หนุ่มถูกยึดรถ ไม่มีตังค์จ่ายค่าปรับ ลักจยย.ไปเอาเงิน กลับมาโรงพัก ถูกจับข้อหาหนักกว่าเดิม

วันที่ 9 พฤษภาคม 2568 ร.ต.ท.จักรกฤษณ์ ชูวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.เมือง จ.สระบุรี ได้รับแจ้งจากนางสาวสุภัชชา แก้วพันยู ว่า มีคนร้ายขโมยรถจักรยานยนต์ ที่ตนเองจอดไว้ที่ทำงานได้หายไป หลังรับแจ้งได้ให้ชุดสืบสวน สภ.เมืองสระบุรี ลงพื้นที่ตรวจสอบที่คนร้ายก่อเหตุ พบว่าบริเวณซอยพหลโยธิน ซอย13 ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี พบนางสาวสุภัชชา อายุ 25 ปี เป็นพนักงานร้านขายอุปกรณ์การเกษตร ได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนว่า ตนเอง จอดรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น เวฟ หมายเลขทะเบียน กถ 6238 สระบุรี สีขาวดำ บริเวณข้างร้านซึ่งติดกับถนนในซอย เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 7 ที่ผ่านมา โดยลืมกุญแจเสียบคารถจักรยานยนต์ไว้อีกด้วย หลังเลิกงานตนเองจะออกมารถจักรยานยนต์ เพื่อจะขับขี่กลับบ้าน จึงรู้ว่ารถจักรยานยนต์ ของตนเองหายไป

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนนำโดย พ.ต.ท.เศรษฐหาญ เศรษฐภากรณ์ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองสระบุรี จึงได้ขอดูกล้องวงจรปิด ภายในร้าน ก็พบว่าเมื่อเวลา 10.34 น. มีชายคล้ายวัยรุ่น แต่งตัวใส่เสื้อลายแขนสั้นสีดำ สวมกางเกงขาสั้นสีดำ เดินมาขโมยรถจักรยานยนต์ ที่มีกุญแจเสียบคาทิ้งไว้ ซึ่งบริเวณดังกล่าวเป็นที่จอดรถข้างร้าน ซึ่งมีรถจักรยานยนต์ของผู้ร่วมงานจอดอยู่หลายคัน จากนั้นก็สตาร์ทรถออกไป มุ่งหน้าถนนพหลโยธิน

ชุดสืบสวนได้ทำการสืบหาข้อมูล พบว่ามีชายลักษณะดังกล่าวเหมือนคนในภาพวงจรปิดที่ขโมยรถจักรยานยนต์ไป เมื่อวานนี้ มาทำการเสียค่าปรับที่ห้องประจำวัน ของ สภ.เมืองสระบุรี เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนเมืองสระบุรี จึงได้เดินไปทำการตรวจสอบพูดคุย จากการสอบถามทราบชื่อว่า นายทรงพล (เดียว ) อายุ 21 ปี จากการสอบถามนายเดียว ได้ให้การยอมรับว่าได้ทำการลักรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวจริง เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุม ไปทำการสอบสวน

โดยนายทรงพล(เดียว) ยอมรับว่าตนเอง ขับรถจักรยานยนต์ของตนเองมาจาก อ.มวกเหล็ก แล้วเดินทางเข้ามาตัวเมืองสระบุรี เมื่อมาถึงพบตำรวจตั้งด่านบริเวณหน้า สภ.เมืองสระบุรี มีอาการลุกลี้ ลุกลน และมีลักษณะคล้ายจะหลบหนี ตำรวจจึงทำการขอตรวจใบขับขี่ และไม่สวมหมวกกันน็อก ปรากฏว่า นายเดียว ไม่มีใบขับขี่ เจ้าหน้าที่ตำรวจราจรจึงได้ทำการออกใบสั่ง และยึดรถจักรยานยนต์ไว้เพื่อตรวจสอบ แต่เนื่องจากนายเดียวไม่มีเงินจ่ายค่าปรับ ก็เลยต้องเดินทางกลับไปยังบ้านที่มวกเหล็ก เพื่อจะเอาเงินมาเสียค่าปรับ จากนั้นก็เดินออกจากที่ สภ.เมืองสระบุรี เดินไปประมาณ 100 เมตร เข้าไปในซอยพบรถจักรยานยนต์จอดอยู่หลายคัน มีคันหนึ่งเสียบกุญแจคาไว้ จึงได้ทำการลักแล้วขับออกไป

นำรถจักรยานยนต์ที่ลักไป ไปจอดที่หน้าบริเวณที่จอดรถ หน้าสถานีรถไฟสระบุรี แล้วถอดป้ายทะเบียน ซ่อนเอาไว้ในช่องใต้เบาะ แล้วตนเองก็ซื้อตั๋วรถไฟกลับไปยังบ้านที่ อ.มวกเหล็ก จนอีกวันจึงได้เดินทางมาเสียค่าปรับที่ห้องประจำวันที่ สภ.เมืองสระบุรี ท่าทางมีพิรุธ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเอารูปใบหน้าของนายเดียว (ผู้ต้องหา) มาเปรียบเทียบกับภาพในวงจรปิด มีลักษณะคล้ายกันมาก จึงถูกจับในที่สุด

นายเดียวยอมรับว่า ส่วนตัวเองนั้นไม่รู้ตอนนั้นคิดอย่างไรที่ลักรถจักยานยนต์ ไม่ได้เอาไปขาย จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสารเสพติดพบว่าไม่เจอสารเสพติดในร่างกาย และไม่มีอาการทางจิตประสาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ และได้ทำการส่งตัวฝากขังศาลในวันนี้

ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบนางสาวสุภัชชา ปรากฏว่าไม่อยู่ออกไปทำงานข้างนอก จึงได้ขอพบเจ้าของร้านดังกล่าว (ขอสงวนนาม ) บอกกับผู้สื่อข่าวว่า รถจักรยานยนต์ที่หายนั้น เป็นของคนที่ร้านเอง ทางร้านจะมีที่จอดรถจักรยานยนต์ อยู่ข้างๆร้านรถที่หาย จอดอยู่คันที่ 2 มีชายในกล้องวงจรปิดมาลัก แต่เนื่องจากเจ้าของรถจักรยานยนต์คันที่หายเป็นคนขี้ลืมเสียบกุญแจคาไว้ ก็เลยเป็นเหตุแบบนี้เกิดขึ้น ต่อไปจะกำชับให้ดูแลรถให้ดีกว่านี้ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก