ตำรวจเยอรมนีจับกุมหญิงต้องสงสัยวัย 39 ปี หลังเกิดเหตุใช้มีดไล่แทงผู้คนที่สถานีรถไฟหลักในเมืองฮัมบูร์ก ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บอย่างน้อย 17 ราย
เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2568 สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุทำร้ายร่างกายด้วยอาวุธมีดที่สถานีรถไฟหลักของเมืองฮัมบูร์ก ทางตอนเหนือของเยอรมนี เหตุการณ์เกิดขึ้นช่วงเย็นในเวลาเร่งด่วน ทำให้มีผู้โดยสารจำนวนมากตกอยู่ในความตื่นตระหนก
ตำรวจเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุเป็นหญิงชาวเยอรมันอายุ 39 ปี ถูกจับกุมในที่เกิดเหตุโดยไม่ขัดขืน พร้อมระบุว่า ยังไม่พบหลักฐานชัดเจนว่าแรงจูงใจของเธอเกี่ยวข้องกับการเมืองหรือความเชื่อสุดโต่ง แต่มีข้อมูลที่ต้องตรวจสอบเพิ่มเติมว่าเธออาจมีภาวะฉุกเฉินทางจิตเวช
โฆษกของกรมดับเพลิงเมืองฮัมบูร์กให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า ในจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมด 17 คน มี 4 คนอาการสาหัส และอีก 7 คนบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างประเมินอาการ
เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังเวลา 18.00 น. บริเวณชานชาลาหนึ่งด้านหน้ารถไฟที่จอดอยู่ โดยภาพจากสถานที่เกิดเหตุแสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปิดกั้นทางเข้าและมีรถพยาบาลเข้ามาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ตำรวจนิติเวชยังคงตรวจสอบจุดเกิดเหตุ
บริษัท Deutsche Bahn ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถไฟของเยอรมนี ประกาศปิดให้บริการชานชาลาทั้ง 4 แห่งของสถานี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการสืบสวนอย่างละเอียด
ภายหลังเหตุการณ์ นายกรัฐมนตรีฟรีดริช เมิร์ซ ได้โทรศัพท์แสดงความเสียใจต่อเหตุดังกล่าวกับนายกเทศมนตรีเมืองฮัมบูร์ก พร้อมกล่าวว่า “ผมขอแสดงความเสียใจกับผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัวของพวกเขา”
เหตุการณ์นี้นับเป็นอีกหนึ่งในหลายคดีรุนแรงที่เกิดขึ้นในเยอรมนีช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งหลายคดีมีแรงจูงใจจากญิฮาดหรือกลุ่มขวาจัดสุดโต่ง
ทั้งนี้ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เยอรมนีเพิ่งเกิดเหตุแทงกันอีกครั้งในบาร์ที่เมืองบีเลเฟลด์ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 4 ราย โดยผู้ต้องสงสัยเป็นชาวซีเรียซึ่งสารภาพว่าเขายึดถือแนวคิดญิฮาด ทำให้การสอบสวนคดีนี้ถูกส่งต่อให้กับอัยการรัฐบาลกลาง
กระแสความไม่มั่นคงที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง ทำให้ประเด็นความปลอดภัยของประชาชนและปัญหาผู้อพยพกลายเป็นหัวข้อร้อนแรงในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งเยอรมนีที่ผ่านมา