เสียงเตือน... ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ
SUB_NUM May 15, 2025 09:31 AM
คอลัมน์ : สามัญสำนึกผู้เขียน :สุดใจ ชาญชาตรีรัตน์

ในช่วงเวลาที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เดินหน้าคัดเลือกผู้ว่าการ ธปท.คนใหม่ ซึ่งตามไทม์ไลน์ก็จะได้ชื่อผู้ว่าการคนใหม่ในเดือน ก.ค.นี้ เพื่อมาทำหน้าที่ต่อจาก ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการ ธปท. คนปัจจุบันที่จะเกษียณอายุในวันที่ 30 กันยายนนี้

ล่าสุด ดร.เศรษฐพุฒิ ได้ออกพบสื่อ แบบตอบทุกคำถาม ประเด็นหลักก็คือ ส่งสัญญาณเตือนเศรษฐกิจ จากผลกระทบจากสงครามการค้าโลก

ไปจนถึงโครงการเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และมาตรการแจกเงินหมื่น หรือ “ดิจิทัลวอลเลต”

สำหรับ Entertainment Complex ที่เป็นโปรเจ็กต์เรือธงของเพื่อไทย ดร.เศรษฐพุฒิ ตอบว่า โจทย์ใหญ่ของไทยคือทำอย่างไรให้เศรษฐกิจเติบโตยั่งยืน ตอนนี้เรื่องท่องเที่ยวโจทย์คงไม่ใช่แค่เรื่องการดึงคนจำนวนมากเพียงอย่างเดียว เพราะนักท่องเที่ยวมีทางเลือกเยอะไปประเทศอื่น ๆ ได้ สิ่งสำคัญคือท่องเที่ยวไทยจะสร้าง Value Added อย่างไร

โดยหนึ่งในนั้นที่น่าสนใจ คือการมุ่งสู่การเป็น Wellness Center ในยุคที่ประเทศไทย และทั่วโลกเข้าสู่สังคมสูงวัย ถือเป็นตลาดใหญ่มาก ดังนั้นการสร้างอินฟราสตรักเจอร์ต่าง ๆ เพื่อแปลงให้ประเทศไทยเป็น Wellness Center น่าจะเป็นประโยชน์และทางเลือกที่ดี

นอกจากนี้ผู้ว่า ธปท.ระบุว่า สิ่งที่กังวลคือ โลกที่มีความไม่แน่นอนสูง บริบทนี้ยิ่งทำให้ประเทศไทยต้องทำตัวให้ “ถูกต้อง-ขาวสะอาด” ตามกฎตามระเบียบ เพราะคนกำลังมองหาตรงนี้ และความสำคัญตรงนี้มากขึ้นกว่าแต่ก่อน

ยิ่งประเทศไทยที่ถูกมูดีส์ ปรับมุมมองเครดิตเรตติ้งเป็น Negative Outlook ซึ่งระบุถึงธรรมาภิบาล ความน่าเชื่อถือต่าง ๆ ภาพลักษณ์ ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญมาก

ส่วนประเด็น “แจกเงินหมื่น” ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวว่า ต้องขอบคุณภาครัฐ ที่มีการทบทวนความเหมาะสมเรื่องนี้ เพราะในยามนี้บนสถานการณ์ที่เปลี่ยน บวกกับสินค้าต่างประเทศทะลักเข้าไทย การทำนโยบายต่าง ๆ ต้องเน้นความคุ้มค่าและมีประสิทธิผลที่ดี ภายใต้ขีดความสามารถด้านการเงินและการคลังมีอย่างจำกัดมากขึ้น

“ความเห็นคงไม่เปลี่ยนไปจากเดิมที่เคยสื่อสาร โครงการนี้จะต้องดูในเรื่องความคุ้มค่า ประสิทธิผลให้ดี และยิ่งยามนี้ที่สถานการณ์เปลี่ยนไป มีเรื่องความท้าทายใหม่ ๆ ที่เข้ามา”

และนี่อาจเป็นเสียงค้านของผู้ว่าการแบงก์ชาติ (ครั้งแรก) ที่นายกฯ แพทองธารอยากได้ยิน เพื่อที่จะสนับสนุนเหตุผลทบทวนโครงการในภาวะที่เศรษฐกิจกำลังเข้าใกล้วิกฤต

ขณะที่ปัญหาใหญ่จากผลกระทบสงครามการค้า ดร.เศรษฐพุฒิ กล่าวว่า แม้ผลกระทบจากการขึ้นภาษียังไม่เห็นชัด แต่เป็นอะไรที่สร้างความไม่แน่นอนสูงมาก

“พายุกำลังมา” แต่สิ่งที่คนอยากรู้ คือ พายุมาถึงเมื่อไร ผลกระทบนานแค่ไหน มาแล้วกระทบใครบ้าง มีอะไรที่ต้องจับตามอง

ผู้ว่าการ ธปท. บอกว่า ขอทำหน้าที่เป็นกรมอุตุฯ ว่า พายุมาแน่ ๆ แม้ตอนนี้ยังไม่เห็นตัวเลขชัด ๆ แต่เริ่มเห็นการลงทุนชะงักแล้ว โดยผลกระทบหนัก ๆ จะเกิดในช่วงครึ่งปีหลัง และจุดต่ำสุดของเศรษฐกิจไทยจะไม่เร็วกว่าไตรมาส 4 ปีนี้

พร้อมทั้งวิเคราะห์ต่อว่า ช็อกเศรษฐกิจไทยที่เกิดขึ้นครั้งนี้จะเป็นลักษณะ “V Shape ขากว้าง” หมายความว่า เมื่อเศรษฐกิจตกถึงจุดต่ำสุดแล้ว การฟื้นตัวจะต้องใช้ “เวลายาวนาน” เป็นปี

เพราะการฟื้นตัวต้องเป็นการปรับตัวของทั้งซัพพลายเชนไม่ได้เป็นเรื่องที่ง่าย กว่าจะกลับมาสู่โลกปัจจุบัน

“ช็อกที่เราเจอ เหมือนพายุที่กำลังมาเรือจะแล่นในสปีดเดิมไม่ได้ นโยบายตอนนี้ไม่ใช่เรื่องกระตุ้นเพื่อให้สปีด หรือเรือวิ่งเร็วแบบเดิม เพราะยังไงการเติบโตก็ต้องชะลอลง โจทย์การรับมือคือ ต้องทำให้ช็อกที่เจอเบาลง อย่าทำให้ผลกระทบลึกมาก และมาตรการต้องเอื้อให้เกิดการปรับตัวได้เร็วขึ้นในการเติบโตระยะยาวเมื่อพายุผ่านไป”

ทุกคนต้องตั้งหลักให้มั่น เพราะ “พายุลูกนี้ไม่จบเร็ว”

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.