ประธานชมรมร้านอาหาร จี้รัฐบาลขยับด่วน หลังเศรษฐกิจซบหนัก ทำร้านอาหารสาหัส ยอดขายหายเกิน 50% ส่อเจ๊งระนาว ชี้มาตรการช่วยเหลือออกช้าเกินแก้ไข เสนอ 5 แนวทาง อาทิ ‘เที่ยวคนละครึ่ง เร่งฟื้นกำลังซื้อ-พยุงภาคท่องเที่ยว

นายสรเทพ สตีฟ ประธานชมรมผู้ประกอบธุรกิจร้านอาหาร และที่ปรึกษากิติมศักดิ์ สมาคมโฮสเทล (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ขณะนี้ การท่องเที่ยวเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจตัวสุดท้ายของประเทศไทยที่ติดๆ ดับๆ จนส่งผลกระทบถึงร้านอาหารขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ที่ออกมาแจ้งปิด เพราะเจ๊งกันระนาว หรือไม่ก็ยอดขายกำไรหายไปเกิน 50% จำนวนมากมาย

“มาตราการที่รัฐบาลออกมาล่าช้า จนไม่สามารถช่วยเหลือประชาชนและผู้ประกอบการได้ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งผมเคยเรียกร้องไปก่อนแล้วว่าควรรีบออกมาให้ทันไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 เพราะสภาพเศรษฐกิจส่อแววไม่ดีเลย แต่กว่ารัฐจะเคาะสรุปรายละเอียดก็ปาเข้าไปจะจบไตรมาสแรกของปี 2568 แล้ว ถึงเวลานี้ประชาชนก็ไม่มีเงินเหลือจะเที่ยวกันแล้ว“

ดังนั้น ทางชมรมฯ ขอวิงวอนนายกรัฐมนตรี และทีมเศรษฐกิจรัฐบาลให้รีบออกมาตราการเร่งด่วน เพื่อมาประคองสภาพเศรษฐกิจของประเทศ ก่อนที่จะพังไปจนไม่เหลืออะไรให้พังไปกว่านี้แล้ว เช่น 1.รีบเอาเงินที่จะแจกรอบ 3 มาทำโครงการคนละครึ่ง 6 เดือน เป็นค่าใช้จ่ายด้านอาหารประจำวันให้ประชาชนและกระตุ้นกำลังซื้อให้ร้านอาหาร ตั้งแต่ริมทางไปถึงร้านใหญ่

2.ออกมาตราการให้ลูกค้าเก็บใบกำกับภาษีร้านอาหารนำไปลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดา ไม่เกินคนละ 2 หมื่นบาท และนิติบุคคลลดหย่อนได้ไม่เกิน 1 แสนบาทในปีถัดไป ซึ่งไม่ต้องใช้งบประมาณเลย แถมได้ภาษีเต็มๆ คืนเข้าคลังอีกต่อ 3.ควบคุมดูแลค่าไฟฟ้า ค่าน้ำมัน และราคาสินค้าวัตถุดิบ เพราะยิ่งเข้าหน้าแล้งราคาพืชผักจะสูงขึ้นหลายเท่าเหมือนปีที่แล้วอีก

4.ลดเงินค่าประกันสังคมให้ผู้ประกอบการครึ่งหนึ่งถึงสิ้นปี 2568 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายบริษัทร้านค้า และ 5.เร่งวางแผนระยะสั้นในการกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศไทยให้กลับมา และวางแผนระยะยาวแบบบูรณาการ 15 ปี เพื่อให้การท่องเที่ยวประเทศไทยเติบโตแบบยั่งยืนไม่ใช่เน้นแค่จัดอีเว้นท์เป็นฉากๆไปตามฤดูกาลงบประมาณ