‘เคทีซี’ ปรับกลยุทธ์รูดปรื๊ด เจาะลูกค้าพันธมิตรแก้เกมตลาดแผ่ว
SUB_NOI May 09, 2025 08:20 AM
คอลัมน์ : สัมภาษณ์

ภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้ามาหลายปี ประกอบกับหนี้ครัวเรือนที่อยู่ระดับสูง จนทางการต้องเข้มงวดการปล่อยสินเชื่อ ทำให้สินเชื่อส่วนบุคคลติดลบมาต่อเนื่อง ขณะที่ปี 2568 นี้ มีความเสี่ยงสำคัญจากสงครามการค้าเข้ามา ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยยังลูกผีลูกคน

แน่นอนว่าจะเป็นอีกปีที่ธุรกิจสินเชื่ออุปโภคบริโภค อย่างธุรกิจบัตรเครดิต จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ภาพจะเป็นอย่างไร “ประชาชาติธุรกิจ” ได้มีการโอกาสพูดคุยกับ “พิชามน จิตรเป็นธรรม” ผู้บริหารสูงสุด สายงานสินเชื่อบุคคล บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ เคทีซี ถึงปัจจัยต่าง ๆ ในปีนี้

สินเชื่อบุคคลโตติดลบต่อเนื่อง

“พิชามน” ฉายภาพว่า ปีนี้คาดภาพรวมสินเชื่อส่วนบุคคล (Personal Loan) จะทรงตัว หรือโตไม่เกิน 1% เนื่องจากลูกหนี้ยังมีสัดส่วนภาระหนี้ที่ค่อนข้างสูง รวมถึงคุณภาพหนี้ที่ยังเป็นประเด็นที่ต้องติดตามใกล้ชิด ซึ่งจากข้อมูลธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ล่าสุด ณ เดือน ก.พ. 2568 ยอดสินเชื่อคงค้างบัตรเครดิตอยู่ที่ 4.6 แสนล้านบาท หดตัว -2.6% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันปีก่อน (YOY)

ขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ มียอดสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 8.56 แสนล้านบาท เติบโต 1.2% แบ่งเป็น สินเชื่อส่วนบุคคล 4.76 แสนล้านบาท หดตัว -5.6% และสินเชื่อส่วนบุคคลที่มีทะเบียนรถเป็นประกันอยู่ที่ 3.75 แสนล้านบาท เติบโต 7.5% แต่เป็นการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง จากเดิมจะขยายตัวเป็นตัวเลข 2 หลัก

“จะเห็นว่าสินเชื่อส่วนบุคคลเติบโตติดลบในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า ภาระหนี้ที่อยู่ในระดับสูง ส่งผลให้สถาบันการเงินควบคุมการปล่อยสินเชื่อ สำหรับเคทีซีไม่ได้ต้องการเติบโตแบบหวือหวา แต่ต้องรักษาคุณภาพหนี้และพอร์ตสินเชื่อให้มีคุณภาพ”

ปีนี้ตั้งเป้าโตแบบระมัดระวัง

สำหรับปี 2568 บริษัทตั้งเป้าเติบโตที่ระดับ 3% ซึ่งไตรมาสแรก บริษัทมียอดสินเชื่อคงค้างของสินเชื่อส่วนบุคคลและจำนำทะเบียนอยู่ที่ 3.48 หมื่นล้านบาท หรือเติบโต 5.2% เฉพาะสินเชื่อส่วนบุคคลโต 0.6% ฐานลูกค้าอยู่ที่ราว 7 แสนราย หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 2.5% เพิ่มจากสิ้นปี 2567 อยู่ที่ 3.4%

“ทิศทางสินเชื่อส่วนบุคคลที่เหลือของปีนี้อาจจะต้องดูภาพรวมเศรษฐกิจที่จะดีขึ้นหรือไม่ เพราะคนจะต้องมีรายได้ เศรษฐกิจจะได้หมุนและหนุนการเติบโตที่ดีขึ้น ปีนี้เราตั้งเป้า 3% น่าจะทำได้ตามเป้า แต่เป็นการเติบโตอย่างระมัดระวัง และขยายในกลุ่มที่มีความสามารถในการชำระหนี้ หรือกลุ่มนักศึกษาจบใหม่ แต่เป็นกลุ่มที่มีอาชีพมั่นคงทางรายได้ เช่น หมอ พยาบาล หรือวิศวะ เป็นต้น”

ผนึกพาร์ตเนอร์เจาะกลุ่มเฉพาะ

“พิชามน” เล่าว่า กลยุทธ์สำคัญในการเติบโตพอร์ตสินเชื่อในปีนี้ คือ การเพิ่มช่องทางการหาลูกค้าใหม่ จากเดิมเคทีซีจะมีช่องทางการหาลูกค้าใหม่ผ่าน KTC Touch สาขาธนาคารกรุงไทย และไดเร็กต์เซล ซึ่งปีนี้จะขยายช่องทางในการรับสมัครสินเชื่อมากขึ้น โดยใช้จุดแข็งที่มี คือ ร้านค้าพันธมิตร (Partner) ผ่านกลยุทธ์การขยายฐานลูกค้าผ่านร้านค้าพันธมิตร ซึ่งเป็นการใช้สินเชื่อแบบมีวัตถุประสงค์ชัดเจน ช่วยควบคุมความเสี่ยงได้

เบื้องต้นในเฟสแรก จะร่วมมือกับ 4 พันธมิตรร้านค้า กว่า 1,400 แห่ง ได้แก่ เอไอเอส (AIS) ที่มีสาขากว่า 400 แห่ง ทรูช็อป (True Shop) จำนวน 524 แห่ง แอดไวซ์ (Advice) 121 แห่ง และทีจี (TG) อีก 215 แห่ง เปิดจุดรับสมัครบัตรกดเงินสด “เคทีซี พราว” ผ่าน e-Application โดยลูกค้าที่มีความต้องการผ่อนสินค้าแต่มีเงินไม่พอ สามารถขอสมัคร ณ จุดขายได้

ซึ่งจะรู้ผลภายใน 30 นาที ทั้งนี้ การพิจารณาจะเป็นไปตามเกณฑ์ Credit Scoring และเกณฑ์ ธปท. หากได้รับการอนุมัติลูกค้าสามารถรับสินค้าได้เลย พร้อมรับโปรโมชั่นสุดคุ้ม ผ่อน 0% นานสูงสุด 24 เดือน

“การดูแลคุณภาพหนี้ เคทีซีใช้ระบบเครดิตสกอริ่งมาระยะหนึ่งแล้ว โดยตัว AI จะทำหน้าที่กรองข้อมูลเบื้องต้น ประกอบกับการตรวจทานจากคนอีกชั้นหนึ่ง เป็นการผสมกันระหว่าง AI และคน เพื่อให้ทั้งรวดเร็วและถูกต้อง วงเงินตามคุณภาพลูกหนี้ และเป็นไปตามที่ ธปท.กำหนด โดยหากรายได้เกิน 3 หมื่นบาท วงเงินได้ 5 เท่าของรายได้ บนภาระหนี้ที่ไม่เกินกว่าที่เรากำหนดเป็นไปตามเกณฑ์ให้สินเชื่ออย่างมีความผิดรับชอบ”

ชูกลยุทธ์ใหม่ขยายฐานลูกค้า

“พิชามน” กล่าวอีกว่า ในระยะถัดไปเคทีซีจะขยายไปสู่ร้านค้าพันธมิตรกลุ่มอื่นนอกจากกลุ่มสมาร์ทโฟน โดยอยู่ระหว่างเจรจากลุ่มอุปกรณ์ในหมวดยานยนต์ ค่ารักษาพยาบาล และอื่น ๆ ที่มีขนาดวงเงินค่อนข้างใหญ่ โดยโฟกัสที่ฐานลูกค้าพันธมิตรเป็นหลัก

ซึ่งคาดหวังว่าจะช่วยให้คุณภาพสินเชื่อดีขึ้น เพราะการผิดนัดชำระหนี้จะน้อยกว่ากลุ่มลูกค้าทั่วไป และวงเงินเฉลี่ยในการอนุมัติผ่านช่องทางผ่านร้านค้าพันธมิตรโดยเฉลี่ยจะสูงกว่าช่องทางอื่นราว 50% ทำให้ภาพรวมพอร์ตสินเชื่อโดยรวมของเคทีซีจะเริ่มดีขึ้น ภายใต้การปรับเปลี่ยนกลยุทธ์นี้

ส่วนลูกค้าเดิมที่มีอยู่ราว 7 แสนราย ซึ่งเป็นลูกค้าที่มีคุณภาพ เคทีซีจะพยายามสนับสนุนให้เกิดการใช้บัตร โดยทำให้ฟีเจอร์ “รูด โอน กด ผ่อน” ทำได้สะดวกมากขึ้น รวมถึงการช่วยลูกค้าแบ่งเบาภาระหนี้ผ่านโครงการ “เคลียร์หนี้” ที่จัดต่อเนื่องมาแล้วถึง 15 ปี

“เฟสแรก เราเพิ่งเริ่มทำกับร้านค้ามือถือไม่นาน ปัจจุบันมีลูกค้าที่ได้รับอนุมัติสินเชื่อแล้วกว่า 200 ราย ปีนี้เราคาดว่าจะมีลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นจากพันธมิตรร้านค้า 1,000 ราย สินเชื่อราว 40-50 ล้านบาท ดังนั้น กลยุทธ์นี้จะมาเป็นส่วนเสริมในการทำธุรกิจของเราให้ดีขึ้น”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.