ตอนนั้นเริ่มเอ๊ะใจหรือยัง?
“ณ ตอนนั้นเหมือนเราติดกับดักเขาค่ะ ตอนนั้นเราใจจดใจจ่ออยู่กับมือถือ พยายามหาทางออกว่าจะเอาเงินออกมาให้เร็วที่สุดได้ยังไง จะเอาเงินคืนได้ยังไง คุณพ่อคุณแม่พยายามมาคุยด้วย เราปิดประตูล็อกห้องเราก็ไม่เปิด มีหลายคนพยายามติดต่อเรา เราก็ไม่ได้รับสาย กระทั่งส่งข้อความมาว่าเป็นอะไร อยู่ดีๆ ก็เงียบทั้งวัน คนเห็นความผิดปกติของเราแล้วค่ะ”
เขาต้องการให้โอน 5 แสน เบสท์ทำยังไงต่อ?
“ต้องบอกว่า ณ เวลานั้น เงินในบัญชีเรามีไม่พอ ตัวละครนึงที่อ้างว่าเป็นแฟนคลับเรา ก็ทักมาส่วนตัวว่าพี่ไม่อยากได้เงินคืนเหรอ เดี๋ยวหนูให้ยืมก่อนก็ได้ พี่มีเท่าไหร่ ทำเป็นแพทเทิร์นเดิมกับคนก่อนหน้าที่ให้ยืม เราก็เริ่มเอะใจว่าคนเราไม่รู้จักกันเป็นการส่วนตัว เพิ่งมาเจอกัน ทำไมถึงใจดีให้ยืม มันเริ่มแปลก แล้วแพทเทิร์นมันเหมือนเดิม แล้วคนแรกที่ให้ยืมไป เขาก็ดูไม่มีทีท่าที่จะทวงเรา ก็เลยเริ่มเอะใจว่ามันไม่น่าใช่แล้ว บวกกับคนรอบตัวเตือนว่ามันไม่น่าใช่แล้วนะ ให้หยุดทุกอย่าง ก็เลยหยุด พอหยุดเขาก็ทักมาหาเราตลอดว่าเวลาจะหมดแล้วนะ ภายใน 1 ชม. ถ้าไม่โอนจะถูกยึดเงิน เราตัดสินใจโทรไปอายัดบัญชี 2 บัญชีที่เราโอนออก และโทรไป 1441 แจ้งความ จากนั้นพอเราแจ้งทุกอย่าง ได้เคสไอดี ได้ตัวเลขจากธนาคารทั้งสองธนาคาร จากเจ้าหน้าที่ ตร.ก็ไปแจ้งความที่ สน.ทองหล่อตอนนั้นเลย ตอนเที่ยงคืน เวลาที่มันเริ่มต้นหลอกลวงคือ 11 โมง เราโอนก้อนสุดท้ายประมาณ 3 ทุ่ม แต่โปรเซสที่เราหยุดแชต หยุดคุยกับเขา ประมาณเที่ยงคืน ประมาณ 13 ชม. ไม่กินข้าว ไม่ดื่มน้ำ ไม่ทำอะไรเลย เหมือนเราขังตัวเองอยู่ในห้อง มันเหมือนเราถูกสะกดจิตจริงๆ นะ เหมือนเราตกอยู่ในภวังค์ เราไม่เข้าใจว่าทำไมเราเอาตัวเองออกมาไม่ได้ เราจมอยู่ในนั้น มีคนพยายามเตือนเรา แต่เราไม่ฟัง เหมือนคนหูหนวกตาบอดและหูดับ มีคนพยายามบอกว่าไม่น่าใช่แล้วนะ ให้ระวังนะ มีเคสแบบนี้เยอะนะ ขนาดมีคนส่งลิงก์ข่าวแบบนี้ เรายังไม่เปิดดูเลย เราโฟกัสอยู่อย่างเดียว เหมือนใช้จิตวิทยา กดดันหมู่ แล้วมีเรื่องเวลาที่มาบีบคั้นเรา เหมือนต้องภายใน 15 นาที เงินก้อนใหญ่ภายใน 1 ชม. เราก็ไม่รู้ทำไง เราอยากได้เงินเราคืน เราไม่ได้สนใจค่าคอมมิชชั่นหรือโบนัสแล้ว เราอยากได้เงินตัวเองคืนเท่านั้น เราโฟกัสแค่นี้เลย”
วินาทีที่รู้ว่าเราโดนมิจฉาชีพ เรารีบบอกครอบครัวเลยมั้ย?
“ตอนแรกไม่กล้าบอกใคร คุณพ่อคุณแม่พี่สาวไม่กล้าบอกเลย หนูยังไม่เชื่อตัวเองเลยว่าถูกหลอก ตอนนั้นเราตัวสั่น รู้สึกว่าเฮ้ย มันเกิดกับเราจริงๆ เหรอ เรายังไม่เชื่อว่าเราโดนหลอก จนกระทั่งไปแจ้งความถึงรู้ว่าเราโดนหลอกจริงๆ เงินในบัญชีเราหาย ทำให้เรารู้ตัวว่าโดนแล้วจริงๆ ณ เวลานี้ก็ยังไม่เชื่อว่าสิ่งที่เราเจอเป็นเรื่องจริง”
ตายังช็อกอยู่เลย ว่าโดนเหรอ ใช่เหรอ เรื่องจริงเหรอ สายตาเป็นแบบนั้นเลย?
“ที่เราโอนต่อ โอนเพิ่ม เพราะเรามีความหวังว่าจะได้เงินคืนจริงๆ ณ เวลานั้นไม่คิดเลยว่าเราจะถูกหลอก มันเหมือนแบบอีกนิดเดียว แล้วเวลาคนคุยกับเรา ก็บอกว่าเดี๋ยวก่อน ขอเคลียร์ธุระให้เสร็จก่อน เรายังมั่นใจอยู่เลยว่าอีกแป๊บนึงเราจะได้เงินคืนแล้ว แล้วเราจะไปเล่าให้คนอื่นฟังว่าเราทำอะไรมา แต่พอแบบนี้เราไม่มีโอกาส เหมือนเราพลาดไปแล้ว มันเฟลไปแล้ว”
ทั้งหมดตั้งแต่ก้อนแรกถึงก้อนสุดท้าย โดนไปเท่าไหร่?
“1.2 ล้าน มีเศษอยู่พันกว่าบาทค่ะ”
มีหน้าม้าโกหกว่าจะเอาเงินไปรักษาลูก?“ใช่ค่ะ พวกนี้เขาทำงานเป็นทีม จะมีตัวละครนึงที่บอกว่าเขาหาเงินไม่ได้ เขาต้องเอาโฉนดที่ดินไปจำนอง อีกคนบอกว่าลูกสาวป่วย ส่งรูปอยู่บนเตียงมาว่าอยากได้เงินคืนจะเอาไปรักษาลูกสาว แล้วก็มีบอกว่ากำลังขับรถไปหาเงิน มีทักมาส่วนตัว อันนี้เขาส่งในกลุ่มให้เห็นว่าเขาเดือดร้อนมากนะกับสิ่งที่เราทำพลาด ทุกคนต้องการเงินคืน ให้เราเห็นใจด้วยค่ะ”
ให้แบกความรู้สึกผิด ทำให้ยิ่งรู้สึกว่าต้องทำสิ่งนี้ไปเรื่อยๆ ณ โมเมนต์นั้น ผ่านเหตุการณ์มา ตั้งสติได้แล้ว ไปแจ้งความ เห็นว่าทุกอย่างสายไปหมดแล้ว?“พวกนี้พอเราโอนไปแล้ว เขาโอนออกไวมากอยู่แล้ว ไม่เกิน 1-10 นาที เขาโอนออกหมดแล้ว เราอายัดบัญชีตอนประมาณ 4 ทุ่ม มันน่าจะไม่ทัน ตร.แจ้งว่าถึงแม้อายัดภายใน 5 นาทีแรกก็ยังไม่ทัน พวกนี้เขาโอนไปเร็วมาก ณ เวลานี้ยังไม่ทราบว่าบัญชีปลายทางที่เรียกว่าบัญชีม้าจะเหลือเงินเท่าไหร่ค่ะ”
ผ่านมากี่วันแล้ว?“เหตุการณ์เกิดวันที่ 9 ค่ะ ขั้นต้นหลังเราแจ้งความแล้ว ทาง ตร.ก็อายัดบัญชีถาวรของบัญชีม้าทั้งหมดที่เราโอนไป เขาอยู่ในขั้นดำเนินการตรวจสอบ ทีนี้ต้องรอสเตทเมนต์ทางธนาคารปลายทาง ซึ่งแจ้งว่าตั้งแต่เขาฟรีซบัญชีไปแล้ว เขามีโอนออกเท่าไหร่ ตอนนี้อยู่ในขั้นตอน ตร.ดำเนินการเช็กว่าบัญชีเหลือเท่าไหร่ ซึ่ง ตร.แจ้งว่าพวกนี้เขาจะแปลงเป็นสกุลเงินดิจิทัลเร็วมาก แล้วมันจะตามยาก”
เบสท์ทำใจแล้วว่าไม่น่าได้คืน?
“ทำใจว่าโอกาสได้คืนน่าจะยาก เพราะเงินออกไปแล้ว และเร็วมาก แต่ไม่หมดหวังนะคะ เบสท์เชื่อมั่นตร.ไทยค่ะ ตร.ไทยเก่ง น่าจะจับตัวคนร้ายมาได้ แต่การจับคนร้ายได้ เราอาจไม่ได้เงินคืนหรือเปล่า บัญชีม้าอาจไม่มีเงินชดใช้ บัญชีม้าบางทีเป็นตาสีตาสาเป็นเด็ก เขาไม่มีเงินชดใช้เรา”
ความหวังริบหรี่มากที่จะได้เงินคืน ครอบครัวเป็นไงบ้าง?
“ตอนแรกที่เขารู้เรื่อง เขาก็บอกว่าทำไมถึงโง่โอนให้เขาแบบนี้ เราก็พยายามอธิบายว่าพอคนไม่ได้ตกอยู่ในสถานการณ์แบบนั้น จะไม่เข้าใจว่าทำไมเราถึงโอนออก ซึ่งโดยส่วนตัวเบสท์ใช้เงินคิดแล้วคิดอีก เป็นคนรู้ค่าของเงิน ค่อนข้างประหยัดค่ะ การที่ใช้ที โอนออกที ค่อนข้างยากสำหรับเรา พ่อแม่คนรอบตัวไม่มีใครเชื่อเลยว่าเรื่องนี้จะเกิดกับเรา ไม่มีทางเลย แต่ตอนหลังพอหายจากตกใจ พ่อแม่ก็ให้กำลังใจว่าไม่เป็นไร เงินที่เสียไปแล้วก็ไม่เป็นไร จริงๆ แล้วในมุมเบสท์ตราบใดที่เรายังมีลมหายใจอยู่ เราสามารถทำงานได้อยู่ เราสามารถมีรายได้ ทำงานมีเงินเข้ามาได้ เงินก้อนนี้ไม่ใช่ก้อนสุดท้ายในชีวิตของเรา หลายๆ คนที่ติดต่อเข้ามาเขาเป็นผู้เสียหาย มาร้องทุกข์กับเรา ว่าเงินก้อนนี้เป็นก้อนสุดท้ายในชีวิตของเขา เขาไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว เขาเครียด เบสท์ก็พยายามให้กำลังใจผู้เสียหายทุกคนว่าจริงๆ แล้วเรายังทำงานต่อได้นะ ให้กำลังใจซึ่งกันและกันค่ะ ตอนนี้ทุกคนเครียดหมด”
ตอนที่ไปแจ้งความ มีเคสที่โดนรีวิวแบบนี้กี่เคส?
“ที่รวบรวมมาได้ เป็นเพจเดียวกัน รีวิวเหมือนกัน ประมาณ 10 คนได้ค่ะ มูลค่าความเสียหายประมาณ 2 ล้านบาท ณ ตอนนี้ แต่จะมีคนอื่นๆ ที่เป็นเคสอื่น รีวิวเสื้อผ้า แพ็กของ ผู้เสียหายทุกคน เขาอยากทำงาน อยากหารายได้เสริม คนขยันที่โดน พวกนี้เขายิงแอดเป็นทาเก็ตด้วย เป็นกลุ่มคนที่เป็นวัยทำงาน มีรายได้ เป็นกลุ่มคนเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น ผู้ชายไปสมัครเขาไม่รับนะคะ เขาบอกว่าผู้หญิงเป็นเพศเซนเซิทีป ขี้สงสาร และใจไม่แข็งเท่าผู้ชาย ผู้ชายเขาไม่รับเลย เหยื่อมีแต่ผู้หญิงทั้งหมดค่ะ”
ไม่โดนก็ไม่รู้ เวลาโดนแล้วออกมาเป็นกระบอกเสียง แทนที่จะชื่นชม กลายเป็นว่ารุมด่า รุมสาป คอมเมนต์อ่านแล้วจะไปว่าเขาทำไม เช่น สวยแต่โง่ หรือลามไปเรื่องการศึกษา เรียนก็สูงแต่ทำไมไม่ฉลาด เบสท์รู้อยู่แล้วว่าลงแล้วจะเป็นยังไง คำไหนที่คิดว่าแรงมาก?
“ที่โดนก็แรงทุกคำค่ะ จะมีสวยแต่โง่ การศึกษาสูงซะเปล่า โลภ น่าจะโดนเยอะกว่านี้เนอะ มีหลายรูปแบบมาก เอาจริงๆ เบสท์ตั้งรับไว้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าเราออกมาให้ข่าว หรือแชร์ประสบการณ์ ต้องมีคนรุมต่อว่ารุมด่าเรา บางคนสมน้ำหน้า มีหลายรูปแบบมาก พอเราเห็น เราก็รู้สึกว่าจริงๆ แล้วสังคมไทยเดี๋ยวนี้ชอบเบลมเหยื่อ ทำให้เหยื่อไม่กล้าออกมาแชร์ หลายๆ คนที่ติดต่อเบสท์มาบอกว่าพอหนูโพสต์ไปคนก็รุมด่าหนูว่าโง่ หรือบางคนโดนแล้วไม่บอกคุณพ่อคุณแม่เพราะกลัวโดนว่า หรือโดนแล้วหมดเป็นแสนเป็นล้านแต่ไม่กล้าออกมาแชร์เพราะกลัวว่าสังคมจะรุมด่า ซึ่งโดนด่า 70-80 เปอร์เซ็นต์ เราทำใจไว้อยู่แล้ว เราตั้งรับไว้อยู่แล้วว่าต้องโดน ก็รู้สึกแย่เหมือนกันค่ะ เบสท์ออกมาไม่ได้ต้องการให้คนสงสาร หรือเห็นใจเรา เราอยากออกมาเตือนภัย ถือว่าเป็นการแชร์ประสบการณ์ การที่เราโดนมันเป็นยังไง อย่างข่าวเบสท์ที่ออกไป เราได้ช่วยเหลือหลายๆ คนนะคะ มีคนส่งข้อความมาบอกว่าต้องขอบคุณเบสท์มากๆ พอกำลังตกหลุมพราง กำลังคลิก พอเห็นข่าวเราในทีวี เห็นข่าวในอินเตอร์เน็ต เขาหยุดทัน หรือบางคนที่ตกเป็นเหยื่อแล้ว กำลังจะโอนต่อก็หยุดโอนเพราะเห็นจากข่าวเรา ซึ่งคนจะบอกว่าไม่อ่านข่าวบ้างเหรอ ไม่ตามข่าวบ้างเหรอ เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ในสังคมไทย แต่เบสท์เจอมิจฉาชีพหลอกอยู่เรื่อยๆ อยู่แล้ว โทรมาเป็นคอลเซ็นเตอร์ หรือแม้กระทั่งส่งอีเมล์มาติดต่อให้เรารีวิวสินค้าแบรนด์เนม แต่ต้องให้เราโอนค่าชิปปิ้งฟรีไปก่อน อันนี้เราไม่พลาด ไม่หลงกล เพราะทุกอย่างมีเวลาคิดค่ะ มีเวลาไตร่ตรอง แต่เคสนี้ทุกอย่างบีบด้วยเวลา ทำให้เราไม่มีเวลาฉุกคิด ระมัดระวังตัว เอ๊ะหนึ่งเอ๊ะสองมันเลยไม่มี เพราะเราอยากได้เงินคืน ฉะนั้นหลายคนอาจต่อว่าเบสท์ว่าทำไมไม่อ่าน หนูก็ไม่ได้ตอบโต้ แต่ใช้วิธีการชี้แจงในเฟซบุ๊กส่วนตัวว่าสาเหตุอะไรเราถึงตกหลุมพรางเขา เพื่อเป็นการเตือนภัยเขาว่าจริงๆ ถึงเราเป็นคนระมัดระวังตัว แต่จริงๆ บางทีมันก็ไม่พอค่ะ”
อยากบอกอะไรคนที่บอกว่าสวยแต่โง่?
“อยากบอกว่าเรื่องพวกนี้ ถ้าไม่เจอกับตัวไม่มีวันเข้าใจ ไม่มีวันรู้ แม้กระทั่งเบสท์โดนคนพูดว่าคนโดนมาแล้ว แต่ฉันรอดมาได้ เพราะเธอโง่เอง เธอไม่ฉลาดเอง ก็โดนทุกคำ ไม่ว่าคำไหนที่เราออกมาพูด ก็จะโดนแซะกลับมาเสมอ ก็จะบอกว่าคนเป็นเหยื่อเหมือนกัน ทุกคนพูดว่าเขาเข้าใจเบสท์ เพราะเขาก็เป็นเหมือนกัน”
เครียดจนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ แฟนให้กำลังใจยังไง?
“อย่างแรกเขาไม่ซ้ำเติม เขาไม่ได้ต่อว่าเรา ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เขาให้กำลังใจ เขาแค่งงว่ามันเกิดขึ้นกับเราได้ยังไง เพราะเขาชอบแซวว่าปกติเงินกระเด็นออกจากบัญชีได้สักบาทมันยากมากคนรอบตัวจะรู้ พอเกิดเหตุการณ์นี้ทุกคนก็บอกว่าไม่น่าเชื่อนะว่าเกิดขึ้นกับเรา”
คลิปสัมภาษณ์ :