สว.ฉัตรวรรษ ได้ทีเย้ย “ทวี” ถูกศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ เพราะปาก ฮึ่มเจอคิดบัญชีแน่ ท้าลั่น แน่จริงก็สอยเลย

เมื่อวันที่ 14 พ..ค. 2568 พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. ในฐานะผู้ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลธรรมนูญมีมติสั่ง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกำกับดูแลกรมสืบสวนสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ว่า “เขาคงเห็นว่าการออกมาแหกปากให้สังคมเกลียดชัง สว. มันไม่ชอบ ถ้ามีของจริง ไม่ต้องไปแหกปากหรอก เดี๋ยวเจอคิดบัญชีแน่”

เมื่อถามว่ามองว่าการสู้คดีของ สว.จะมีผลใช่หรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ตนไม่ได้สู้คดี แต่รักษาความเป็นธรรมให้กับองค์กรวุฒิสภา ไม่ใช่ใครอยากจะออกมาแถลงอะไรก็แถลงกันให้เสียหาย ตนมาปกป้องตามหลักกฎหมาย ไม่ได้ทำนอกเหนือกฎหมาย ตนมีจิตใจบริสุทธิ์ ไม่ใช่จิตใจชั่วร้าย คนจิตใจชั่วร้ายคิดทำอะไรก็ชั่วร้ายไปหมด แค่นี้ก็พอแล้ว

เมื่อถามว่าจะเชื่อมโยงถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เรียก สว.ไปชี้แจงหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า เป็นส่วนที่ กกต.จะเรียก แต่ตนขอถามว่า กกต.ไหน ชุดใหญ่หรืออนุกกต. ที่กเฬวราก กกต.ชุดใหญ่มีหลักในการพิจารณา แต่อนุกกต.ที่อยู่ภายใต้การกำกับของดีเอสไอ ถ้าเอาสิ่งที่ไม่เป็นธรรมเข้ามา แล้วมาเรียก สว. มันชอบทำ มันเป็นกลางหรือ มันเป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ จิตใจบริสุทธิ์พอที่จะเรียกหรือไม่

เมื่อถามย้ำว่าจะไปชี้แจงตามหมายเรียกหรือไม่ พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวว่า ไปก็ได้ ไม่ไปก็ได้ ถ้าไม่ไปก็ขอออกหมายศาลมาจับตน ถ้าแน่จริงก็สอยมา ไม่ได้ว่าอะไรสักคำ ขอให้เสนอ กกต.ชุดใหญ่ ไม่ใช่ใช้อำนาจอนุกกต.มาเรียกพวกตน ไม่แปลกที่จะมีชื่อตน ซึ่งตนจะไปก็ได้ เป็นเรื่องของตน เป็นสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ แน่จริงไต่สวนมาก็จบ

พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ กล่าวต่อว่า ตนไม่ได้ง้อ แต่ขอให้ช่วยทำอะไรให้มันชอบธรรม มีความเป็นกลาง เสมอภาค สว. 200 คนทำเหมือนกันหมดหรือไม่ มีไม่รู้กี่กลุ่ม แต่ทำกลุ่มเดียว เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่ เป็นกลางหรือไม่ โปร่งใสหรือมีอคติจิตใจชั่วร้าย ขอให้ไปคิดเอาเอง