ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น หลังสหรัฐ-จีนบรรลุข้อตกลงผ่อนคลายมาตรการทางภาษี
หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน บมจ.ไทยออยล์ ระบุว่า ปัจจัยที่ส่งผลกระทบกับราคามีดังนี้ ราคาน้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้นหลังสหรัฐและจีนสามารถบรรลุข้อตกลงร่วมกันที่จะลดกำแพงภาษีลงฝ่ายละ 115% เป็นระยะเวลา 90 วัน โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค. 68 เป็นต้นไป สำหรับภาษีนำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐลดเหลือ 30% จาก 145% ขณะที่จีนลดภาษีนำเข้าสินค้าสหรัฐเหลือ 10% จาก 125% หนุนความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจโลก
โดยราคาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสซื้อขายเมื่อ 12 พ.ค. 2568 อยู่ที่ 61.95 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +0.93 เหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันดิบเบรนต์อยู่ที่ 64.96 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น +1.05 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล
นักลงทุนคลายความกังวลต่อความตึงเครียดทางเศรษฐกิจหลังการเจรจาบรรลุผล ทำให้คาดว่าความต้องการใช้น้ำมันดิบจะฟื้นตัว อย่างไรก็ตาม แผนการเพิ่มกำลังการผลิตของกลุ่มโอเปกพลัสอาจจำกัดการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน
อิสราเอลยืนยันยังไม่มีข้อตกลงหยุดยิง แม้ฮามาสเตรียมปล่อยตัวประกันชาวอเมริกัน ในวันที่ 12 พ.ค. 68 หลังการหารือร่วมกัน 4 ฝ่าย ระหว่างฮามาส สหรัฐ อียิปต์ และกาตาร์ นับเป็นสัญญาณที่ดีที่อาจนำไปสู่การเจรจาหยุดยิงอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม อิสราเอลยังประกาศเดินหน้าปฏิบัติการทางทหารต่อไป
Baker Hughes รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบสหรัฐ สำหรับสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 9 พ.ค. 68 ปรับลดลง 5 แท่นจากสัปดาห์ก่อน อยู่ที่ระดับ 474 แท่น สู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือน ม.ค. 68 ในขณะที่แท่นขุดเจาะก๊าซธรรมชาติปรับเพิ่มขึ้น 2 แท่น มาอยู่ที่ระดับ 101 แท่น
ตลาดน้ำมันสิงคโปร์หยุดทำการเนื่องจากวันหยุดวิสาขบูชา
ตลาดน้ำมันสิงคโปร์หยุดทำการเนื่องจากวันหยุดวิสาขบูชา