รายงานพิเศษ : เช็กพิกัด ‘อำนาจ’ ศูนย์กลางสะเทือน อาฟเตอร์ช็อก ฮั้วส.ว.
GH News May 19, 2025 09:41 AM

เช็กพิกัด’อำนาจ’ ศูนย์กลางสะเทือน อาฟเตอร์ช็อก ฮั้วส.ว.

ทีมข่าวออนไลน์ รายงาน

ดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ สำหรับการดำเนินคดีฮั้วเลือกส.ว. ที่ทวีความเข้มข้นมาเป็นลำดับ

ตั้งแต่การรับเป็นคดีพิเศษของดีเอสไอ การเดินหน้าแจ้งข้อกล่าวหาของอนุกรรมการกกต.ที่เดินสายปิดหมายเรียก 54 ส.ว.ถึงหน้าบ้านพัก

โดยในนั้นมีทั้่ง นายมงคล สุรัจสัจจะ ประธานวุฒิสภา และพล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา รวมทั้งส.ว.ตัวตึงอีกหลากหลาย

แต่ที่ดูจะเป็นจุดพีกที่สุดในสงครามครั้งนี้ คงหนีไม่พ้น สมรภูมิที่อำนาจเจริญ!!

เมื่อการลงพื้นที่ของดีเอสไอในการรวบรวมพยานหลักฐานที่จ.อำนาจเจริญ สะกิดปฏิกิริยาจากหลายฝ่าย ดังที่เห็นมาเป็นลำดับ

ไม่ว่าจะเป็นท่าทีดุเดือดของ นายณรงค์ เทพเสนา ผู้ว่าฯอำนาจเจริญ ถึงขั้นทำหนังสือลับ ด่วนที่สุุด รายงานปลัดกระทรวงมหาดไทย ว่ามีบุคคลแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ เข้ามาสอบสวนข้อมูลเกี่ยวกับการเลือกตั้งส.ว.ในพื้นที่

จึงจำเป็นต้องรายงานด่วน และกำชับให้นายอำเภอ ปลัดอำเภอ กำนัน และผู้ใหญ่บ้าน คอยตรวจตรา ติดตามสอดส่อง กำกับดูแลปกป้องคุ้มครองสิทธิของประชาชน หากหน่วยงานไหนต้องการรับข้อมูล หรือการสืบสวนสอบสวนใด ให้เป็นไปตามระเบียบกฎหมาย

ทำให้พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ต้องออกมายืนยันว่าที่ลงพื้นที่สืบสวนที่จ.อำนาจเจริญนั้นเป็นเจ้าหน้าที่ตัวจริง

พร้อมยกม.22 ของพ.ร.บ.กรมสอบสวนคดีพิเศษ ว่าหากข้าราชการไม่ให้ความร่วมมือ อาจมีโทษถึงขั้นติดคุก

ตามด้วยคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ที่ให้พ.ต.อ.ทวี หยุดปฏิบัติหน้าที่รมว.ยุติธรรมเฉพาะในฐานกำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ และรองประธานคณะกรรมการคดีพิเศษตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัย

โดย 1 ในเหตุผลที่สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็คือข้อเท็จจริงตามคำร้องเพิ่มเติมของประธานวุฒิสภา ลงวันที่ 14 พ.ค. 68 วันเดียวกับที่วินิจฉัยนั่นเอง

ซึ่งพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร 1 ใน ส.ว.ตัวตึง ที่เคยเป็นถึงผู้การจังหวัดบุรีรัมย์ ก็เปิดเผยว่า คำร้องเพิ่มเติมที่ยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา มีเรื่องการกระทำที่ไม่เหมาะสมในการเข้าไปแทรกแซงการสอบสวนเรื่องฮั้วเลือกตั้งส.ว.ในพื้นที่จ.อำนาจเจริญที่ผ่านมา ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับความผิดฐานฟอกเงินที่ดีเอสไอรับผิดชอบ แต่เป็นเรื่องการได้มาซึ่งส.ว. ซึ่งไม่เข้าข่ายคดีพิเศษ

จะเป็นประเด็น ‘อำนาจเจริญ’ อันนี้หรือไม่ที่ทำให้ พ.ต.อ.ทวี ถูกพักงานจากคำสั่งศาล ก็คงไม่สามารถก้าวล่วงได้

แต่คำร้องเพิ่มเติมมีเรื่องนี้จริง!

ไม่เพียงแค่นั้น ในการประชุมคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตประพฤติมิชอบ สภาผู้แทนฯ หรือ กมธ.ปปช. เมื่อวันที่ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา

น.ส.กุสุมาลวตี ศิริโกมุท 1 ใน ส.ว.สำรอง ที่เป็นผู้ร้องเรียนให้ตรวจสอบกกต.กรณีการเลือกส.ว. เข้าชี้แจง กมธ.

โดยระบุว่า ก่อนการเลือกตั้ง ส.ว. ได้เดินทางมาที่สภา เพื่อเจอหัวหน้าพรรคการเมืองพรรคหนึ่ง โดยได้พบกับอดีตรมช. คนหนึ่ง เมื่อพูดคุยกันก็บอกว่ามาพบผู้ใหญ่เพื่อขอความเมตตา และขอคะแนน และถูกถามกลับว่า ทำไมมาขอทีละคะแนน เขามีเป็นพันคะแนน

จากนั้นรมช.คนดังกล่าวจึงพาไปสวัสดีหัวหน้าพรรค แลกไลน์กับเลขานุการฯ และให้โทรศัพท์หาผู้หญิงคนหนึ่งที่จ.อำนาจเจริญ ที่เป็นคนสำคัญทำมาทุกโพย !!!

เมื่อโทรศัพท์ไปคุย ปลายสายก็บอกกลุ่ม 14 เต็มแล้ว ทั้งที่ยังไม่ได้เลือกกันเลย จึงสงสัยว่าจัดโผเสร็จแล้ว

แถมยังถามว่าจะเป็นส.ว.ตัวจริง หรือโหวตเตอร์ ก็บอกว่าขอเป็นส.ว.ปลายสายก็บอกว่า ส.ว.1 คนใช้โหวตเตอร์ 400 คน มีโหวตเตอร์เป็นหมื่นคน กว่าจะได้เป็นส.ว.

ยืนยันข้อมูลที่พูดเป็นเรื่องจริง มีทั้งไลน์ รูปถ่ายกับหัวหน้า แถมโทรศัพท์ของตน ก็บันทึกเสียงอัตโนมัติด้วย

ยังไม่ข้ามวัน นางสุขสมรวย วันทนียกุล ส.ส.อำนาจเจริญ พรรคภูมิใจไทย ก็ทำเอกสารแจ้งสื่อมวลชน ยืนยันที่น.ส.กุสุมาลวตีพูด ไม่เป็นความจริง

แต่บอกว่าวันดังกล่าว น.ส.กุสุมาลวตี มาดักรอหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่รัฐสภา ขอพูดคุยเรื่องส.ว. แต่หัวหน้าบอกไม่รู้เรื่อง

ด้วยความเป็นผู้ใหญ่ ไม่อยากเสียมารยาท เลยให้โทร.หาตน ก็บอกว่าพรรคไม่เกี่ยวข้องกับการเลือกส.ว.ใดๆ ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินคดีกับผู้ถูกกล่าวหาอย่างเด็ดขาด

ลามมาถึง ‘อำนาจเจริญ’ อีกแล้ว

กลายเป็นคำถามว่าทำไมเรื่องเลือกส.ว.ถึงวนเวียนอยู่ที่จ.อำนาจเจริญ

เรื่องดังกล่าว Ilaw ในฐานะผู้สังเกตการณ์เลือกส.ว. 2567 ระบุว่า อำนาจเจริญ เป็นจังหวัดที่มีผู้สมัครติด Top 8 เข้ารอบไขว้ระดับประเทศมากที่สุด โดย 8 จังหวัดเกาะกลุ่มเข้ารอบไขว้อยู่ที่ 28-38 คน โดยอำนาจเจริญอยู่ที่ 36 คน

แถมยังมีส.ว.ที่ได้รับคะแนนเสียงโหวตมากเกินค่าเฉลี่ย ในลักษณะ ‘นอนมา’ แถมยังมีผู้สมัครที่ได้รับคะแนนสูงในรอบแรกๆ แต่กลับได้น้อยมากในรอบไขว้ ในลักษณะ ‘พลีชีพ’

ซึ่งก็เป็นเพียงแค่ข้อสังเกต

แต่ในข้อเท็จจริงนั้นก็อยู่ทีพยานหลักฐานว่าจะสาวไปถึงแค่ไหน

เพราะอย่างที่ส.ว.และกกต.ออกมายืนยันว่าการพกโพยเข้าสถานที่เลือกตั้ง ไม่ใช่่เรื่องผิดกฎหมาย ซึ่งหากดูตามระเบียบแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริง

แต่หากการสืบสวนพบว่าการพกโพย มีเจตนาพิเศษ มีเส้นเงิน มีอะไรที่เชื่อมโยงถึง

อันนี้ก็คงลำบาก

แถมยังมีกระแสข่าวอีกว่าที่ไปรวมตัวในรีสอร์ตแห่งหนึ่งในจังหวัด ถกเถียงเจรจา เฟ้นหาตัวแทน ก็มีคนในพยายามดีดหนี ขอเป็นพยานกันอีกจำนวนหนึ่ง

ก็ไม่รู้ว่าจะไปยุติกันถึงไหน จะกลายเป็นสงครามตัวแทนจริงหรือไม่อย่างไร

แต่ที่แน่ๆ รอยไหวที่อำนาจเจริญนั้นเกิดขึ้นแล้ว ส่วนอาฟเตอร์ช็อกจะสั่นสะเทือนไปถึงไหน ที่ทำการพรรคการเมืองใหญ่พรรคใดหรือไม่

คงต้องติดตาม!!

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.