“ปคม.จับยกแก๊ง Sex Creator ลวงเด็กบ้านแตกบังคับค้ากาม จับใส่ชุดนักเรียนทำคอนเทนต์ สร้างอารมณ์ ก่อนถูกรวบหวังหนีต่างประเทศ วีซ่าไม่ผ่านเพราะติดซิฟิลิส“
วันที่ 23 พ.ค.พล.ต.ต.ทรงกลด เกริกกฤตยา ผบก.ปคม.สั่งการให้พ.ต.อ.ศราวุธ จันต๊ะวงค์ ผกก.3 บก.ปคม.พ.ต.ท.ธีรโชติ นุ่นสพ สว.กก.3 บก.ปคม.นำกำลังเข้าจับกุมนายอชิรวัตติ์ (ขอสงวนนามสกุล) นายสุทธิเจตน์ (ขอสงวนนามสกุล) และนายพงศ์พล (ขอสงวนนามสกุล) ตามหมายจับศาลอาญาที่ 2850-52/2568 โดยผู้ต้องหาที่ 1- 2 ถูกจับกุมข้อหา "สมคบกันตั้งแต่สองคนขึ้นไปเพื่อกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ ฯ จากการผลิตหรือเผยแพร่วัตถุหรือสื่อลามกฯ"ส่วนผู้ต้องหาที่ 3 มีความผิดฐาน "ค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหา หรือรับไว้ซึ่งเด็ก เพื่อการแสวงหาประโยชน์จากการค้าประเวณี และกระทำแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบห้าปีฯ"โดยจับกุมผู้ต้องหาที่ 1 ได้บริเวณอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 จับกุมได้ที่จ.ชลบุรี และผู้ต้องหาที่ 3 จับกุมได้ที่หน้าหอพักแห่งหนึ่งใน จ.นครปฐม
ทั้งนี้เจ้าหน้าที่สืบทราบว่า ผู้ต้องหาทั้ง 3 นั้นรู้จักกันผ่านแอปพลิเคชันหาคู่ของกลุ่ม LGBTQ จนสนิทสนมกัน เนื่องจากมีรสนิยมร่วมเพศแบบชายรักชาย ก่อนจะวางแผนแบ่งหน้าที่ โดยให้นายพงศ์พล ผู้ต้องหาที่ 3 ทำหน้าที่ไปหลอกล่อเด็กชาย ตระเวนหาเหยื่ออายุระหว่าง 12-14 ปี ที่มาจากครอบครัวแตกแยกในจ.นครปฐม และพื้นที่ใกล้เคียง และชักชวนให้มาพักอาศัยอยู่ที่รีสอร์ทด้วยกัน แบบไม่มีค่าใช้จ่าย จากนั้นก็เริ่มบีบบังคับให้เหยื่อออกไปขายบริการทางเพศให้กับผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 หากไม่ทำตามก็จะข่มขู่ไล่ออกจากกลุ่ม ไม่มีใครคบเป็นเพื่อน รวมถึงไม่ให้พักอาศัยอยู่ด้วยกันอีกด้วย ถือเป็นการใช้สภาพความเปราะบางของเด็กที่ไม่มีที่พึ่งพิง มาเป็นเครื่องมือควบคุมและบีบบังคับ
นอกจากนี้ยังทราบด้วยว่านายพงศ์พล ผู้ต้องหาที่ 3 จะรับประโยชน์ค่านายหน้าจากการนำเหยื่อเด็กชายไปขายบริการทางเพศให้ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 โดยเหยื่อจะถูกส่งตัวไปถูกกระทำอนาจารตามรีสอร์ท ต่าง ๆ ในจ.นครปฐม โดยผู้ต้องหาที่ 1 ยังทำหน้าที่เป็นนักแสดงกระทำอนาจารเด็กชายเพื่อสร้างคอนเทนต์ ตามรสนิยมชอบการปลุกเร้าอารมณ์ด้วยการบังคับให้เหยื่อสวมใส่ชุดนักเรียนระหว่างร่วมเพศ หากขัดขืนจะโดนหักค่าตัว ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 จะทำหน้าที่ถ่ายคลิปวิดีโอ เพื่อให้ผู้ต้องหาที่ 1 นำไปประกาศเชิญชวนกลุ่มผู้สนใจบนแพลตฟอร์ม X ซึ่งมีผู้ติดตามจำนวนมาก ให้เข้ากลุ่มไลน์ลับแบบมีการเก็บค่าบริการเข้าชมคลิปกระทำอนาจารจากลูกค้าผู้สนใจ บางครั้งผู้ต้องหาที่ 2 จะทำหน้าที่เป็นนักแสดงอีกบทบาทหนึ่ง สลับกับผู้ต้องหาที่ 1 อีกด้วย
หลังจากนั้้นเจ้าหน้าที่ได้ทำการรวบรวมพยานหลักฐานต่าง ๆ จนกระทั่งสามารถออกหมาย และเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้ดังกล่าว ทราบอีกด้วยว่าก่อนถูกจับกุม นายอชิรวัตติ์ ผู้ต้องหาที่ 1 และนายสุทธิเจตน์ ผู้ต้องหาที่ 2 ต่างรู้ว่ามีเหยื่อ 2 รายที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือไปก่อนหน้านี้แล้ว เกรงว่าจะถูกจับกุมแน่ ๆ จึงวางแผนเดินทางไปทำงานนวดยังประเทศโอมาน แต่ปรากฎว่าผู้ต้องหาที่ 1 นั้นตรวจพบว่าเป็นโรคซิฟิลิส ทำวีซ่าไม่ผ่าน ส่วนผู้ต้องหาที่ 2 นั้นอยู่ระหว่างยื่นขอวีซ่า สอบสวน ผู้ต้องหา ให้การว่าร่วมกันก่อเหตุมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี จึงนำตัวส่ง พนักงสอบสวน กก.3 บก.ปคม.ดำเนินคดีต่อไป