สหพันธ์ฟุตบอลแห่งยุโรป หรือ ยูฟ่า กล่าวหา จานนี อินฟานติโน ประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือฟีฟ่า ว่าให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ส่วนตัวทางการเมืองมากกว่าเรื่องของฟุตบอล หลังเข้าประชุมสายในงานประชุมใหญ่ของฟีฟ่าที่ประเทศปารากวัย

ก่อนหน้านี้ จานนี อินฟานติโน เดินทางไปเจรจาการทูตในตะวันออกกลาง พร้อมกับประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา และกลับมาประชุมฟีฟ่าล่าช้ากว่ากำหนดไปถึง 2 ชั่วโมง 17 นาที

โดยประธานฟีฟ่ากล่าวว่าการเดินทางของตนก่อนการประชุมใหญ่มีความสำคัญมาก และทำให้เขาเป็นตัวแทนของวงการลูกหนังในการหารือสำคัญกับผู้นำในแวดวงการเมือง และเศรษฐกิจของโลก

อย่างไรก็ดีเพื่อเป็นการประท้วงต่อการร่วมประชุมล่าช้าของประธานสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ประธานยูฟ่า นำคณะผู้แทนยุโรป และอีกหลายคน เดินออกจากงานในช่วงพักเบรก

หมายความว่ามีที่นั่งว่างอย่างเห็นได้ชัดที่ศูนย์ประชุม คอนเมโบล คอนเวนชั่น เซนเตอร์ ในเมืองลูเก กรุงอาซุนซิโอน เมืองหลวงของปารากวัย

และเมื่อการประชุมเริ่มขึ้นอีกครั้ง อเล็กซานเดอร์ เซเฟริน ปธ.ยูฟ่ากล่าวในแถลงการณ์ว่าการเปลี่ยนแปลงในนาทีสุดท้ายในเรื่องเวลาเป็นเรื่องที่น่าเสียดายอย่างยิ่งจนต้องมีการหารือถึงเรื่องดังกล่าว

“การประชุมฟีฟ่าเป็นหนึ่งในการประชุมที่สำคัญที่สุดในวงการลูกหนังโลก ซึ่งชาติต่างๆ ทั้ง 211 ชาติในวงการฟุตบอลทั่วโลกจะมารวมตัวกันเพื่อหารือเกี่ยวกับปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อกีฬาทั่วโลก” ประธานยูฟ่ากล่าว

“การเปลี่ยนตารางเวลาในนาทีสุดท้ายเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองส่วนบุคคลนั้น ถือเป็นการกระทำที่ไร้ประโยชน์ และดูเหมือนให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นอันดับแรก”

“เราทุกคนอยู่ในตำแหน่งเพื่อทำหน้าที่รับใช้ฟุตบอล ตั้งแต่บนท้องถนนไปจนถึงบนโพเดียม และสมาชิกยูฟ่าในสภาฟีฟ่ารู้สึกว่า จำเป็นต้องทำให้เกมนี้มาก่อน และออกไปตามกำหนดการเดิม” ปธ.ยูฟ่า กล่าวปิดท้าย