มาชิมกันเถอะ! นายกฯ ชมบูธ Thai Fruit Festival 2025 ชวนกินผลไม้ไทย ตรวจล้งทุเรียน รับแก้ปัญหาตู้บรรทุกสินค้าตกค้าง ชมชาวสวนคุมคุณภาพผลไม้ สร้างชื่อให้ประเทศ ย้ำ กษ.-พณ.หามาตรการระบายผลผลิต ตลอดฤดูกาล
จากนั้นเวลา 12.40 น. วันที่ 17 พฤษภาคม ที่รร.มณีจันทร์ อ.เมือง จ.จันทบุรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เยี่ยมชมบูธกิจกรรมของกระทรวงพาณิชย์ ตามโครงการ Thai Fruit Festival 2025 และชมร้านอาหารที่ได้รับเครื่องหมาย Thai SELECT โดยรณรงค์เชิญชวนประชาชนรับประทานผลไม้ไทยตามฤดูกาล พร้อมรับฟังการนำเสนอข้อมูลจากร้านอาหารที่ได้รับสัญลักษณ์ Thai SELECT และข้อมูลการสนับสนุนทานผลไม้ในฤดูกาล
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ขอเชิญชวนให้ทานผลไม้กันเยอะๆเพราะทั่วโลกมองว่าผลไม้ไทยเป็นผลไม้ที่ได้รับความนิยม มีทั้งราชาผลไม้ และราชินีผลไม้ จึงอยากให้ทานผลไม้ไทยเยอะๆ เพราะส่งออกดีแล้ว จึงอยากให้บริโภคในประเทศไทยดีด้วย ปีนี้ฝนตกเยอะผลผลิตออกมาค่อนข้างเยอะ จึงขอเป็นกำลังใจให้พี่น้องชาวเกษตรกรและชาวสวนทุกคน
ต่อมาเวลา 13.40 น. น.ส.แพทองธาร พร้อมคณะ เยี่ยมชมบริษัทเอกชน อ.มะขาม ชมการคัดแยกและบรรจุมังคุด จากนั้นเยี่ยมชมบริษัท ดรากอน เฟรช ฟรุท จำกัด อ.มะขาม ดูขั้นตอนการตรวจสอบคุณภาพ การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิต และการกระจายผลไม้ ชมบูธกิจกรรมแปรรูปผลไม้ และความร่วมมือเอกชน ในการนำเมนูผลไม้เสริฟบนเครื่องบินของสายการบินแอร์เอเชีย
ต่อมานายกฯ พบปะพูดคุยกับพี่น้องเกษตรกรในพื้นที่ เพื่อรับฟังแนวทางการรับซื้อผลไม้จากผู้ประกอบการ และผู้ส่งออก โดยตัวแทนเกษตรกรปลูกมังคุด อ.มะขาม สะท้อนปัญหาสถานที่ลานจัดเก็บผลผลิตและเครื่องจักรในการคัดแยก รวมถึงตู้บรรจุผลผลิตติดค้างที่ด่านรอส่งออก ที่ใช้เวลานานเนื่องจากติดขั้นตอนกระบวนการตรวจสอบสารเคมี และอาจกระทบกับคุณภาพมังคุดในช่วงฤดูฝนที่จะทำให้เนื้อแก้ว มีผลกระทบต่อการส่งออก ขณะนี้ตัวแทนผู้ประกอบการส่ง นำเสนอให้มีการปลูกเสาวรสเพื่อเสริมจากผลไม้หลัก และผลักดันเป็นพืชเศรษฐกิจใหม่ของไทย
น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า ดีใจที่ได้ลงพื้นที่และพูดคุยกับทุกคนอย่างเปิดใจและพร้อมรับฟังปัญหา รวมถึงขอบคุณภาคีเครือข่ายเอกชน ที่ช่วยระบายสินค้าผลไม้ โดยเดือนมิ.ย.นี้ ที่มังคุดจะมีปัญหาเป็นเนื้อแก้วจึงต้องช่วยระบายสินค้า โดยมอบให้กระทรวงพาณิชย์ ดูต่อจนจบฤดูกาลว่าจะมีมาตรการช่วยเหลืออย่างไร สำหรับตู้สินค้าบางส่วนที่ติดการตรวจที่ด่าน ขณะนี้ระยะเวลาติดค้างสั้นลงและส่งออกเร็วขึ้น
ทั้งนี้ต้องขอบคุณเกษตรกร ที่ควบคุมคุณภาพ ถ้าคุณภาพดีไม่ต้องตรวจสอบเยอะ และสามารถขอความร่วมมือผู้รับซื้อเพื่อให้ส่งออกได้รวดเร็วขึ้น และอยากขยายเกษตรกรดูแลคุณภาพเป็น 100% เพื่อลดการตรวจสอบ อีกทั้งเร็วๆนี้จะมีเส้นทางคมนาคม ที่จะส่งออกไปยังจีนได้รวดเร็วขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนข้อเสนอการปลูกเสาวรส ทางกระทรวงเกษตรฯระบุว่า สามารถปลูกได้ รวมถึงจะผลักดันเรื่องการทำวิจัยเพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตวันนี้มาดูขั้นตอนเพื่อจะได้ทราบว่าติดขั้นตอนที่ตรงไหนเพื่อนำปัญหาและความเห็นไปพูดคุยในแต่ละกระทรวงและปรับแก้ต่อไป อยากให้สะท้อนสิ่งที่ติดขัดเพื่อแก้ไข เมื่อเรามีคุณภาพการส่งออก จะเป็นชื่อเสียงให้ประเทศ และรัฐบาลยืนยันจะดูแลและปรับปรุงในสิ่งที่ทำได้ต่อไป
ด้าน นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ปัญหาตู้สินค้าติดค้าง ได้แก้ปัญหาและลดระยะเวลาติดค้างที่ด่าน เพื่อระบายสินค้าได้แล้ว ส่วนปัญหาสินค้าล้นตลาดทางกระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงเกษตรฯ ได้เร่งดำเนินการแก้ปัญหาร่วมกัน รวมถึงแก้ปัญหาขาดแรงงาน ตามข้อสั่งการของนายกฯ เรียบร้อยแล้ว
ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ น.ส.แพทองธาร ได้แวะเดินตลาดผลไม้เนินสูง อุดหนุนผลไม้จากพ่อค้าแม่ค้า ซื้อกระท้อน 3 กก. โดยระบุว่า มารดาและพี่ชายชอบ ซื้อสละ 2 กก. และทุเรียนกวน พร้อมขนมขบเคี้ยว เป็นของฝาก
ด้าน นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า 1 ไฮไลท์สำคัญของการลงพื้นที่ครั้งนี้ คือ การส่งเสริมร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT ในจังหวัดจันทบุรี ซึ่งมีร้านอาหารไทยที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกระทรวงพาณิชย์ จำนวน 5 ร้าน ได้แก่ ร้านครัวมณีจันท์ อ.เมือง ร้านจันทรโภชนา สาขามหาราช อ.เมือง ร้านฉุย จันทบุรี อ.เมือง ร้านอาหารซีทรู (โรงแรมเจ้าหลาวทอแสงบีช) อ.ท่าใหม่ และร้านรัตนะบุรี น้ำตกพลิ้ว จันทบุรี อ.แหลมสิงห์ ซึ่งทั้ง 5 ร้านล้วนมีรสชาติอาหารที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเฉพาะตัว มีมาตรฐานตามคุณภาพอาหารไทยแท้ และได้รับการโหวตให้เป็นร้านอาหารที่ดีที่สุดในจังหวัดจันทบุรี
อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า การประชาสัมพันธ์ร้านอาหาร Thai SELECT ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เป็นหนึ่งในมาตรการสำคัญของรัฐบาลที่ต้องการผลักดันให้ ‘อาหารไทย’ เป็นซอฟท์พาวเวอร์อันดับ 1 ของประเทศ โดยนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ได้มอบนโยบายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าเร่งกระตุ้นการบริโภคอาหารไทยผ่านร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT พร้อมส่งเสริมให้เป็นธุรกิจเรือธงที่สร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจของประเทศ ก่อให้เกิดการปฏิรูปมาตรฐานอาหารไทยให้เป็นศูนย์กลางด้านอาหารระดับภูมิภาคและต่อเนื่องสู่ระดับโลก รวมทั้งสนับสนุนและส่งเสริมการใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่นมารังสรรค์เป็นเมนูอาหารไทยที่ทรงคุณค่า ซึ่งคนไทยมีศักยภาพสูง และเป็นทุนทางวัฒนธรรมที่ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ ยกระดับอาหารไทยให้เป็นที่รู้จักและนิยมแก่ผู้บริโภคชาวไทย/ชาวต่างชาติ รวมถึงเป็นแหล่งสร้างรายได้และแหล่งจ้างงานที่สำคัญของประเทศ เนื่องจากอาหารไทยสะท้อนถึงอัตลักษณ์ความเป็นไทยได้ดีที่สุด แสดงถึงความละเมียดละไมและความใส่ใจในการประกอบอาหารของคนไทยที่ได้รับการถ่ายทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน นับเป็นความภาคภูมิใจและมรดกทางวัฒนธรรมอันทรงคุณค่าของไทยถึงปัจจุบัน
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้มอบ ป้ายตราสัญลักษณ์ Thai SELECT แก่ผู้ประกอบการร้านอาหาร 3 แห่ง และเยี่ยมชมบูธร้านอาหารทั้ง 3 ร้าน ที่ได้นำเมนูที่เป็นไฮไลท์ของแต่ละร้าน รวมทั้งเมนูเด่นที่ใช้วัตถุดิบเป็นผลไม้ ในพื้นที่มาจัดแสดงและให้ชิมรสชาติอาหารไทยของแต่ละร้านด้วย เช่น ร้านครัวมณีจันท์ โชว์เมนู ยำสละสุมาลี มัสมั่นทุเรียน ทุเรียนเชื่อม ร้านจันทรโภชนา โชว์เมนู ส้มตำทุเรียน ยำมังคุด แกงเผ็ดเป็ดย่างเงาะ ผัดกระวานปลากะพง และ ร้านรัตนะบุรี จันทบุรี เมืองแห่งความอร่อย โชว์เมนู แกงหมูชะมวง ข้าวเหนียวทุเรียน
โดยระหว่างพบปะผู้ประกอบการ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมรณรงค์ทานผลไม้ไทยในฤดูกาล และขอความร่วมมือร้านอาหาร Thai SELECT ทั้งในประเทศและต่างประเทศนำผลไม้ไทยและผลไม้ตามฤดูกาลไปประกอบเป็นเมนูพิเศษหรือเมนูหลักของทางร้าน พร้อมทั้งขอให้เป็นแหล่งจำหน่ายผลไม้แปรรูปเพื่อเป็นช่องทางให้ผลไม้ไทยสร้างมูลค่าการค้าและส่งออกไปต่างประเทศได้ นอกจากนี้ ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จัดโครงการเที่ยวฟินกิน Thai SELECT ต่อเนื่อง โดยเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวทั้งเมืองหลักและเมืองรองเพื่อกระตุ้นทั้งภาคการท่องเที่ยวและผลักดันให้อาหารไทยเป็นที่รู้จักผ่านตราสัญลักษณ์ Thai SELECT
หลังจากนั้น ได้รับประทานอาหารกลางวัน ณ ร้านครัวมณีจันท์ ซึ่งตั้งอยู่ในโรงแรมมณีจันท์รีสอร์ท อ.เมือง โดยเมนูอาหารของนายกรัฐมนตรี อาทิ ยำมังคุด มัสมั่นไก่ทุเรียน ปลาเก๋าต้มกะวานระกำ เส้นจันท์ผัดปู และของหวานทุเรียนเชื่อม พร้อมชวนชิมอาหารทะเลสดๆ ซึ่งเป็นอาหารจานเด่นและอาหารพื้นเมืองรสเด็ดที่ใช้วัตถุดิบจากผลไม้ในพื้นที่ ที่มี ‘ความอร่อย’ และ ‘ทำถึงรสชาติอาหารไทยแท้’ ซึ่งเป็นจุดแข็งที่สำคัญของร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT พร้อมทั้งเชิญชวนนักชิมและนักท่องเที่ยวร่วมพิสูจน์ความอร่อยอาหารไทยแท้ โดยมองหาป้าย Thai SELECT ที่มีอยู่ 496 ร้าน ทั่วประเทศ พบป้าย Thai SELECT ที่ไหน แวะรับประทานอาหารที่นั่น รับรองอาหารอร่อยถูกปากถูกใจแน่นอน ทั้งนี้ สามารถค้นหาร้านอาหาร Thai SELECT หรือ Thai SELECT Guide 2024 ได้ทาง Line Official Account: @thaiselect หรือ เว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า www.dbd.go.th >> DBD e-Magazine >> Thai SELECT Guide
ทั้งนี้ การนำผลไม้ไทยและผลไม้ตามฤดูกาลไปประกอบเป็นเมนูพิเศษหรือเมนูหลัก นอกจากจะได้เพิ่มผลไม้เป็นส่วนประกอบในเมนูอาหาร เป็นการเพิ่มความหลากหลายในเมนูอาหารแก่ผู้บริโภคแล้ว ยังเป็นการช่วยเหลือ/สนับสนุนเกษตรกรชาวสวนผลไม้ในจังหวัดให้สามารถขยายช่องทางการตลาดและช่วยกระจายผลไม้ในแต่ละช่วงฤดูกาลด้วย โดยมีสำนักงานพาณิชย์จังหวัดแต่ละจังหวัดเป็นผู้ประสานงานในการกระจายและจำหน่ายผลไม้ของจังหวัด
ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 15 พฤษภาคม 2568) มีร้านอาหารที่ได้รับตราสัญลักษณ์ Thai SELECT จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ จำนวน 496 ร้าน แบ่งเป็น กรุงเทพมหานคร 82 ร้าน ภาคเหนือ 96 ร้าน ภาคกลาง 107 ร้าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 87 ร้าน ภาคใต้ 87 ร้าน และ ภาคตะวันออก 37 ร้าน