เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 21 พฤษภาคม ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับ นาง Hala Youssef Ahmed Ragab (ฮาละฮ์ ยูซุฟ อะห์มัด เราะญับ) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ประจำประเทศไทย
โดยรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับอียิปต์ที่ดำเนินมาอย่างยาวนานและแน่นแฟ้น โดยอียิปต์เป็นประเทศแรกในกลุ่มประเทศอาหรับที่สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับไทย (สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตร่วมกัน เมื่อปี พ.ศ. 2497 (ค.ศ.1954) และในปี พ.ศ.2567 ที่ผ่านมา ไทยและอียิปต์ได้เฉลิมฉลองครบรอบ 70 ปีของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างยิ่งใหญ่ โดยจัดกิจกรรมต่าง ๆ ทั้งในประเทศไทยและอียิปต์ตลอดทั้งปี อาทิ การประกวดออกแบบตราสัญลักษณ์ การสอนและสาธิตมวยไทย ในกรุงไคโร การเยือนไทยของผู้นำศาสนาอิสลามอียิปต์ และการจัดกิจกรรมทางวัฒนธรรมและการศึกษา)
สำหรับปี พ.ศ.2568 ครบรอบ 71 ปี ของการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างทั้งสองประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาทั้งสองประเทศต่างมีความร่วมมือที่ดีทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว ศาสนา และวัฒนธรรม ทั้งนี้ หวังว่าจะได้ยกระดับความร่วมมือระหว่างกันให้แน่นแฟ้นและขยายไปยังมิติอื่น ๆ เพิ่มมากขึ้น
ในโอกาสนี้ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้ขอบคุณทางอียิปต์ ที่ดำรงความร่วมมือด้านอาหารฮาลาลกับฝ่ายไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเชิงการค้า การรับรองมาตรฐาน การประชาสัมพันธ์ และการวิจัย โดยไทยถือว่าอียิปต์เป็นตลาดยุทธศาสตร์สำคัญ ในการขยายผลิตภัณฑ์ฮาลาลของไทยไปสู่โลกอาหรับและแอฟริกา จึงประสงค์ให้มีการยกระดับ ความร่วมมือในด้านดังกล่าวร่วมกันต่อไป
รวมทั้งขอขอบคุณอียิปต์ที่สนับสนุนไทยในการทำความเข้าใจกับมิตรประเทศ โดยเฉพาะต่อองค์การความร่วมมืออิสลาม เกี่ยวกับสถานการณ์และแนวทางในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทั้งนี้ ไทยยืนยันเจตนารมณ์ในการแก้ไขสถานการณ์จังหวัดชายแดนภาคใต้ด้วยหลักการสันติวิธีและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด เพื่อเป้าหมายของการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข บนพื้นฐานความแตกต่างของสังคมพหุวัฒนธรรม ทั้งนี้ ขอบคุณที่อียิปต์สนับสนุนทุนการศึกษาให้กับนักศึกษาชาวไทยมุสลิม รวมทั้งได้ดูแลสวัสดิภาพของนักศึกษาไทยเป็นอย่างดี ซึ่งทางเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอาหรับอียิปต์ประจำประเทศไทย ได้เรียนว่าทางอียิปต์ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสสนับสนุนความร่วมมือในด้านต่าง ๆ และยินดีที่จะเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างกันต่อไป
ในปัจจุบันรัฐบาลไทยมีนโยบายส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ เพื่อการพึ่งพาตนเองและเป็นหลักประกันด้านความมั่นคง ตลอดจนมุ่งหวังพัฒนาไปสู่การส่งออกในอนาคต โดยมีผลิตภัณฑ์เป้าหมาย ประกอบด้วย 1.ยานพาหนะเพื่อความมั่นคง 2.อุตสาหกรรมต่อเรือ 3. อากาศยานไร้คนขับ และ 4.อาวุธและกระสุน หวังว่าจะมีโอกาสพัฒนาความร่วมมือ และสามารถเป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่อุปทานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศระหว่างกันต่อไป ทั้งนี้ กห. พร้อมให้การสนับสนุนและประสานผู้ประกอบการไทยในการเข้าร่วมงานนิทรรศการป้องกันประเทศ Egypt Defence Expo (EDEX) ซึ่งเป็นงานที่มีชื่อเสียงและบทบาทสำคัญอย่างมากในภูมิภาคตะวันออกกลางและแอฟริกา ที่จะมีขึ้น ระหว่าง 1- 4 ธ.ค.68
อย่างไรก็ตาม กห. มีกำหนดจัดงาน Defense & Security 2025 ระหว่าง 10- 13 พ.ย.68 ณ ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี ประเทศไทย ซึ่งงานนิทรรศการดังกล่าว เป็นงานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์และเทคโนโลยีป้องกันประเทศ รวมถึงมีหน่วยงานด้านการทหารและอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยและนานาชาติเข้าร่วมงานดังกล่าว เพื่อเป็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านความมั่นคง และแสดงเทคโนโลยีที่ทันสมัยในด้านต่าง ๆ ทั้งนี้ ขอเชิญชวนฝ่ายอียิปต์จัดผู้แทนหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมงาน อันจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันต่อไป โดยทางอียิปต์หวังว่าจะได้ให้การต้อนรับผู้แทนของไทยในการเข้าร่วมนิทรรศการ EDEX ด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้มีการแลกเปลี่ยนทัศนะต่อสถานการณ์สำคัญในภูมิภาค อาทิ ความขัดแย้งในตะวันออกกลาง สถานการณ์ในยูเครน เมียนมา คาบสมุทรเกาหลี รวมถึงทะเลจีนใต้ โดยไทยยืนยันจุดยืนยึดมั่นสันติวิธี การเคารพสิทธิมนุษยชน และการแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจาและหลักกฎหมายระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ กระทรวงกลาโหมย้ำความพร้อมในการขับเคลื่อนความร่วมมือกับอียิปต์ในทุกมิติ เพื่อประโยชน์ร่วมกันในระดับทวิภาคีและภูมิภาคต่อไป