"พิชัย" แจงยันกังวลใจในสถานการณ์โลกเปลี่ยน ชี้ไทยต้องปรับใหม่เพื่อให้โครงสร้างเศรษฐกิจพึ่งพาในประเทศมากขึ้น
GH News May 28, 2025 09:07 PM

"พิชัย" แจงยันกังวลใจในสถานการณ์เปลี่ยน ฝาก "สส." แปรญัตติงบฯ69 หวังแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง ย้ำรายการเสนอขอเพราะสส.-พื้นที่ขอมา ชี้สถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลง ไทยต้องปรับใหม่เพื่อให้โครงสร้างเศรษฐกิจพึ่งพาในประเทศ แก้ปัญหาเชิงโครงสร้างเกิดการลงทุนนอกงบประมาณมากขึ้น

วันที่ 28 พ.ค.2568 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ. งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วงเงิน 3.78 ล้านล้านบาท วันแรก จากนั้นนายพิชัย ชุนหวชิร รองนายกฯ และรมว.คลัง ชี้แจงว่าการอภิปรายของนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน ฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ ทำให้ได้ข้อมูลที่มีประโยชน์ แต่จะเป็นจริงตามที่คาดหรือไม่ ตนขอชี้แจงในรายละเอียด เพื่อประกอบการอภิปรายของสภาฯ โดยตนกังวลใจในฐานะเป็นคนไทย และเข้าใจสถานการณ์ เข้าใจว่าสิ่งที่ต้องการแก้ให้ได้ คือ ประเทศไทยมีการกินดีอยู่ดี ใช้จ่ายเติบโต หมายถึงมีโครงสร้างการผลิตเพื่อให้เกิดการจ้างงาน ช่องว่างคนรวยคนจนแคบลง โครงสร้างทางเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งนี้การผลักดันเศรษฐกิจต้องสร้างความพร้อม และแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เพื่อเอกชน รวมถึงเกษตรกรรม และผู้ลงทุน  ซึ่งพบว่าการลงทุนในประเทศไทยหายไปครึ่งหนึ่ง เมื่อเครื่องจักรดังกล่าวไม่เดิน คือ ลงทุนภาคเอกชนหายไป ผู้ค้าน้อยลง ไม่เห็นโอกาสการส่งออก ทำให้การจ้างงานลดลง

“ที่บอกว่ามีเงินกองอยู่บนโต๊ะ เช่น งบประมาณ 3.8 และเงินที่อยู่ในรัฐวิสาหกิจอีก 3.8 นั่นคือการลงทุนโดยตรงเพื่อเอกชน เพื่อเลี้ยงและบริหารตัวเอง  การขาดดุลในมุมมองของคนข้างนอก ขาดดุลมา 8 แสนล้านบาท ติดกัน 2 ปีสูงถึง 4% ถามว่าสูงหรือไม่ มองแบบนี้สูง เพราะเขามองว่าไม่ควรเกิน 3.15% แต่ทฤษฎีในระบบงบประมาณ 8.5แสนล้านบาทมีการคืนเงินต้น 1.5แสนล้านบาท ความหมายคือหนี้สาธารณะ 1.2 ล้านล้านบาท มีการคืนเงินต้น 1.5แสนล้านบาท ดังนั้นขาดดุล 7 แสนล้านบาท หรือ 3% การขาดดุลที่ทำไปข้างหน้าทุกปี ต้องพยายามลดรายจ่ายให้ได้ และต้องปรับปรุงเรื่องที่เรื้อรังให้ได้” นายพิชัย ชี้แจง

รมว.คลัง ชี้แจงต่อว่า การเก็บรายได้อยู่ในเป้าหมายได้ ดังนั้นเงินขาดเงินคงคลังไม่มากกว่าเดิม เศรษฐกิจกำลังไต่ระดับ และเงินเฟ้ออาจจะสูง หากการกระตุ้นเศรษฐกิจตุนในภาวะที่จำเป็น ยอดการส่งออกได้รับผลกระทบ จะใส่เม็ดเงินเพื่อสร้างความพร้อม เพราะอนาคตต้องมองรายได้ในประเทศมากขึ้นไม่พึ่งการส่งออก โครงสร้างของการผลิตให้กลับมาประเทศ การใช้งบประมาณ 1.57 แสนล้านบาทมีข้อจำกัด การทำงบปี2569 อยู่บนพื้นฐานของเดิม ขอให้ดูงบให้ละเอียด และแปรญัตติ เพื่อไปแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างให้ได้ ข้อเสนอที่เสนอนั้น ในพื้นที่ ทั้งสส. และเจ้าหน้าที่เขตได้เสนอ โดยมากกว่า 90% สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ได้ทำมีมากกว่า 4 ล้านล้านบาท

“งบปีนี้เริ่มรู้ว่าสถานการณ์โลกเปลี่ยนแปลง เราต้องปรับใหม่เพื่อให้โครงสร้างเศรษฐกิจพึ่งพาในประเทศและแก้ปัญหาเชิงโครงสร้าง เกิดการลงทุนนอกงบประมาณมากขึ้น ทั้งนี้การจัดงบประมาณได้คำนึงสิ่งที่เกิดขึ้น เห็นด้วยต้องปรับปรุงระบบราชการให้ทันสมัยและเล็กลง ผมได้ทำแผนไว้แล้ว ทั้งนี้การทำงบประมาณต้องทำแบบขาดดุล เพราะประเทศไทยยังไม่โต การขาดดุลต้องคำนึงถึงหนี้ที่เกิดขึ้นให้สมดุลกับจีดีพี ในสัดส่วนที่รับได้” นายพิชัย กล่าว

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.