—คือคำสารภาพที่เบลล่าเลือกจะเปิดเผยอย่างตรงไปตรงมา หลังจากทีมงานในกองถ่าย The Last of Us สังเกตเห็นพฤติกรรมบางอย่าง และชักชวนให้เธอไปพบผู้เชี่ยวชาญ ผลการวินิจฉัยยืนยันว่าเธอมีภาวะออทิสติก
แม้จะเป็นการค้นพบที่เปลี่ยนชีวิต แต่มันกลับทำให้เธอ เข้าใจตัวเองมากขึ้น รู้สึกมั่นใจในความเป็นตัวเอง และรักการแสดงในแบบของตัวเองยิ่งกว่าเดิม
โลกออนไลน์ไม่อ่อนโยนเฉกเช่นเคย...
ทันทีที่ข่าวนี้ถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยกลับโจมตี
เบลล่าอย่างหนัก บางคนกล่าวหาว่าเธอ
“สร้างเรื่อง” เพื่อเรียกคะแนนสงสาร หรือ
“อยากให้คนรัก” ในขณะที่บางเสียงวิจารณ์ว่า เรื่องนี้ควรถูกเก็บไว้เป็นเรื่องส่วนตัว ไม่ควรนำมาเผยแพร่เพราะจะทำให้เธอดูอ่อนแอ

ความกล้าที่เธอคิดว่าจะสร้างแรงบันดาลใจ กลับถูกตีความผิด กลายเป็นมีมในทวิตเตอร์ กลายเป็นหัวข้อเย้ยหยันในกระทู้ และกลายเป็นดราม่าที่ทำให้เธอถูกตราหน้าว่าเป็น
"นักแสดงที่ถูกเกลียดที่สุดในฮอลลีวูด" ณ เวลานี้

แต่ในมุมที่เงียบกว่าและอบอุ่นกว่านั้น...ยังมีคนอีกนับพันที่ลุกขึ้นมาปกป้องเธอ พวกเขาชื่นชมในความกล้า และบอกว่า สิ่งที่เบลล่าทำ คือการเปิดประตูให้คนที่เป็นออทิสติกทั่วโลกได้เห็นว่า พวกเขาไม่โดดเดี่ยว และมีสิทธิ์จะยืนอยู่ใต้แสงไฟได้เช่นเดียวกัน

แม้วันนี้เบลล่าจะต้องเดินฝ่ากระแสดราม่าและคำวิจารณ์อันเจ็บปวด แต่เธอยังคงยืนอยู่ด้วยหัวใจที่เข้มแข็ง และรอยยิ้มที่บอกกับทุกคนว่า
“ฉันไม่สมบูรณ์แบบ แต่ฉันรักตัวเองในแบบที่ฉันเป็น”
และบางที นี่อาจเป็นบทบาทที่กล้าหาญที่สุดในชีวิตจริงของเบลล่า แรมซีย์.