พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ สะท้อนมุมมองปัญหา ‘อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง’ ที่ทำสังคมสะเทือนศรัทธาสงฆ์ มองปัญหาแค่ 0.0001% จาก 4.3 หมื่นวัด แนะโมเดลทำบุญไม่ต้องมุ่งเน้นเรี่ยไร
จากกรณี อดีตธรรมวชิรานุวัตร หรือทิดแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม อดีตเจ้าคณะภาค 14 ถูกจับสึกดำเนินคดีฐานความผิดทุจริตยักยอกเงินวัด ไม่ต่ำกว่า 300 ล้านบาท ซึ่งถูกผูกโยงอาจนำเงินจำนวนมากไปเล่นพนันออนไลน์ หรือใช้ในทางไม่เหมาะสม
ทำให้จุดคำถามจากสังคมอีกครั้ง ต่อการบริหารเงินบุญ ที่พุทธศาสนิกชนตั้งใจถวายให้พระสงฆ์เพื่อนำไปบํารุงพุทธศาสนา
ประชาชาติธุรกิจ กราบนมัสการสัมภาษณ์ พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ในฐานะพระวินยาธิการ หรือ ตำรวจพระ ในเขตปกครองคณะสงฆ์จังหวัดนครปฐม ถึงมุมมองต่อกรณีดังกล่าว และระบบการดูแลเงินบุญที่ควรจะเป็น
ข้อมูลสำนักงานพระพุทธศาสนา (ปี 2565) รายงานว่า วัดในประเทศไทย มีมากกว่า 4.3 หมื่นวัด อันดับหนึ่งเป็นวัดมหานิกาย ประมาณ 3.8 หมื่นวัด รองลงมาเป็นวัดธรรมยุต กว่า 4 พันแห่ง นอกนั้นลดหลั่นตามสัดส่วน
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ หรือหลวงพี่น้ำฝน มองกรณีที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องตัวบุคคล แต่เท่าที่เคยพบเจอกันในการปกครองคณะสงฆ์ กับอดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง ในการทำงานปกครองคณะสงฆ์ดีมาทุกอย่าง ที่ผ่านมาไม่เคยมีพฤติกรรมดังกล่าว ปัญหาที่เกิดขึ้นส่วนตัวมองเป็นเรื่องส่วนตัวที่คนภายนอกไม่สามารถรับรู้ได้
ผู้ทำหน้าที่รักษากฎระเบียบของพระสงฆ์ อธิบายการปกครองในคณะสงฆ์ว่า มีลำดับขั้นการตรวจสอบดูแลอยู่แล้ว เจ้าอาวาสจะถูกปกครองดูแลโดยเจ้าคณะตำบล เจ้าคณะตำบลถูกปกครองโดยเจ้าคณะอำเภอ เจ้าคณะอำเภอถูกปกครองดูแลโดยเจ้าคณะจังหวัด เจ้าคณะจังหวัดถูกปกครองโดยเจ้าคณะภาค และเจ้าคณะภาคก็จะถูกปกครองดูแลโดยเจ้าคณะใหญ่หน ในแต่ละหน เป็นต้น ซึ่งจะมีเป็นลำดับขั้นอยู่
สำหรับการบริการปกครองของวัดไผ่ล้อม ยึดการปกครองตามหลักประชาธิปไตย ภายใต้การมีเหตุมีผล ฉะนั้นคณะสงฆ์และบุคลากรของวัดไผ่ล้อม จะมีการประชุมดูแลกันทุกอย่าง กล้าพูดได้ว่าเป็นวัดที่มีความสามัคคีกัน 100% ในการบริหารจัดการ พร้อมย้ำว่ากรณีดังกล่าวเป็นเรื่องกรณีบุคคล ๆ ไป
“เราเป็นผู้นำ ก็ไม่ควรทำให้มีประวัติด่างพร้อยในคณะสงฆ์ หรือกลุ่มของเราได้”
หลวงพี่น้ำฝนย้ำว่า มองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเพียงส่วนน้อย หรือเพียง 0.0001% จากทั้งหมด เพราะการจัดการบริหารต่าง ๆ ทุกวัดจะมีคณะกรรมการหรือเจ้าหน้าที่ คอยตรวจสอบดูแลอยู่แล้ว
หลวงพี่น้ำฝนยังเล่าถึงระบบการบริหารเงินวัดไผ่ล้อม จะมีไวยาวัจกรดูแลบัญชีผ่านบัญชีวัด พร้อมกับรายงานเจ้าคณะตำบล และสำนักการพระพุทธศาสนา (พศ.) พร้อมส่งข้อมูลต่าง ๆ แจ้งให้ทราบทุกเดือน ซึ่งเป็นการดำเนินตามขั้นตอนการตรวจสอบการใช้จ่ายต่าง ๆ
และที่วัดไผ่ล้อม ก็ไม่ได้มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรที่จะมาเลี้ยงวัด เราเลี้ยงกันด้วยตัวเองเพื่อสร้างวัดเอง ซึ่งเกิดมาจากศรัทธาของพุทธศาสนิกชนที่พระสงฆ์ภายในวัดไปทำกิจสงฆ์ต่าง ๆ รวมถึงนำศรัทธาจากญาติโยมส่งกลับคืนสู่สังคม เช่นการสร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะ ฉะนั้นปัญหาต่าง ๆ ก็จะไม่เกิด
ส่วนจะต้องมีหน่วยงานเข้ามาควบคุมดูแลเรื่องงบประมาณวัดหรือไม่ หลวงพี่น้ำฝนมองว่า ทุกวัดอยู่ภายใต้กฎของมหาเถรสมาคม (มส.) ก็ต้องดำเนินการตามเพื่อดำเนินกิจสงฆ์ ซึ่งก็มีการทำงานและกฎระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ คล้ายหน่วยงานราชการเช่นกัน
เมื่อถามว่า จะฟื้นความเชื่อมั่นศรัทธาของสังคมอย่างไร หลวงพี่น้ำฝนมองว่า ไม่ต้องทำอะไร เรา (พระสงฆ์) ก็ทำหน้าที่กันให้ดี เกิดความน่าเชื่อ ความเชื่อมั่นแก่ศิษยานุศิษย์ โดยวัดไผ่ล้อม ยึดหลักการบริหารตามรอย หลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ที่ไม่ต้องไปบอกบุญเรี่ยไรใคร เพราะบุญต้องเกิดจากการกระทำที่สุจริตกาย สุจริตวาจา สุจริตใจ
ฉะนั้นเมื่อทำไปแล้วไม่ต้องคิดอะไรมาก เราก็ได้บุญแล้ว และโยมก็เป็นผู้ที่สามารถเลือกได้ว่าจะศรัทธาหรือไม่ ส่วนอาตมาภาพไม่สามารถไปบอกได้
“พระสงฆ์ก็ต้องทำตัวให้ดี ประพฤติตามกรอบหลักธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มีจิตอันบริสุทธิ์ เท่านี้รับรองได้ปัญหาจะไม่เกิด”
ชูศักดิ์ ศิรินิล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ให้สัมภาษณ์ถึงการดำเนินการเกี่ยวกับกฎระเบียบเรื่องการใช้จ่ายบัญชีของวัดต่าง ๆ หลังเกิดกรณีนี้ ว่าระเบียบกติกาเรื่องการใช้จ่ายเงินของวัดมีอยู่แล้ว แต่หลังจากนี้ต้องจริงจังชัดเจนมากขึ้น รวมถึงหามาตรการมาเพิ่ม เร็ว ๆ นี้จะมีการขอหารือมหาเถรสมาคม เพื่อพูดคุยขอคำแนะนำว่ามีช่องว่างอะไรเพื่อป้องกันให้รัดกุม
ส่วนจะเรียกศรัทธาของประชาชนชาวพุทธกลับมาอย่างไร รมต.สำนักนายกฯ ย้ำว่า ได้ให้นโยบาย พศ. 8 ข้อ 1 ในนั้นคือมาตรการป้องกันไม่ให้มีการทำลายพระพุทธศาสนาทั้งทางตรงและทางอ้อม คำนี้มาจากรัฐธรรมนูญ ซึ่งการทำลายพระพุทธศาสนาอาจเกิดจากคนนอกหรือคนในก็ได้ ฉะนั้นเมื่อสำนักพุทธฯ มีหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ก็อย่าทำแค่เรื่องพิธีกรรมอย่างเดียว ขอให้สอดส่องเรื่องต่าง ๆ ที่เกิดภายในวัดให้เข้มงวดขึ้น
ภาพ : เพจฯ คิดไม่ออกบอกหลวงพี่น้ำฝน/สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ