TRUE เปิดผลประกอบการ Q1/2568 รายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย 4.13 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิ 1.6 พันล้านบาท นับเป็นครั้งแรกที่รายงานกำไรสุทธิตั้งแต่ควบรวมกิจการ
รายงานข่าวจาก บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) เปิดเผยว่า ในไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการไม่รวมค่าเชื่อมต่อโครงข่าย (IC) 4.13 หมื่นล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 0.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน EBITDA 2.53 หมื่นล้านบาท และกำไรสุทธิหลังหักภาษี (NPAT) 1.6 พันล้านบาท
ส่วนจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 638,000 เลขหมาย หรือ 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้ามาอยู่ที่ 48.8 ล้านเลขหมาย โดยเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ลดลง 4.4% ซึ่งเป็นผลจากกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการเพิ่มผู้ใช้บริการที่มีคุณภาพในช่วงปี 2567
ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 ผู้ใช้บริการระบบรายเดือนเพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน อยู่ที่ 15.3 ล้านเลขหมาย ผู้ใช้บริการระบบเติมเงินลดลง 2.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน มีจำนวน 33.5 ล้านเลขหมาย ซึ่งเป็นผลจากปัจจัยตามฤดูกาล สำหรับผู้ใช้บริการออนไลน์เพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนอยู่ที่ 3.8 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 1/2568 ผู้ใช้บริการ 5G เพิ่มขึ้นเป็น 14.2 ล้านเลขหมาย
นายซิกเว่ เบรกเก้ ประธานคณะผู้บริหารกลุ่ม บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า การผนวกรวมทรูและดีแทคเข้าด้วยกันถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในการรวมสองผู้นำในอุตสาหกรรมโทรคมนาคมเข้าเป็นหนึ่งเดียว ภายใต้เป้าหมายที่ชัดเจนในการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงาน การรักษาวินัยทางการเงิน และการสร้างคุณค่าและผลประโยชน์ร่วมกัน (Synergy)
“เราได้ปรับปรุงเครือข่ายของเราให้ทันสมัย ผสานเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เข้ามาเสริมประสบการณ์ในทุกช่องทางการให้บริการลูกค้า และที่สำคัญเราได้สร้างทีมที่เป็นหนึ่งเดียวกันด้วยเป้าหมายร่วมกัน ที่พร้อมขับเคลื่อนการทำงานให้เร็วขึ้นและสร้างความร่วมมือที่แข็งแกร่ง”
ด้านนายนกุล เซห์กัล หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านการเงิน (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น กล่าวว่า ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้บรรลุเป้าหมายที่สำคัญในไตรมาสแรกของปี 2568 โดยเป็นครั้งแรกที่รายงานกำไรสุทธินับตั้งแต่การควบรวมกิจการ บริษัทสามารถสร้างกำไรสุทธิหลังหักภาษี 1.6 พันล้านบาท สะท้อนถึงความมุ่งมั่นที่บริษัทได้ให้คำมั่นสัญญาไว้กับผู้ถือหุ้น
ทั้งนี้ บริษัทยังคงรักษาแนวโน้มการทำกำไรไว้ได้อย่างต่อเนื่อง โดย EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสนี้ แม้จะมีความท้าทายจากรายได้รวมที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยตามฤดูกาล
ในแง่ของรายได้จากการให้บริการ มีแรงหนุนจากการเติบโตของของรายได้ในกลุ่มธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และธุรกิจออนไลน์ ในขณะที่รายได้ของกลุ่มธุรกิจโทรทัศน์บอกรับสมาชิกลดลง ส่วนรายได้จากการให้บริการในไตรมาส 1/2568 ได้รับผลกระทบจากปัจจัยตามฤดูกาล และรายได้จากการโรมมิ่งภายในประเทศที่ลดลง
อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมผลกระทบดังกล่าว รายได้จากการให้บริการปรับตัวดีขึ้น 0.3% เมื่อเทียบกับปีก่อน และไตรมาสก่อน ทรู คอร์ปอเรชั่น รายงานรายได้รวมเติบโต 0.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน การปรับตัวดีขึ้นของรายได้จากการขายผลิตภัณฑ์เทียบกับไตรมาส 1/2567 ได้รับผลกระทบบางส่วนจากรายได้ค่าเช่าเครือข่ายที่ลดลงอันเป็นผลจากการโอนย้ายผู้ใช้บริการออกจากคลื่น 850 MHz ซึ่งจะหมดอายุสัมปทานในเดือนสิงหาคม 2568
สำหรับไตรมาส 1/2568 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (ไม่รวมค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย หรือ D&A) ลดลง 5.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน ต้นทุนเครือข่ายลดลง 4.8% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปัจจัยหลักจากการรับรู้ผลประโยชน์จากการดำเนินการพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัยและการจัดซื้อจัดจ้าง ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร (SG&A) ลดลง 16.9% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับผลประโยชน์จากการประหยัดต้นทุนจากการปรับโครงสร้างองค์กรให้ทันสมัย การริเริ่มกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ๆ และประสิทธิภาพการจัดเก็บรายได้ที่ดีขึ้น
“ด้วยการบูรณาการกรอบการดำเนินงานที่มุ่งเน้นความสามารถในการทำกำไรอย่างยั่งยืน ทรู คอร์ปอเรชั่น ยังคงสามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง”