กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายใต้การนำของ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรฯ มุ่งเพิ่มศักยภาพภาคการเกษตรของไทย โดยกรมวิชาการเกษตร เดินหน้ายกระดับส้มโอที่เป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญของไทย
โดยเฉพาะส้มโอขาวแตงกวา สินค้าเกษตรอัตลักษณ์เฉพาะถิ่นของจังหวัดชัยนาท ที่สะท้อนภูมิปัญญาท้องถิ่นและวัฒนธรรมการปลูก และได้รับการจดทะเบียนคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ด้วยเอกลักษณ์เด่นที่รสชาติหวานอมเปรี้ยว เนื้อกุ้งใหญ่สีขาว ไม่แฉะน้ำ และกรอบเหมือนแตงกวา
ทำให้เป็นที่นิยมบริโภคทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งไทยส่งออกส้มโอไปยังสหรัฐอเมริกาครั้งแรกในปี 2566 ถือเป็นความสำเร็จของเกษตรกรผู้ปลูกส้มโอและผู้ประกอบการส่งออกผลไม้ในการเปิดตลาดที่มีมาตรการสุขอนามัยพืชเข้มงวด สะท้อนถึงคุณภาพและมาตรฐานผลไม้ไทยที่ได้รับการยอมรับระดับสากล พร้อมเปิดโอกาสขยายตลาดส่งออกมากขึ้น
แต่อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันการแข่งขันในตลาดนำเข้าส้มโอไทยในสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และประเทศอื่นๆ ทวีความเข้มข้น ส่งผลให้ไทยต้องเร่งพัฒนาระบบตรวจสอบและยกระดับมาตรฐานให้แข็งแกร่ง เพื่อป้องกันการปลอมแปลงสินค้า รักษาความน่าเชื่อถือ และเตรียมรับโอกาสใหม่ๆ ในการส่งออก รวมทั้งการผลักดันสินค้าเกษตรไทยสู่มาตรฐานโลก
จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการตรวจสอบพันธุ์ แหล่งผลิต และสาระสำคัญที่เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพ เพื่อเพิ่มมูลค่าและขีดความสามารถการแข่งขัน พร้อมต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ด้านผลไม้ไทยให้เป็นที่ยอมรับในตลาดโลก
จึงมอบหมายให้สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ พัฒนาเทคนิคการวิเคราะห์สารชีวโมเลกุลและสารสำคัญ เพื่อระบุพันธุ์และแหล่งผลิตอย่างแม่นยำ อันเป็นหลักฐานทางวิทยาศาสตร์ที่ช่วยยืนยันอัตลักษณ์ของส้มโอไทย ซึ่งปัจจุบันการตรวจสอบคุณภาพและแหล่งที่มายังคงเป็นความท้าทาย
แต่จากการวิเคราะห์ลายพิมพ์ดีเอ็นเอ (DNA) และลายพิมพ์เปปไทด์ (Peptide) รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลสถิติด้วย Principal Component Analysis (PCA) และ ANOVA พบว่า ดีเอ็นเอของส้มโอพันธุ์เดียวกันจากแต่ละพื้นที่ มีความคล้ายคลึงกัน
แต่ลายพิมพ์เปปไทด์กลับแสดงความแตกต่าง ซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญในการระบุแหล่งที่มาของส้มโอไทยอย่างแม่นยำ
โดย น.ส.วรารัตน์ ศรีประพัฒน์ นักวิชาการเกษตรชำนาญการ สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กล่าวว่า ได้นำเทคนิคการวิเคราะห์สารชีวโมเลกุลมาใช้เป็นมาตรฐานในการตรวจสอบแหล่งผลิตของส้มโอ เพื่อเพิ่มความแม่นยำ
จึงได้พัฒนาฐานข้อมูลสารชีวโมเลกุลจากส้มโอที่เก็บตัวอย่างในหลายฤดูกาล (อย่างน้อย 3-5 ฤดูกาล) ทำให้ข้อมูลมีความน่าเชื่อถือและสามารถใช้เป็นเครื่องมือป้องกันการปลอมแปลงสินค้าเกษตรไทย
เทคนิคนี้ช่วยให้เกษตรกรสามารถยืนยันคุณภาพและแหล่งผลิตของส้มโอ เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้บริโภคและผู้ผลิตในด้านการรับรองมาตรฐานสินค้า
ทั้งยังสนับสนุนการป้องกันการปลอมแปลง สินค้าเกษตรในภาคอุตสาหกรรม ข้อมูลจากการตรวจสอบสามารถนำไปใช้รับรองคุณภาพและแหล่งผลิต ก่อนการส่งออก สร้างความเชื่อมั่นให้กับตลาดทั้งในและต่างประเทศ
กรมวิชาการเกษตร ได้นำวิทยาศาสตร์ การวิจัย เทคโนโลยีและนวัตกรรม มาบูรณาการ เพื่อพัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับไปยังผู้ปลูกหรือแหล่งผลิตส้มโอขาวแตงกวาชัยนาท โดยใช้ลายพิมพ์เปปไทด์ ในการจำแนกส้มโอขาวแตงกวา GI ชัยนาท จากส้มโอชนิดอื่น เทคโนโลยีนี้ช่วยเพิ่มความโดดเด่น สร้างจุดแข็ง และยกระดับความน่าเชื่อถือของสินค้าเกษตรไทย
สอดคล้องกับมาตรการในการตรวจสอบแหล่งผลิตโดยใช้ฐานข้อมูลสารชีวโมเลกุล เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของภาคการเกษตร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมเกษตรไทยในตลาดโลก
ทั้งยังเป็นหลักประกันคุณภาพและความปลอดภัยของส้มโอไทย ทั้งในตลาดภายในประเทศและต่างประเทศ
สำหรับเกษตรกรและผู้ประกอบการที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่กลุ่มวิจัยเทคโนโลยีชีวภาพทางการเกษตร สำนักวิจัยพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพ กรมวิชาการเกษตร โทรศัพท์ 0-2904-6885 ต่อ 95