‘ป้า ธิดา’ แนะ ‘ทักษิณ’ อย่ากลัวคุก หากรับโทษก็ไม่ลำบากเท่าเสื้อแดง ชี้หากคดีฮั้วเลือก ส.ว. ไม่ดำเนินการถึงที่สุดอาจเกิดวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ เปิดทางการทำรัฐประหารอีกครั้ง เตือน ‘กองทัพ’ อย่าทำ ประเทศจะไม่เหลือ ประเมินยุบสภาในเวลาใกล้คงยาก เชื่อความขัดแย้งของสองพรรคการเมืองจบได้ด้วยการเจรจาต่อรอง แนะถอยคนละก้าว
เมื่อวันที่ 19 พฤษภาคม เวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา นางธิดา ถาวรเศรษฐ อดีตประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ให้สัมภาษณ์ในประเด็นเกี่ยวกับบริบททางการเมือง โดยเฉพาะนิติสงครามของพรรคการเมืองขั้วเดียวกันว่า ขณะนี้ต้องถือว่าเป็นวิกฤติการเมืองของพรรคการเมือง แม้จะตั้งรัฐบาลร่วมกันแต่มีความขัดแย้งเรื่องผลประโยชน์ และเรื่องที่สืบเนื่องมจากอดีตที่มีปัญหา ดังนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เขาก็มีประโยชน์ร่วมกันคือการเป็นรัฐบาล เชื่อว่าความสัมพันธ์ทางการเมืองอยู่ในลักษณะแบบตบจูบ ไปจนถึงช่วงเวลาใกล้ครบเทอมและมีการเลือกตั้งใหม่ เพราะฉะนั้นโอกากาสที่จะยุบสภาอย่างรวดคงยาก และพรรครวมรัฐบาลต้องหาทางให้รัฐบาลอยู่ให้นานที่สุด ขณะเดียวกันความขัดแย้งที่เกิดขึ้นอาจกลายเป็นการต่อรอง
“ดังนั้นความขัดแย้งระหว่างพรรคภูมิใจไทยและพรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นความขัดแย้งที่เรียกว่าหนักอยู่ หรือหาก นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีปัญหากับขั้วฝั่งอนุรักษ์นิยม ความเป็นเอกภาพไม่มี และคนเกลียดนายทักษิณเยอะมาก เพราะฉะนั้นหมายความว่าแม้จะมีดีลแล้วก็ไม่จบ และคิดว่านายทักษิณมีปัญหา ตรงที่ว่าเมื่อดีลไม่จบ ต้องกลับมารับโทษ พูดจริงๆ นายทักษิณไม่ควรที่จะกลัวคุกมากจนเกินไป เพราะคนที่เคยร่วมต่อสู่มาในอดีตเข้าคุกกันมาแล้วทั้งนั้น หากนายทักษิณเข้าคุกก็ไม่ต้องยากลำบากเหมือนพวกเยาวชน อดีตแกนนำเสื้อแดง หรือคนเสื้อแดงด้วยซ้ำ อยากฝากไปถึงนายทักษิณว่าสมมุติว่าจะต้องติดคุกอีก ทางที่ดีคือเข้าไปอยู่โรงพยาบาลสราชทัณฑ์ดีที่สุด อย่าไปกลัวเลย นี่คือจุดอ่อน” นางธิดากล่าว
นางธิดากล่าวต่อว่า ในทรรศนะของตนไม่ได้คิดว่านายทักษิณจะหนี เพราะเคยได้ยินมา คำพูดว่าจะไม่ยอมตายแบบ นายปรีดี พนมยงค์ อดีตนายกฯที่ต้องเสียชีวิตนอกประเทศ ดังนั้นเรื่องการต่อรองก็ต่อรอง และเรื่องของนายทักษิณก็คงพยายามจะแยกกับเรื่องของรัฐบาล แต่ไม่ง่ายเหมือนกับเรื่องเลือกฮั้ว ส.ว. เพราะฉะนั้นประเด็นเรื่องพรรคสีน้ำเงิน เรื่องฮั้ว ส.ว. กับประเด็นเสื้อแดง เรื่องนายทักษิณ มีความรุนแรงทั้งคู่ แต่ในกรณีของนายทักษิณในฐานะที่รู้จักกันมา มีคำแนะนำว่าให้เข้าคุกเหมือนกับคนอื่นดีที่สุด จะเป็นทางที่นายทักษิณไม่ต้องไปเสียชีวิตอยู่เมืองนอก และจะทำให้อยู่รอดได้
นางธิดากล่าวว่า ส่วนกรณีฮั้ว ส.ว.เป็นเรื่องที่คนในสังคมรับไม่ได้ จึงขอร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเดินหน้าเพื่อเอาคนผิดรับโทษให้ได้และอยากให้จบอย่างที่คนไทยทั้งประเทศอยากเห็น จึงขอส่งคำเตือนไปยังคณะกรรใมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าที่แล้วมามีความผิดพลาดเยอะ แต่ครั้งนี้เป็นเรื่องที่รุนแรงมาก เป็นเรื่องที่เสี่ยงมาก เพราะฉะนั้นไม่ควรจะเสี่ยง ขอให้ดำเนินการคดีฮั้ว ส.ว.อย่างถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นประเทศจะไม่มีความหวัง ส่วนประเด็นพรรคเพื่อไทยแก้ไม่ได้ เพราะต้องการพิทักษ์นายทักษิณจนมากเกินไป ส่วนกรณีพรรคสีน้ำเงินเรื่อง ฮั้ว ส.ว.หากการดำเนินคดีไม่เป็นไปอย่างถึงที่สุด เชื่อว่าประเทศชาติจะถึงวิกฤตการเมืองครั้งใหญ่ เราไม่อยากให้มีการเปิดทางต้อนรับรัฐประหาร ซึ่งเป็นอีกทางหนึ่งที่เชื่อว่ามีความเป็นไปได้
นางธิดายังกล่าวถึงเกมทางการเมืองที่ขั้วพรรคการเมืองต้องการตัดอำนาจทางการเมืองของคู่แข่ง โดยเฉพาะอำนาจของวุฒิสภาในการให้ความเห็นชอบองค์กรอิสระ ว่า เป็นการแบ่งผลประโยชน์ และต่อรองทางการเมือง แต่ในนามประชาชนไม่ว่าใครจะดำเนินการฮั้ว ส.ว.ไม่ว่าจะเป็นสีแดงและสีน้ำเงิน เรายอมรับไม่ได้ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับพรรคการเมือง แต่เกี่ยวกับหลักการ เพราะการเลือก ส.ว.ครั้งนี้สะท้อนว่าหากทำเช่นนี้ได้หมายถึงคุณซื้อประเทศไทยไปเรียบร้อยแล้ว ได้เงิน 500 ล้านบาท เพราะเป็นที่มาขององค์กรอิสระ รวมถึงศาลรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเรื่องที่น่ากลัวมาก และหากเกิดรัฐประหารอีกครั้ง ประเทศไทยอาจจะอยู่ในภาวะยิ่งกว่า Fail stage หรือรัฐล้มเหลว ไม่มีทางที่จะกู้ประเทศขึ้นมาได้ จึงขออย่าให้มีเลย และขอเตือนไปยังกองทัพว่าอย่าทำรัฐประหาร ซึ่งหากมีการทำรัฐประหารอีกครั้งก็จะถือเป็นการทำลายชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ และประเทศชาติจะไม่เหลืออะไร
“จึงคิดว่ามาถึงจุดสำคัญเรื่องของผลประโยชน์ของทั้งสองพรรค ดิฉันไม่สนใจ เพราะประชาชนกำลังจับตาดูอยู่ แต่ที่สนใจคืออย่าสร้างวิกฤตการเมืองเพื่อที่จะทำให้เกิดความชอบธรรมของการทำรัฐประหารรอบใหม่ และเตือนพรรคการเมืองที่กำลังห้ำหั่นด้วยผลประโยชน์ที่ไม่ลงตัว ว่าต้องถอยคนละก้าว ยึดผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก ไม่ใช่เอาผลประโยชย์เป็นหลัก และอย่าเดินทางที่ผิดมากกว่านี้” นางธิดากล่าว