"สุริยะ" ซัด "วิโรจน์" ไร้กาละเทศะ ใช้เวทีงบฯ 69 อภิปรายไม่ไว้วางใจ พร้อมยืนยันไม่มีโครงการส่อฮั้ว-หวังเงินทอน
เมื่อเวลา 20.43 น. วันที่ 29 พ.ค.68 นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม ชี้แจงต่อที่ประชุมสภาฯ สมัยวิสามัญ (เป็นพิเศษ) วาระพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 วาระแรก เป็นวันที่สอง ต่อประเด็นการฮั้วประมูลของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ตามที่นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชนอภิปราย ว่า ตนขออภัยกับประชาชน ที่นายวิโรจน์ไม่รู้กาละเทศะ ที่ใช้เวทีอภิปรายงบฯ 69 อภิปรายเรื่องฮั้วประมูล ตนไม่เข้าใจว่าเหตุใด ถึงไม่อภิปรายในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจรอบที่ผ่านมา หากจะพูดถึงกระทรวงคมนาคม ควรอภิปรายถึงงบประมาณที่ไม่เหมาะสม กระจุกในภาคใดหรือไม่ จะเป็นประโยชน์ประชาชนมากกว่า ทั้งนี้การอภิปรายงบประมาณแตกต่างจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจที่จะกล่าวหาในขั้นตอนการทำงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ส่อว่าไม่สุจริต
นายสุริยะ ชี้แจงต่อว่าการขึ้นทะเบียนผู้รับเหมาก่อสร้างเป็นไปตามกรมบัญชีกลางรวมถึงการกำหนดราคากลางและราคาอ้างอิง รวมถึงอีบิดดิ้งที่โปร่งใสตรวจสอบได้ และก่อนการลงนามสัญญาต้องถูกตรวจสอบจากสำนักงบประมาณ นอกจากนั้่นมีกฎหมายเกี่ยวกับการประมูลงานกับรัฐควบคุมไว้ ทำให้เป็นไปไม่ได้ที่หน่วยงานกระทรวงคมนาคมจะเอื้อให้ผู้รับเหมาที่ฮั้วประมูล
“ที่กล่าวหาว่ามีผู้รับเหมาชั้นพิเศษ จำนวน 80 ราย ทำให้เกิดการฮั้ว เป็นเสือนอนกิน และซ่อนเงินทอนต่างๆ ผมยืนยันว่าไม่จริง เพราะการจัดชั้นผู้รับเหมาพิเศษทำโดยกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ไม่ใช่กระทรวงคมนาคม ทั้งนี้ผมให้กรมทางหลวงตรวจสอบข้อมูลของบริษัทผู้รับเหมาชั้นพิเศษ ย้อนหลังพบว่าทั้ง 80 ราย มีรายได้รวมกันเกือบ 2 แสนล้านบาท แต่มีกำไรรวมกันเฉลี่ยปีละพันล้านบาท หรือ 0.5% ของรายได้ ซึ่งไม่มีรายได้เป็นกอบเป็นกำ และปี2565 พบว่าตัวเลขประกอบการขาดทุนด้วยซ้ำ จากข้อมูลที่อภิปรายที่ผู้รับเหมามีรายได้พันล้านบาท จะมีเงินทอนปีละ 8พันล้านบาท จ่ายให้กับผู้มีอำนาจได้” นายสุริยะ ชี้แจง
นายสุริยะ ชี้แจงต่อการเอื้อผู้รับเหมาชั้นพิเศษที่แบ่งเป็นตอนๆ ต้องพิจารณาเหตุและผล เช่น ความคุ้มค่า ความต่อเนื่องและศักยภาพความพร้อมของผู้รับเหมาที่ทำงาน ดังนั้นการยกตัวอย่างแบ่งสัญญารับเหมา ที่ 118 ที่กรมทางหลวงแบ่งงานเป็น 2 ตอน แทนที่จะแบ่งเป็น 3 ตอนถือว่าใช้จินตนาการเกินจริงเพราะจะมีค่าใช้จ่ายต่างๆเพิ่มมากขึ้น ส่วนกรณีที่ระบุว่าคณะกรรมการราคากลางคัดค้านการเลื่อนชั้นผู้รับเหมา จาก 500 ล้านบาท เป็น 900 ล้านบาท ล่าสุดได้มีการจ้างศึกษาเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์แล้ว
“การประมูลราคากลางที่ต่ำมากๆ จะประหยัดงบประมาณ ไม่ได้มองผลเสียที่เกิดขึ้น ที่จริงแล้วโครงการที่มีราคาประมูลต่ำกว่าราคากลางมากๆ หรือ ฟันราคา มีปัญหาเกิดขึ้นในระหว่างก่อสร้าง เนื่องจากราคากลางเป็นราคาที่ใกล้เคียงกับต้นทุน อาจเกิดผลเสียต่อรัฐและประชาชนภายหลัง ซึ่งจากการตรวจสอบ โครงการก่อสร้างที่ อ.ปลวกแดงที่มีการฟันราคาต่ำกว่าราคากลาง 35% พบว่างานสร้างไม่เสร็จ และทิ้งงานทำให้กรมทางหลวงชนบทเข้ามาดูแลไปก่อน ผมฐานะกำกับดูแลกระทรวงคมนาคม จะทำให้การจัดซื้อจัดจ้างโปร่งใส” นายสุริยะ ชี้แจง