บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล หรือ HENG ภายใต้แบรนด์ “เฮงลิสซิ่ง” เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 52 ล้านบาท เติบโต 132% หลังบริหารค่าใช้จ่าย-ควบคุมคุณภาพหนี้ ตั้งเป้าปี 68 ขยายพอร์ตกลุ่มสินเชื่อเพื่อการเกษตร-เครื่องใช้ไฟฟ้า ดันพอร์ตเกษตรเป็น 10% ภายในปี 69 ชี้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ กนง. ช่วยลดต้นทุนทางการเงิน บรรเทาภาระหนี้ของลูกค้า
นายวิชัย ศุภสาธิตกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ HENG หนึ่งในผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการสินเชื่อรายใหญ่ของประเทศไทยภายใต้แบรนด์ “เฮงลิสซิ่ง” เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 (มกราคม – มีนาคม) ในช่วงที่ผ่านมา บริษัท มุ่งมั่นสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ผ่านกลยุทธ์การปรับโครงสร้างการดำเนินงาน เพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งสะท้อนผ่านผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง
โดยบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิที่ 52 ล้านบาท เติบโต 132% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) ขณะที่รายได้รวมอยู่ที่ 599 ล้านบาท ชะลอตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากการมุ่งโฟกัสคุณภาพพอร์ตสินเชื่อ และเข้มงวดต่อการปล่อยสินเชื่อใหม่อย่างต่อเนื่อง แม้รายได้รวมจะปรับตัวลดลงเล็กน้อย แต่การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ผลักดันให้กำไรสุทธิของบริษัทฯ เติบโตอย่างแข็งแกร่ง
สำหรับแผนกลยุทธ์ปี 2568 บริษัทเน้นกลยุทธ์หลัก 3 ประการ ได้แก่ 1.การควบคุมคุณภาพลูกหนี้ ผ่านการเพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นคงระยะยาว แม้จะส่งผลให้พอร์ตสินเชื่อหดตัวในระยะสั้น แต่เป็นการวางรากฐานสำหรับการเติบโตที่ยั่งยืน 2.การขยายธุรกิจในกลุ่มที่มีศักยภาพ มุ่งเน้นสินเชื่อเกษตรซึ่งมีคุณภาพค่อนข้างดี
โดยในปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายสินเชื่อเพื่อการเกษตรให้เติบโต 5% และเพิ่มขึ้นเป็น 10% ภายในปี 2569 ขณะเดียวกันบริษัทมุ่งขยายไปสู่สินเชื่อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังเติบโต โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศที่มีความต้องการสูงขึ้นจากปัญหามลภาวะทางอากาศ ซึ่งการขยายไปสู่กลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพและมีการเติบโตสูงจะช่วยสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
และ 3.การควบคุมค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านการปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับและเหมาะสมกับขนาดธุรกิจ บริหารจัดการสาขาแบบกลุ่มงาน เพื่อใช้ทรัพยากรบุคคลให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมทั้งพัฒนาทรัพยากรบุคคลของบริษัทให้มีความสามารถในการบริหารจัดการสาขามากขึ้น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันการเติบโต
ทั้งนี้ การปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายล่าสุดของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จาก 2.00% เป็น 1.75% ส่งผลดีโดยรวมต่อบริษัทในด้านต้นทุนทางการเงินที่ลดลง ช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านราคาในตลาดสินเชื่อ อีกทั้งภาวะดอกเบี้ยที่ลดลงช่วยบรรเทาภาระหนี้ของลูกค้า กระตุ้นความต้องการสินเชื่อในภาพรวม โดยเฉพาะในกลุ่มสินเชื่อเกษตรและเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายตามกลยุทธ์ของบริษัท และถือว่าเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับนโยบายการควบคุมคุณภาพลูกหนี้ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทฯ มีโอกาสที่จะสร้างการเติบโตของกำไรอย่างต่อเนื่อง แม้จะอยู่ในภาวะเศรษฐกิจที่ท้าทาย
“ผลประกอบการไตรมาสแรกของปี 2568 สะท้อนความสำเร็จจากการปรับกลยุทธ์ของ HENG แม้จะคงความเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อ ทำให้รายได้ชะลอตัวลงเล็กน้อย แต่การบริหารค่าใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพทำให้กำไรเติบโตแข็งแกร่ง เรามุ่งเน้นคุณภาพลูกหนี้ ขยายธุรกิจในกลุ่มสินเชื่อเกษตรและเครื่องใช้ไฟฟ้า พร้อมปรับโครงสร้างองค์กรให้กระชับ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายวิชัย กล่าว