ชาวสวนจันทบุรีจุกอก ช้างป่า บุกโค่นต้นทุเรียนล้มระเนระนาด กินผลผลิตใกล้เก็บเกี่ยว สูญร่วม 4 ตัน ค่าเสียหายกว่า 4 แสน วอนภาครัฐเร่งแก้ไข ยกเป็นวาระแห่งชาติ
เวลา 14.30 น. วันที่ 25 พ.ค. 68 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังสวนผลไม้ พื้นที่หมู่ 6 บ้านคลองตะเคียน ต.พลวง อ.เขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังได้รับร้องเรียนจากชาวสวนว่า มีช้างป่า บุกเข้ามาหากิน โค่นต้นทุเรียนล้มเสียหายเกือบ 30 ต้น ผลผลิตใกล้เก็บเกี่ยวอีกไม่กี่วันสูญร่วม 4 ตัน ค่าเสียหายกว่า 4 แสนบาท
เมื่อเดินทางไปถึงได้พบกับ น.ส.พีรานุช กิจพิบูลย์ อายุ 33 ปี และ นายอนุวัฒน์ อรรถวิล อายุ 33 ปี สองสามีภรรยาเจ้าของสวนผลไม้ และยังรับข้าราชการครูประจำโรงเรียนในพื้นที่ อ.ขลุง ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าไปดูความเสียหายภายในสวน ที่ปลูกแบบสวนผสมมีทั้ง ทุเรียน มังคุดเงาะและลองกอง
จากการตรวจสอบพบมีต้นทุเรียนอายุกว่า 12 ปี ถึง 20 ปี อยู่ในสภาพโค่นล้มระเนระนาด ถอนรากถอนโคน จำนวนกว่า 20 ต้น โดยบนพื้นรอบต้นมีเศษเปลือกทุเรียน และรอยเท้าช้างป่าขนาดใหญ่ ตลอดจนกองมูล และรอยทางเดินจนป่าราบวนเวียนไปทั่วสวน นอกจากนี้ยังพบมีต้นลองกอง และกล้วยไข่ ถูกช้างโค่นหักกินเสียหายด้วยเช่นกัน
จากการสอบถาม คุณพีรานุช และ คุณอนุวัฒน์ เจ้าของสวนบอกว่า ตั้งแต่พ่อมาบุกเบิกทำสวนผลไม้ตรงจุดนี้ ไม่เคยมีช้างป่าเข้ามาหากิน แต่เมื่อต้นเดือน พฤษภาคมปีนี้ ช่วงระยะ 4- 5 วัน ที่ผ่านมา ได้มีช้างป่า เริ่มบุกเข้ามาหากินในสวน โดยการโค่นต้นทุเรียนล้มไปแล้วกว่า 20 ต้น ล่าสุดคืนที่ผ่านมา ( 24 พ.ค. 68) ช้างป่าตัวเดิม ได้บุกเข้ามาในสวนโค่นต้นทุเรียนล้มไปอีก 4 ต้น รวมแล้ว 25 ต้น มีผลผลิตทุเรียนที่จะตัดขายได้ในอีกไม่ถึง 7 วันข้างหน้า เสียหายไปแล้วร่วมกว่า 3-4 ตัน มูลค่าประมาณ 4.4 แสนบาท ซึ่งคิดจากราคาขายอยู่ในตลาด ขณะนี้ที่ กิโลกรัมละ 100 -110 บาท
โดยเจ้าของสวนบอกอีกว่า หลังเกิดเรื่องได้ร้องขอไปทาง กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปกครอง ตลอดจนเจ้าหน้าที่อุทยาน เข้ามาช่วยเหลือผลักดัน แต่ช้างป่าก็ยังวนเวียนกลับเข้ามาหากินในสวนอีก ซึ่งล่าสุดคืนที่ผ่านมาได้บุกเข้ามาหากิน ห่างจากบ้านพักเพียง 100 เมตร เกรงว่าหากปล่อยไว้ อาจจะทำให้คนในบ้านและชาวบ้านในพื้นที่ได้รับอันตราย
ทั้งนี้อยากฝากถึงรัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยกปัญหาเรื่องช้างป่าเป็นวาระแห่งชาติ และเร่งหาทางแก้ไขเป็นรูปธรรมในระยะยาว เพื่อให้ช้างและคนอยู่ร่วมกันได้ต่อไป