มิตซูฯลั่นขาย Xforce หมื่นคัน ชี้ลูกค้าเลือกดีไซน์-เทคโนโลยีตอบโจทย์
SUB_NUM May 18, 2025 12:40 AM

มิตซูบิชิปลื้มยอดจอง รถบี-เอสยูวี มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ช เกินเป้า คาดทั้งปีขายทะลุหมื่นคัน ระบุชัดลูกค้าเลือกเพราะดีไซน์หน้าตาตอบโจทย์ ดันส่วนแบ่งตลาดปีนี้โตอีก 1.8% แย้มเตรียมนำเข้ารถยนต์ BEV ทดลองทำตลาด เจาะกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์

นายสาโรจน์ มะอาจเลิศ กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ สายงานขายและบริการหลังการขาย ดูแลรับผิดชอบด้านการขายและบริการหลังการขาย รวมถึงสายงานการตลาด สายงานบริหารประสบการณ์ลูกค้าและนวัตกรรมการบริการ บริษัท มิตซูบิชิ มอเตอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงภาพรวมการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปีนี้ว่า หลังจากเปิดตัวรถยนต์บี-เอสยูวี อย่างมิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ช ไฮบริด (Xforce HEV) ไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าชาวไทยเป็นอย่างดี

เห็นด้วยจากเป้าหมายที่บริษัทวางไว้ภายในสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้จะต้องมียอดจองอย่างน้อย 3,000 คันนั้น ปรากฏว่าขณะนี้ได้บรรลุเป้าหมายไปแล้ว และคาดว่าจะสามารถทยอยส่งมอบรถยนต์ให้กับลูกค้าลอตแรกได้ภายใน 1-2 เดือนนับจากนี้

สาโรจน์ มะอาจเลิศ
สาโรจน์ มะอาจเลิศ

จากการตอบรับของลูกค้าเชื่อว่ามิตซูบิชิจะมียอดขายรถยนต์ เอ็กซ์ฟอร์ช ได้เดือนละกว่า 1,000 คัน และภายในระยะเวลา 1 ปี หรือ 12 เดือนหลังการเปิดตัว จะมียอดขายไม่น้อยกว่า 10,000 คัน

สาเหตุที่บริษัทมั่นใจว่าจะมียอดขายไปถึงเป้าหมายนั้น หลังจากได้ทำสำรวจความต้องการของลูกค้าพบว่า กลุ่มลูกค้าที่ให้ความสนใจรถยนต์รุ่นนี้มีความชัดเจนและเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่มากขึ้น ส่งผลให้แคแร็กเตอร์ของลูกค้าเปลี่ยนไปจากเดิมเป็นกลุ่มครอบครัว มีอายุเฉลี่ยลดลงเหลืออยู่ที่ 25 ถึง 35 ปี

ประกอบกับบริษัทยังพบว่ากลุ่มลูกค้าที่เข้ามาจองรถยนต์รุ่นนี้เป็นกลุ่มลูกค้าที่ตัดสินใจเปลี่ยนแบรนด์จากรถยนต์ยี่ห้ออื่นมาเป็นมิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ช สูงถึง 50% และปัจจัยสำคัญที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจนั้น ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการออกแบบทั้งภายนอกภายในของรถคันนี้ที่มีความสะดุดตาและโดนใจค่อนข้างชัดเจน

ขณะที่กลุ่มลูกค้าที่ต้องการรถยนต์ขนาด 7 ที่นั่ง ก็ยังเลือกใช้มิตซูบิชิ เอ็กซ์แพนเดอร์ ไฮบริด เพื่อตอบโจทย์การใช้งาน

“เดิมเราคิดว่ารถทั้งสองรุ่นจะเข้ามากินตลาดระหว่างกัน แต่ปรากฏว่าหลังจากเปิดตัวและมีการสำรวจความต้องการของลูกค้า พบว่ารถทั้งสองรุ่นมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยเฉพาะในส่วนของวัตถุประสงค์ในการใช้งานที่ลูกค้าให้ความสำคัญมากกว่า”

นายสาโรจน์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับเป้าหมาย 10,000 คัน ภายในระยะเวลา 1 ปีนั้น ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ขณะที่ยอดขายรถยนต์โดยรวม มิตซูบิชิประเมินว่าตลาดรถยนต์จะมีการเติบโตที่ลดลง หรือใกล้เคียงกับปี 2567 ที่ผ่านมา โดยมียอดขายอยู่ที่ 550,000-570,000 คัน และบริษัทตั้งเป้าจะต้องมีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นจาก 4.8% มียอดขายอยู่ที่ 27,318 คัน ขยับเป็นส่วนแบ่งการตลาดที่ 6.6% และมียอดขายที่ 36,000 คัน และหวังว่ารถยนต์มิตซูบิชิ เอ็กซ์ฟอร์ช จะเป็นรถสำคัญในการผลักดันให้ไปถึงเป้าหมายดังกล่าว

ขณะนี้จากภาพรวมของสภาพเศรษฐกิจยังถือว่าคาดเดาสถานการณ์ได้ค่อนข้างลำบาก โดยเฉพาะในส่วนของตลาดรถยนต์ปิกอัพขนาด 1 ตัน ที่อยู่ในภาวะการประคองตัว จากเดิมจะเห็นว่ายอดขายรถปิกอัพโดยรวมของประเทศไทยมีสัดส่วนอยู่ที่ 40% แต่ปัจจุบันมีสัดส่วนยอดขายลดลงเหลือเพียง 28% เท่านั้น แม้ว่าจะมีมาตรการการส่งเสริมจากรัฐบาลเข้ามาช่วยสนับสนุน แต่เชื่อว่ายังจะต้องใช้ระยะเวลาอีกพอสมควร

อีกทั้งมาตรการความเข้มงวดของสถาบันการเงินที่พบว่ามีการปล่อยสินเชื่อของรถปิกอัพราว ๆ 30% เท่านั้น ส่วนรถบี-เอสยูวีอย่าง เอ็กซ์ฟอร์ช นั้นปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้าสูงถึง 80%

ส่วนความชัดเจนในเรื่องการทำตลาดรถยนต์ไฟฟ้า 100% หรือ BEV นั้น หลังจากก่อนหน้านี้บริษัทได้นำรถยนต์ไฟฟ้าเข้ามาทดลองศึกษาร่วมกับไปรษณีย์ไทย และภายในปีนี้บริษัทมีแผนจะนำเข้ารถยนต์ประเภทนี้เข้ามาจำหน่ายให้กับบริษัทด้านโลจิสติกส์เพื่อใช้ในการขนส่งสินค้า

แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าจะเป็นจำนวนเท่าไหร่ แต่ที่แน่ ๆ จะเป็นการทำตลาดเฉพาะกลุ่มก่อน

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.