เร่งหาสาเหตุ เฮลิคอปเตอร์ตำรวจรุ่น B212 ตกที่อำเภอเมืองประจวบฯ เสียชีวิต 3 นาย 

เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. วันที่ 24 พฤษภาคม 2568 พ.ต.ท.หญิง สุภาภรณ์ ดวงกันยา พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้รับแจ้งเหตุเฮลิคอปเตอร์ตกในพื้นที่หมู่บ้านหนองกก หมู่ที่ 1 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จึงรายงานผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานรถดับเพลิงจากเทศบาลเมืองประจวบฯ กองบิน 5 องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลัก และ อบต.อ่าวน้อย เข้าควบคุมเพลิงที่ลุกไหม้ตัวเครื่อง

จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เฮลิคอปเตอร์ที่ตกเป็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รุ่น Bell 212 (B212) เดินทางจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี แวะที่ค่ายอาภากรเกียรติวงศ์ ตชด.41 จังหวัดชุมพร ก่อนมุ่งหน้าไปยังค่ายนเรศวร อำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และมีแผนจะบินกลับไปยังหน่วย ตชด.จังหวัดกาญจนบุรี ซึ่งภายในเฮลิคอปเตอร์มีผู้โดยสาร 3 นาย ได้แก่ 1.พ.ต.ต.ประเทือง ชูเลิศ (นักบิน) 2.ร.ต.อ.ทรงพล บุญชัย (นักบิน) และ 3.ร.ต.ท.ทินกฤต สุวรรณน้อย (ช่างเครื่อง) โดยทั้ง 3 นายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ

จากการสอบถามพยานในพื้นที่ มีเด็กชายซึ่งอาศัยอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เล่าว่า ขณะที่กำลังอาบน้ำอยู่ด้านหลังบ้าน ได้ยินเสียงเฮลิคอปเตอร์บินในระดับต่ำ ตามด้วยเสียงระเบิด คาดว่าเป็นส่วนหางของเครื่อง จากนั้นจึงออกมาดูก็พบว่าเครื่องตกแล้ว ขณะเดียวกัน ชาวบ้านอีกคนหนึ่งซึ่งนั่งสังสรรค์อยู่กับเพื่อน เล่าว่า ได้ยินเสียงเครื่องยนต์ของเฮลิคอปเตอร์มาแต่ไกล จึงแซวเล่นว่า มี ฮ.มารับไปซื้อเหล้า แต่ไม่นานก็ได้ยินเสียงระเบิด และเห็นเฮลิคอปเตอร์แตกกลางอากาศก่อนตกลงสู่พื้น

โอกาสนี้ พล.ต.ต.นครินทร์ สุคนธวิท ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผู้บังคับการกองบินตำรวจ ได้เดินทางมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน โดยได้ทำพิธีคลุมร่างผู้เสียชีวิตด้วยธงชาติไทยเพื่อเป็นเกียรติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ยืนทำควาทเคารพสดุดีผู้วายชนม์ ก่อนจัดรถตำรวจนำขบวนให้มูลนิธิสว่างประจวบฯเคลื่อนย้ายศพตำรวจทั้ง 3 นาย ส่งชันสูตรนิติเวช รพ.หัวหิน และเก็บรักษาศพ เพื่อรอญาติมารับกลับไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนาต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.นครินร์ สุคนธวิท ผบก.จ.ประจวบฯ และ พล.ต.ต.อำนาจ เดชบุณเหลือง ผู้บังคับการกองบินตำรวจ เปิดเผยว่า เฮลิคอปเตอร์ลำดังกล่าวเป็นรุ่น Bell 212 ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เป็นเครื่องบินประจำหน่วยฐานบินกาญจนบุรี ได้ไปทำภารกิจทางภาคใต้เมื่อ 2 วันที่แล้ว วันนี้เสร็จภารกิจกำลังมุ่งหน้ามาที่ค่ายนเรศวรเพื่อเติมน้ำมันและบินต่อกลับฐานบินที่ จ.กาญจนบุรี ระหว่างนั้นได้มีการติดต่อหอบังคับการบินได้ประมาณ 5 นาที แล้วก็ขาดหายการติดต่อไป ต่อมาชาวบ้านในละแวกนี้มองเห็นเครื่องมีควันขึ้น ระยะความสูงประมาณ1,000-1,500 เมตร ระยะการเดินทางก็ไม่เกินพันห้า เห็นเครื่องควงและเห็นชิ้นส่วนบางส่วนมันหลุดเครื่องตกลงกระแทกกับพื้นทำให้นักบิน 2 นาย ช่างเครื่อง 1 นาย เสียชีวิต ส่วนสาเหตุก็ต้องรอตรวจสอบ

ความคืบหน้าที่เกิด ผู้บังคับการตำรวจประจวบได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกันพื้นที่ทั้งหมดไม่อนุญาตให้ผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าอย่างเด็ดขาด และได้รวบรวมชิ้นเครื่องบินที่ตกกระจัดกระจายไปทั่วไร่สับปะรดและสวนยางพาราของชาวบ้านมารวมกันไว้ที่เต็นท์ซึ่งเตรียมไว้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่จากบริษัทเครื่องบินเดินทางมาตรวจสอบ นอกจากนี้ก่อนนำเครื่องขึ้นทำการบินในภารกิจแต่ครั้ง จะมีการตรวจเช็คสมรรถภาพความพร้อมทุกครั้ง ซึ่งสาเหตุในครั้งนี้จะต้องรอตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง และในอนาคตจะต้องเพิ่มความระมัดระวังให้มากกว่านี้ ส่วนผู้เสียชีวิต เมื่อแพทย์โรงพยาบาลหัวหินชันสูตรเสร็จเรียบร้อยญาติสามารถมารับร่างผู้เสียชีวิตไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาต่อไป