สั่งปิดด่วน ศูนย์วิจัยเชื้อโรคร้ายแรง หลังคู่รักทะเลาะ เจาะรูชุดป้องกันอีกฝ่าย ในห้องแล็บ
สั่งปิดด่วน ศูนย์วิจัยเชื้อโรคร้ายแรงสุดในโลก หลังคู่รักนักวิจัยทะเลาะในห้องแล็บ เจาะรูชุดป้องกันอีกฝ่าย หวั่นความปลอดภัย เกิดการรั่วไหลของเชื้อไวรัส
เว็บไซต์ต่างประเทศ รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขและบริการมนุษย์สหรัฐฯ ออกคำสั่งปิดศูนย์วิจัยในเมืองเฟรเดอริก รัฐแมริแลนด์ ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยที่ใช้ศึกษาโรคร้ายแรงที่สุดในโลก เนื่องจากกังวลด้านความปลอดภัย หลังนักวิจัยที่มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาว 2 คน ทะเลาะกันในห้องแล็บ และเจาะรูชุดป้องกันอีกฝ่าย
แหล่งข่าวของ HHS เผยว่า นักวิจัยคนหนึ่งเจาะรูบนอุปกรณ์ป้องกันของอีกฝ่ายในระหว่างที่ทั้งสองทะเลาะกันอย่างรุนแรงในห้องแล็บที่ใช้วิจัยในห้องแล็บระดับ BSL-4 ซึ่งศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสและแบคทีเรียที่อันตรายถึงชีวิต เช่น อีโบลา มาร์บูร์ก และไวรัสเฮนดรา
ขณะนี้ เจ้าหน้าที่ได้สั่งปิดห้องวิจัยอย่างเร่งด่วนเนื่องจากกังวลด้านความปลอดภัยในศูนย์วิจัย พร้อมทั้งจำกัดการเข้าถึงเฉพาะบุคลากรที่จำเป็น
ขณะเดียวกัน ด้านดร.คอนนี ชมาลจอห์น ผู้อำนวยการศูนย์ ก็ถูกสั่งให้พักงานชั่วคราว เนื่องจากเธอไม่รายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อเจ้าหน้าที่ให้ทราบทันทีหลังเกิดเหตุ
ด้านนายไมเคิล โฮลบรูค รองผู้อำนวยการร่วมของศูนย์ เผยว่า ทางเรากำลังเก็บตัวอย่างให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้แน่ใจว่าการศึกษานี้ยังคงมีประโยชน์ และทางเรายังไม่มีคำสั่งให้ทำลายสัตว์ทดลองแต่อย่างใด
ทั้งนี้ ศูนย์วิจัยแห่งนี้มีพนักงานประมาณ 168 คน รวมทั้งข้าราชการและผู้รับเหมา ได้รับการบริหารจัดการภายใต้สถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติ (NIAID) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) ซึ่งเป็นหนึ่งในเพียงสิบกว่าศูนย์ทั่วสหรัฐ ที่ได้รับอนุญาตให้ศึกษาเชื้อไวรัสระดับ BSL-4 ซึ่งเป็นระดับความเสี่ยงสูงสุด