ธีรรัตน์ ลงพื้นที่เหตุเพลิงไหม้โกดังย่านฉลองกรุง 55 สั่งเร่งช่วยเหลือผู้ประสบภัย

วันที่ 12 พฤษภาคม  เวลา 06.00 น. นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เหตุเพลิงไหม้โกดังสินค้าในซอยฉลองกรุง 55 เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร พร้อมเยี่ยมศูนย์พักพิงชั่วคราวและให้กำลังใจประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายปฏิบัติงานด้วยความปลอดภัยสูงสุด โดยเฉพาะการอพยพประชาชนจากพื้นที่ที่ยังมีหมอกควันหนาแน่นในช่วงเช้า

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและทีมกู้ภัยยังคงเร่งระดมฉีดน้ำเพื่อควบคุมเพลิงอย่างต่อเนื่อง โดยมีรถน้ำกว่า 100 คันจากหลายเขตในกรุงเทพมหานครเข้าร่วมปฏิบัติการ เพื่อสกัดไม่ให้เปลวเพลิงลุกลามไปยังพื้นที่ใกล้เคียง เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต

ด้านหน่วย BEST 1555 กรุงเทพมหานคร เขตลาดกระบัง ได้ประสานจัดตั้งศูนย์พักพิงฉุกเฉินทันที พร้อมทั้งศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร (ศูนย์เอราวัณ) ส่งทีมเจ้าหน้าที่ตรวจคัดกรองสุขภาพประชาชนที่อพยพมายังศูนย์ฯ

สำหรับศูนย์พักพิงชั่วคราวที่เปิดให้บริการแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ หอประชุมสำนักงานนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โรงเรียนวัดทิพพาวาส โรงเรียนลำพะอง และศูนย์พัฒนาเด็กเล็กชุมชนวัดทิพพาวาส

นางสาวธีรรัตน์ กล่าวว่า “ขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเร่งควบคุมเพลิงและกลุ่มควัน พร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ ขอความร่วมมือประชาชนหลีกเลี่ยงพื้นที่เกิดเหตุ เพื่อความปลอดภัยและการปฏิบัติงานที่รวดเร็ว”

ต่อมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้โพสต์ข้อความผ่านเพจ “ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์” ระบุว่า

เหตุไฟไหม้บริษัทคิงส์ รายงานสถานการณ์ 11.00 น. เจ้าหน้าที่ควบคุมไฟไหม้ให้จำกัดวงอยู่ในพื้นที่บริเวณตัวอาคารโรงงานเท่านั้น มีเพลิงลุกไหม้ด้านล่างตัวอาคาร คาดว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าประเภทพลาสติก ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ฉีดน้ำลดอุณหภูมิอยู่ต่อเนื่อง (รถน้ำจากพื้นที่เขตใกล้เคียงร่วมด้วย)

ได้รายงานสถานการณ์ถึงท่านนายกฯ แพทองธารฯ ทราบและสั่งการประสาน ปภ. , สาธารณสุข, กรมควบคุมมลพิษ ให้ตรวจสอบสารพิษในพื้นที่โดยรอบ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนค่ะ

ขอขอบพระคุณคุณแม่ทองดี สำเร็จวาณิชย์ สนับสนุนอาหาร น้ำดื่ม ตั้งโรงครัว ณ ศูนย์อำนวยการ โรงเรียนลำพะอง สำหรับเจ้าหน้าที่และประชาชนที่เข้ามาพักพิงชั่วคราว

ขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกหน่วยงานทั้งรัฐ และอาสาสมัครกู้ภัย ที่ตรึงกำลังอยู่ในพื้นที่ ขอให้ทุกคนสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกันสารพิษตลอดเวลา เพื่อลดความเสี่ยงอันตรายต่อสุขภาพร่างกายค่ะ