คดีฮั้วเลือก สว. ยกระดับทะลุจุดเดือด หลัง “เจ๊แมว” กุสุมาลวตี ศิริโกมุท สว.สำรอง ออกมาทิ้งบอมบ์

กล่าวหานักการเมืองระดับ “หัวหน้าพรรค” และ “อดีตรัฐมนตรีช่วย” อยู่เบื้องหลังขบวนการจัดทำ “โพยฮั้ว” ซึ่งมีศูนย์กลางอยู่ จ.อำนาจเจริญ

เจ๊แมวยืนยันมีหลักฐานทั้งคลิปเสียงสนทนา ภาพถ่าย และข้อมูลการติดต่อผ่านไลน์ ซึ่งได้ส่งต่อไปยัง กกต. อัยการ และดีเอสไอแล้วทั้งหมด โดยหลักฐานเหล่านี้สามารถระบุวัน เวลา และสถานที่ชัดเจน

“ไม่ใช่แค่สกปรกธรรมดา แต่เป็นระบบที่คนบางพรรคสามารถกำหนดเกมล่วงหน้าได้เลยว่า ใครจะได้เป็น สว.และใครจะเป็นแค่โหวตเตอร์”

ในจังหวะสอดรับ “นักร้องรุ่นใหญ่” ณฐพร โตประยูร ยื่นคำร้องต่ออัยการสูงสุด ให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย “ยุบพรรค” และถอดถอนกรรมการบริหารพรรค นักการเมือง และสว.ที่เกี่ยวข้องกับขบวนการฮั้ว

อันเป็นพฤติการณ์เข้าข่ายล้มล้างการปกครองฯ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 49

ข้อมูลที่นายณฐพรใช้เป็นเหตุยื่นร้องต่ออัยการสูงสุด นอกจากข่าวสารในสื่อมวลชน สำคัญคือพยานหลักฐานที่ดีเอสไอ และกกต. ร่วมกันสืบสวนสอบสวนได้มา ทั้งจากพยานบุคคล พยานแวดล้อม พยานผู้เชี่ยวชาญวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์

การตรวจสอบข้อมูลทางธุรกรรมคนในขบวนการ 12,000 คน ข้อมูลโทรศัพท์ 20,000 เลขหมาย การนำกลุ่มพยานในที่เกิดเหตุนำชี้พื้นที่เกิดเหตุจุดต่างๆ รวมถึงการนำเทคโนโลยีเอไอ มาใช้จำลองเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุ

ฉายให้เห็นภาพผู้ร่วมขบวนการแบ่งงานกันทำเป็นขั้นเป็นตอน ตั้งแต่วางแผนเบื้องต้น การดำเนินการระดับประเทศ ความเกี่ยวข้องกับผู้มีอำนาจ กระทั่งนำไปสู่ผลลัพธ์การได้มาซึ่ง สว. 138 คน สำรอง 2 คน

ในเอกสารคำร้องมีการระบุชื่อเสียงเรียงนาม ตำแหน่งในรัฐบาล ตำแหน่งในสภา ตำแหน่งในพรรคไว้ชัดเจน

สถานการณ์นี้ถูกนำไปเปรียบเทียบกับเมื่อครั้งไทยรักไทยถูกยุบพรรค ตัดสิทธิ์คณะกรรมการบริหารพรรค เมื่อปี 2550 ฐานละเมิดกฎหมายเลือกตั้ง

สำหรับคดีฮั้ว สว. หากผลสอบสวนชี้ชัดว่าผู้บริหารพรรคการเมืองใดรู้เห็นหรืออยู่เบื้องหลัง โทษสูงสุดอาจถึงขั้น “ยุบพรรค” ตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคและบุคคลที่เกี่ยวข้อง

ไม่นับรวมโทษอาญาในคดีฟอกเงิน และอั้งยี่ ในมือดีเอสไอ ที่คืบหน้าไปมากแล้วเช่นกัน

มันฯ มือเสือ