคมกับพื้นที่ใกล้เคียง, นครสุขภาพ ยกระดับคุณภาพชีวิต ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจ ส่งเสริมประชาชนมีความรู้ในการดูแลสุขภาพ จัดบริการส่งเสริมสุขภาพการป้องกันโรคเชิงรุกในชุมชนและสถานศึกษาอย่างทั่วถึง

นครมีสุข ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนาท้องถิ่น เสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชน เสริมสร้างองค์ความรู้ พัฒนาศักยภาพของผู้นำชุมชน พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสในชุมชน, นครปลอดภัย ยกระดับความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน, นครของโอกาส ส่งเสริมการศึกษาเด็กและเยาวชน สนับสนุนงบประมาณแก่สถานศึกษา ส่งเสริมกิจกรรมการเรียนรู้ทั้งในและนอกห้องเรียน และนครประเพณีดีงาม อนุรักษ์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม และเปิดให้เยาวชนได้เรียนรู้ประเพณี ควบคู่กับการร่วมอนุรักษ์ตามทิศทางของสังคม นอกจากนี้ ยังเน้นหลักสูตรส่งเสริมเทคโนโลยี และกรีน เอ็นไวรอนเมนต์ โดยเชื่อว่าเป็นแนวโน้มสำคัญในโลกอนาคต

ด้านคู่แข่ง หมายเลข 2 ดร.อาร์ หรือเธียรทัศน์ เอี่ยมตระกูล ดอกเตอร์หนุ่มวัย 37 ปี หัวหน้าทีม ดร.อาร์ ลงสมัครในนามพรรคประชาชน ถือเป็นผู้สมัครรุ่นใหม่ มากคุณวุฒิ จบการศึกษาระดับปริญญาเอก สาขาการเมือง จากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ที่มีพลังและความกระตือรือร้น แม้เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ในสนามการเมือง แต่ชาวบ้านชาวเมืองทั่วไปต่างคุ้นหน้าคุ้นตา นามสกุลคุ้นหู เพราะเป็นบุตรชาย “ธีระยุทธ เอี่ยมตระกูล” อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีและตรัง ซึ่งมีสายสัมพันธ์เหนียวแน่นทั้งในแวดวงราชการและการเมืองท้องถิ่นไม่แพ้กัน ยิ่งกว่านั้นยังมีเสียงสนับสนุนจากกลุ่มคนรุ่นใหม่ พรรคประชาชน และประชาชนที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง หรือเบื่อหน่ายระบบการเมืองแบบเก่า

ดร.อาร์ เธียรทัศน์ เห็นว่าการบริหารงานของอดีตผู้บริหารตลอดช่วง 4 ปี ยังไม่ตอบสนองต่อความต้องการเท่าที่ควร จึงเสนอตัวเป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการการเปลี่ยนแปลง เน้นการบริหารงานที่ความโปร่งใส ยึดหลักการมีส่วนร่วมของประชาชน “ประชาชนคิด ประชาชนทำ เทศบาลสนับสนุน” ส่วนนโยบายการบริหารนอกจากการพัฒนาและแก้ปัญหาด้านต่างๆ ในพื้นที่ตามภารกิจแล้ว ยังเน้นการสนับสนุนเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลนำมาใช้ประโยชน์ต่อการบริหาร

ขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจในชุมชน ทั้งด้านการพัฒนาสุขภาพสุขภาวะที่ดีของชุมชน ด้านการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของชุมชน ด้านการตลาดดิจิทัลและกระบวนการผลิตในระดับชุมชน ส่งเสริมตลาดออนไลน์ ด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชน ที่สำคัญส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็ง เพราะมีส่วนสำคัญต่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การคิดแก้ปัญหาและร่วมกันออกแบบจากคนในชุมชนสามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้ทุกช่วงวัย “โดยไม่จำกัดวงเงินงบประมาณ มีเป้าหมาย เพื่อสร้างโอกาสและส่งเสริมอาชีพ”

เทียบฟอร์มของผู้สมัครทั้ง 2 ราย มีนโยบายการพัฒนาที่ครอบคลุมภารกิจของเทศบาล มีจุดเด่นที่แตกต่างและน่าสนใจไม่แพ้กัน ด้วยการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่ใช่เพียงการชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเท่านั้น แต่ยังเป็นภาพสะท้อนการต่อสู้ระหว่างการเมืองกลุ่มการเมืองเดิมและนักการเมืองหน้าใหม่ หากผู้ใดสามารถคว้าใจชาวบ้านได้สำเร็จ นั่นคือ ผู้กำหนดทิศทาง และอนาคตของเทศบาลนครสุราษฎร์ในห้วง 4 ปีนับจากนี้