ล่าสุด 22 พ.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่บ้าน นายคำดี (สงวนนามสกุล) อายุ 55 ปี ผู้ใหญ่บ้านลมศักดิ์ ผู้เสียชีวิต โดยช่วงเช้าญาติได้นำร่างผู้เสียชีวิต กลับมาบำเพ็ญกุศลตามประเพณีที่บ้านเกิด ซึ่งบรรยากาศเป็นไปด้วยตวามโศกเศร้า โดยมีนายพงษ์ธร จันทร์สวัสดิ์ นายอำเภอขุขันธ์ พร้อม นางณัฐนันท์ จันทร์สวัสดิ์ นายกกิ่งกาชาดอำเภอขุขันธ์ นำหัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องถิ่น ร่วมพิธีขอขมา และร่วมรดน้ำศพ นายคำดี
นายวรพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 33 ปี เปิดเผยว่า ตนเป็นลูกชายคนโตของผู้ตาย วันเกิดเหตุตน และพ่อออกไปทำนาหว่านข้าวพร้อมกับพี่ที่เป็นลูกพี่ลูกน้องอีกคนหนึ่ง รวมเป็น 3 คน ตอนเกิดเหตุฝนกำลังตกแต่ไม่แรง ตนก็นั่งหลบฝนอยู่ใต้ต้นไม้ แต่พ่อของตน (ผู้ตาย) กำลังหว่างข้าวอยู่กลางทุ่งนา อยู่ๆ ตนก็ได้ยินเสียงดังปั้ง จังหวะนั้นตนหันไปหาพ่อพอดี ก็เห็นพ่อล้มทั้งยืนนอนแน่นิ่งอยู่กลางทุ่งนา ตนกับลูกพี่ลูกน้องต่างช่วยกันอุ้มร่างพ่อขึ้นมาจากนา ก่อนจะได้เรียกให้คนแถวนั้นช่วย และรีบนำพ่อส่งโรงพยาบาลไพรบึงในเวลาต่อมา
ด้าน นายสันติพงษ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 29 ปี เล่าให้ฟังว่า ตนเป็นหลานของผู้ตาย วันนั้นตนทำหน้าที่ขับรถไถปั่นนาให้ผู้ตาย ยังหวะที่ตนกำลังนั่งขับรถไถอยู่นั้นตนเห็นฟ้าผ่าลงมาใส่ผู้ตายอย่าจัง ตอนนั้นตนตกใจมากรีบเรียกลูกชายคนตายให้เข้าไปช่วย ก่อนจะช่วยกันอุ้มผู้ตายขึ้นมาจากนา แล้วเรียกรถโรงพยาบาลให้มาช่วยดังกล่าว
ทั้งนี้จากเหตุการณ์ดังกล่าว ตนก็อยากจะขอฝากเตือนชาวบ้าน เกษตรกร ที่ออกไปทำนา ทำสวน ช่วงฤดูฝน ขอให้ระมัดระวังฟ้าฝนด้วย ถ้ามีฝนฟ้าตกขอให้ไปหลบในที่ปลอดภัยหรือรีบกลับบ้าน ไม่ให้สวมใส่เครื่องประดับหรือสิ่งล่อฟ้า ระวังเพื่อจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์สลดแบบนี้ขึ้นอีก