เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2568 นางสาวศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า จากข้อมูลของกรมสรรพากร พบว่าในเดือนเมษายนที่ผ่านมา กรมสรรพากรสามารถจัดเก็บรายได้ได้ถึง 171,921 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน 11,052 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.9% และสูงกว่าประมาณการตามเอกสารงบประมาณ 7,732 ล้านบาท หรือ 4.7%
เมื่อพิจารณารายได้สะสมในช่วง 7 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 (ตุลาคม 2567 – เมษายน 2568) พบว่ากรมสรรพากรจัดเก็บรายได้รวม 1,138,182 ล้านบาท สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน 47,325 ล้านบาท หรือ 4.3% และสูงกว่าประมาณการ 17,950 ล้านบาท หรือ 1.6%
นางสาวศศิกานต์ ระบุว่า ปัจจัยหลักที่ทำให้การจัดเก็บรายได้เดือนเมษายนสูงกว่าเป้าหมาย มาจาก ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการบริโภคภายในประเทศ (ภ.พ.30) สูงขึ้นจากปีก่อนถึง 11.0% ภาษีเงินได้จากการจ่ายเงินปันผลและการจำหน่ายกำไรไปต่างประเทศ (ภ.ง.ด.54) เพิ่มขึ้น ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าก็เก็บได้สูงกว่าประมาณการเช่นกัน
ผลการจัดเก็บรายได้ในช่วง 7 เดือนแรกนี้ ถือเป็นสัญญาณบวกสำคัญสะท้อนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยที่แข็งแกร่ง โดยได้รับแรงหนุนจากการบริโภคภายในประเทศที่ฟื้นตัวดี การลงทุนของภาคเอกชนที่ขยายตัวต่อเนื่อง และการค้าระหว่างประเทศที่กระเตื้องขึ้น
“รายได้ที่เก็บได้สูงกว่าประมาณการอย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในระบบเศรษฐกิจไทย และเป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืน” นางสาวศศิกานต์กล่าว