ราช กรุ๊ป ประกาศกำไร 1,220 ล้านบาท ไตรมาสแรกปี 2568 เดินหน้าปรับแผนกลยุทธ์ธุรกิจ คาดแล้วเสร็จไตรมาส 2 ปีนี้
นายนิทัศน์ วรพนพิพัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 1 ประจำปี 2568 (1 มกราคม – 31 มีนาคม 2568) ว่า บริษัทฯรับรู้กำไรจำนวน 1,220 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 2567
เนื่องจากบริษัทฯ และบริษัทย่อยมีการบันทึกบัญชีขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยน อีกทั้งรายได้ของโรงไฟฟ้าราชบุรีที่ปรับลดลงตามระยะเวลาของสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ขณะที่รายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากการลงทุนในกิจการร่วมค้า ปรับตัวเพิ่มขึ้น เป็นจำนวน 1,232.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30.2
สำหรับภาพรวมการดำเนินงานในไตรมาสแรกปีนี้ บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 6,987 ล้านบาท โดยรายได้หลักยังคงมาจากธุรกิจผลิตไฟฟ้า จำนวน 6,547 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 94 ของรายได้รวม ส่วนรายได้จากธุรกิจสาธารณูปโภคและอื่น ๆ (Non-power) เติบโตขึ้นเป็นจำนวน 440 ล้านบาท หรือร้อยละ 6 ของรายได้รวม
ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ยังสะท้อนถึงความมั่นคงแข็งแกร่ง โดยมีธุรกิจผลิตไฟฟ้าเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ ซึ่ง ในไตรมาสนี้ โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงฟอสซิล และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน สามารถสร้างรายได้ เป็นจำนวน 5,273 ล้านบาท และจำนวน 1,274 ล้านบาท ตามลำดับ
นอกจากนี้ การบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ยังเป็นปัจจัยหนุนการดำเนินงานของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ บริษัทฯ รับรู้กำไรจาก การดำเนินงานก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 3,194 ล้านบาท
ทั้งนี้การดำเนินงานในช่วง 3 เดือนแรกที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้มุ่งเน้นที่การบริหารสินทรัพย์ที่ได้ลงทุนแล้ว เพื่อให้สามารถสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจและผลตอบแทนที่เสริมสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนให้กับบริษัทฯ ซึ่งผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าต่าง ๆ ยังสามารถสร้างรายได้ รักษาความพร้อมจ่ายและประสิทธิภาพการผลิตไว้ได้เป็นที่น่าพอใจ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังกำลังดำเนินการปรับแผนยุทธศาสตร์โดยกำหนดกลยุทธ์ เพื่อวางทิศทาง
การดำเนินธุรกิจและการเติบโตอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ ซึ่งแผนดังกล่าวได้รวมถึงการพัฒนาพื้นที่โรงไฟฟ้าราชบุรีที่กำลังจะครบอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า และกำหนดจะแล้วเสร็จในไตรมาส 2 ปีนี้ ขณะเดียวกัน ยังได้จัดทำแผนการบริหารการเงินไว้พร้อมแล้ว โดยมีวงเงินหุ้นกู้ จำนวน 35,000 ล้านบาท ซึ่งได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้น ประจำปี 2568 เมื่อวันที่ 24 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับฐานะการเงินของบริษัทฯ ณ วันที่ 31 มีนาคม 2568 มีสินทรัพย์รวมจำนวน 214,142 ล้านบาท หนี้สินรวมจำนวน 107,148 ล้านบาท และส่วนของผู้ถือหุ้นจำนวน 106,994 ล้านบาท โดยบริษัทฯ มีศักยภาพทางการเงินที่แข็งแกร่งสะท้อนจากอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน 1.00 เท่า และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้นร้อยละ 10.52