เปิดฉากประชุมวุฒิสภา ‘เทวฤทธิ์’ แจงเหตุผลชงญัตติชะลอตั้งองค์กรอิสระ ย้ำมี สว. 13 คน เคยลาออก กมธ. สอบประวัติ ป.ป.ช. หลังร้องสอบดีเอสไอ ควรเดินตามหลักการนี้ ป้องปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน
30 พ.ค. 2568 – เมื่อเวลา 09.30 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา สมัยวิสามัญ โดยมีนายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา เป็นประธานการประชุม พิจารณาญัตติของนายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็นผู้เสนอญัตติเรื่องขอให้ชะลอการตั้งคณะกรรมาธิการสามัญเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบประวัติความประพฤติและพฤติกรรมทางจริยธรรมของบุคคลผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ รวมทั้งให้ความเห็นชอบกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จนกว่ามีคำตัดสินในคดีที่สมาชิกวุฒิสภาจำนวนมากตกเป็นผู้ถูกร้องและผู้ร้องขณะนี้
โดยนายเทวฤทธิ์ ได้อภิปรายแสดงเหตุผลของการเสนอญัตติ โดยยืนยันถึงหลักการทับซ้อนแห่งผลประโยชน์ เพราะ สว. จำนวนกำลังเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบทั้งโดย กกต. หรือกระทั่ง ป.ป.ช. แม้จะยังสถานะเป็นผู้บริสุทธิ์อยู่ อย่างไรก็ตาม ญัตติดังกล่าวยังเกิดจากสิ่งที่ สว. หลายคนกรุยทางไว้ ไม่ว่าจะเป็นการร้องไปที่ศาลรัฐธรรมนูญ และ ป.ป.ช. เพื่อขอให้ตรวจสอบบทบาทของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ที่มาแทรกแซงกระบวนการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงวันที่ 8 เม.ย. ที่ผ่านมา มี สว. 13 คน ลาออกจากกรรมาธิการสอบประวัติฯ ผู้ได้รับเสนอชื่อเป็น ป.ป.ช. เพื่อเป็นการป้องกันประเด็นการขัดกันแห่งผลประโยชน์ระหว่างปฏิบัติหน้าที่กับประเด็นการร้องทุกข์กล่าวโทษที่ได้ร้องทุกข์ไว้และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ ป.ป.ช.
“เมื่อ สว. คำนึงถึงปัญหาการแทรกแซงกระบวนการปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ ในวันนี้ที่ สว. กำลังจะใช้สถานะผู้ให้ความเห็นชอบใน 3 องค์กรอิสระ ที่ สว. จำนวนมาก กำลังตกเป็นคู่กรณี ทั้งในสถานะผู้ร้องหรือผู้ถูกร้องก็ตาม ดังนั้น จึงหนีไม่พ้นที่จะมองว่า เรื่องที่ดำเนินการอยู่นี้ผิดหลักการขัดกันแห่งผลประโยชน์ พร้อมเรียกร้องว่าไม่ควรปล่อยให้ สว. ทั้ง 13 คน ซึ่งได้ลาออกจากกรรมาธิการฯ ต้องเดินตามหลักการอย่างโดดเดี่ยว เพราะพวกท่านนำทางไว้ให้เราแล้ว ส่วนข้อกังวลว่าจะเกิดสุญญากาศ หากไม่มีคนเข้าไปทำงานในองค์กรอิสระต่างๆ นั้น เราไม่ได้ชะลอตลอดไป เพียงแค่ในช่วงที่มีการตรวจสอบ ซึ่งคาดว่า 6 เดือนน่าจะแล้วเสร็จ และยังมีรักษาการดำรงตำแหน่งอยู่ได้ พร้อมขอให้สมาชิกคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาระหว่างการเดินหน้าต่อหรือชะลอไปก่อน” นายเทวฤทธิ์ ระบุ.