หนุ่มจีนทรุด เช้าฝากเงิน 3.3 ล้าน ตกเย็นหายเกลี้ยงบัญชี ธนาคารปัด “ไม่ใช่ความผิดเรา”
sanook May 17, 2025 09:35 AM

ชายจีนสูญเงิน 3.3 ล้านหยวน หลังฝากธนาคารเพียงวันเดียว แถมโดนปัดความรับผิดชอบ บอก “ไม่ใช่ความผิดของเรา”

เหตุการณ์ช็อกวงการธนาคารจีน เมื่อชายคนหนึ่งนำเงินชดเชยจากการเวนคืนที่ดิน 3.3 ล้านหยวน หรือมากกว่า 15 ล้านบาท ไปฝากธนาคารในตอนเช้า แต่กลับพบว่าในตอนเย็นของวันเดียวกันนั้น เงินทั้งหมดได้หายไป และธนาคารก็ตอบสนองต่อเรื่องนี้โดนระบุว่า “ไม่ใช่ความผิดของเรา” สร้างความไม่พอใจให้กับสังคมอย่างมาก

ตามรายงานระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี 2022 ที่มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน นายหลิว ชายผู้ได้รับเงินชดเชยจากการเวนคืนที่ดินจำนวน 3.3 ล้านหยวน ได้เดินทางไปยังธนาคารชื่อดังแห่งหนึ่ง เพื่อเปิดบัญชีฝากเงินแบบออมทรัพย์ โดยมีเป้าหมายเพื่อเก็บเงินไว้ให้ปลอดภัย พร้อมรับดอกเบี้ยในระยะยาว เจ้าหน้าที่ธนาคารที่รับเรื่องคือพนักงานนามสกุล “หลี่” ซึ่งดูแลกระบวนการเปิดบัญชีและรับฝากเงินจนเสร็จสิ้นเรียบร้อย นายหลิวจึงจากไปด้วยความมั่นใจในระบบธนาคาร

ทว่า 1 ปีต่อมา เมื่อเขากลับมาที่ธนาคารเพื่อขอถอนเงิน กลับได้รับข่าวช็อกว่า “ยอดเงินในบัญชีเหลือศูนย์” สร้างความตื่นตระหนกอย่างหนักให้กับเขา เมื่อตรวจสอบข้อมูลย้อนหลังปรากฏว่า เงินทั้งหมดได้ถูกถอนออกไปภายในเย็นวันเดียวกับที่ฝากเข้า โดยภายหลังการสอบสวนของธนาคารเองพบว่า พนักงานหลี่ ได้แอบปลอมแปลงลายเซ็นของนายหลิว และโอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีส่วนตัวของตนเอง

ที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือ พนักงานรายนี้ได้ลาออกจากธนาคารหลังจากก่อเหตุ และทางธนาคารก็ปฏิเสธความรับผิดชอบโดยอ้างว่าเป็น “ความผิดส่วนบุคคล” โดยระบุว่า “เราดำเนินการตามขั้นตอนปกติ ไม่มีความผิดพลาดจากระบบของเรา”

ธนาคารมีสิทธิ์ปฏิเสธความรับผิดชอบหรือไม่? ประเด็นนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายในจีนได้ออกมาชี้แจงว่า ตามกฎหมายแพ่งแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน (Civil Code) มาตรา 577 ระบุว่า หากฝ่ายใดละเมิดสัญญา จะต้องรับผิดชอบในการชดใช้ความเสียหาย ซึ่งในกรณีนี้ธนาคารมีหน้าที่ในการรักษาเงินฝากให้ปลอดภัยตามสัญญา

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเข้าเงื่อนไขของความรับผิดชอบนอกสัญญา ตามกฎหมายความรับผิดทางแพ่งของจีน ที่ระบุว่า หากพนักงานขององค์กรก่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นขณะปฏิบัติหน้าที่ องค์กรนั้นจะต้องรับผิดชอบในการชดเชยความเสียหาย ไม่สามารถผลักภาระไปให้พนักงานเพียงลำพังได้

หลังจากเรื่องราวถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ของจีน ก็กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง โดยชาวเน็ตส่วนใหญ่ต่างมองว่าธนาคารควรมีระบบบริหารความเสี่ยงและการกำกับดูแลภายในที่รัดกุมมากกว่านี้ เพื่อไม่ให้เกิดกรณีที่พนักงานสามารถยักยอกเงินลูกค้าได้อย่างง่ายดาย เหตุการณ์นี้ยังตั้งคำถามถึง ความน่าเชื่อถือของระบบธนาคารจีน และจุดประกายการเรียกร้องให้มีการ ปฏิรูปการควบคุมภายในสถาบันการเงิน ให้มีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น
 

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.