การบินไทย โชว์กำไรไตรมาส 1/68 เติบโต 9.8 พันล้าน เตรียมหวนเข้าตลาดหลักทรัพย์

เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ประธานคณะผู้บริหารแผนฟื้นฟูกิจการ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 2568 มีรายได้รวม (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) 51,625 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน (2567) โดยมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสาร (Cabin Factor) 83.3% ใกล้เคียงปีก่อน ปัจจัยหลักมาจากความต้องการเดินทางที่เพิ่มขึ้น การขยายฝูงบินและเพิ่มเที่ยวบิน ส่งผลให้ปริมาณการผลิต (ASK) เพิ่มขึ้น 21.1% และปริมาณขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 20.8% จากจำนวนผู้โดยสารรวม 4.33 ล้านคน เพิ่มขึ้น 11.6%

ค่าใช้จ่ายรวมอยู่ที่ 37,964 ล้านบาท (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) เพิ่มขึ้น 8.8% ตามปริมาณการให้บริการที่เพิ่มขึ้น แม้ต้นทุนน้ำมันจะลดลง 1.7% การบินไทยยังคงสามารถรักษากำไรจากการดำเนินงานก่อนต้นทุนทางการเงิน (ไม่รวมรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว) ได้ที่ 13,661 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,586 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไร (EBIT Margin) 26.5%

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า แม้จะมีต้นทุนทางการเงินตามมาตรฐาน TFRS 9 จำนวน 3,481 ล้านบาท และขาดทุนจากรายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียวสุทธิ 339 ล้านบาท แต่บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 9,839 ล้านบาท และ EBITDA หลังหักค่าใช้จ่ายจากสัญญาเช่าเครื่องบินรวม 12,728 ล้านบาท

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ฝูงบินของการบินไทย ปัจจุบันมี 78 ลำ เพิ่มขึ้น 5 ลำจากปีก่อน โดยมีอัตราใช้เครื่องบินเฉลี่ย 13.7 ชั่วโมงต่อวัน บริษัทมีแผนรับมอบ Airbus A321 Neo เพิ่มเติม พร้อมให้บริการ Wi-Fi ฟรีแก่สมาชิก Royal Orchid Plus และทยอยติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงบนเครื่องบินแบบ A330-300

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2568 บริษัทมีสินทรัพย์รวม 297,753 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.8% โดยมีเงินสดและหลักทรัพย์ระยะสั้นรวม 124,847 ล้านบาท ขณะที่หนี้สินรวมลดลง 1.9% เหลือ 242,314 ล้านบาท ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้น 21.6% เป็น 55,439 ล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ปรับลดเหลือ 4.37 เท่า จาก 20.66 เท่าในสิ้นปี 2562 สะท้อนผลสำเร็จจากการฟื้นฟูกิจการ

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 บริษัทลดมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นจาก 10 บาท เหลือ 1.30 บาท เพื่อชดเชยผลขาดทุนสะสม ส่งผลให้บริษัทมีผลกำไรสะสมตามงบการเงินเฉพาะกิจการ 9,555 ล้านบาท อาจเปิดทางสู่การจ่ายเงินปันผลในอนาคต

นายปิยสวัสดิ์ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน คณะผู้บริหารแผนฯ ได้อนุมัติการเลิกกิจการสายการบินไทยสมายล์ หลังปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจเสร็จสมบูรณ์ โดยรับโอนเครื่องบิน Airbus A320 ทั้งหมดเข้าฝูงบินของการบินไทย และยุติการให้บริการไทยสมายล์ตั้งแต่ 1 มกราคม 2567 ซึ่งช่วยให้เส้นทางบินที่เดิมขาดทุนกลับมามีกำไร

ล่าสุด เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 การบินไทยได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายกลางขอเลิกแผนฟื้นฟูกิจการ หลังปฏิบัติตามแผนเสร็จสิ้นครบถ้วน ศาลนัดไต่สวนคำร้องในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 เวลาโดยบริษัทฯ จะแจ้งความคืบหน้าอีกครั้ง