'สนธิญา' ร้อง อสส. ส่งศาลวินิจฉัย 'นายกฯอิ๊งค์-พีระพันธุ์' กระทำขัดรธน.หรือไม่
GH News May 30, 2025 03:09 PM

30 พ.ค. 2568 – เมื่อเวลา 11.00 น. ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ศูนย์ราชการฯ ถนนเเจ้งวัฒนะ นายสนธิญา สวัสดี เดินทางไปยื่นหนังสือถึงอัยการสูงสุด (อสส.) เพื่อขอให้ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการกระทำที่มิชอบด้วยรัฐธรรมนูญ ของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ที่มีการแต่งตั้งบุคคลที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรี และให้อัยการสูงสุดพิจารณาวินิจฉัย ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กระทำการที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญ ขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่

นายสนธิญา กล่าวว่า ขอให้อัยการสูงสุดโปรดพิจารณาและวินิจฉัยว่า กรณีตนเรียกร้องไปยังนายกรัฐมนตรีตั้งแต่วันที่ 6 พ.ค.และวันที่ 23 พ.ค. โดยศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์รัฐบาล 1111 ได้รับเรื่องไปแล้ว และมีจดหมายถึงตนว่าได้ส่งเรื่องร้องเรียนของตนไปถึงเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้ว แต่ผ่านมาเกือบ 30 วัน ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆ เกี่ยวกับการตรวจสอบการถือหุ้นของ นายพีระพันธุ์ แม้แต่ครั้งเดียว จึงร้องขอให้อัยการสูงสุดโปรดพิจารณาและวินิจฉัยว่า การกระทำของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร เข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ ซึ่งกรณีนี้นายกรัฐมนตรีอาจจะไม่กล้าตรวจสอบหรือไม่ เนื่องจากหากตรวจสอบแล้วนายพีระพันธุ์ถือหุ้นจริง หรือนายพีระพันธุ์แก้ไขหุ้นจริงก็อาจจะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี และขอให้อัยการสูงสุดโปรดพิจารณาและวินิจฉัยว่า การแต่งตั้งตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีมีคุณสมบัติขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่

พร้อมกันนี้ขอให้อัยการสูงสุดตรวจสอบกรณีการถือหุ้น 4 บริษัทที่เป็นกรรมการบริหารหรือเป็นหุ้นส่วนของนายพีระพันธุ์ ที่ผ่านมาตนเรียกร้องให้นายพีระพันธุ์ออกมาชี้แจงประเด็นนี้ตลอดมา แต่ท่านก็ไม่เคยชี้แจง ต่อมาวันที่ 21 พ.ค 68 ผ่านมาไม่กี่วัน กลับมีการแก้ไขผู้ถือหุ้นและแก้ไขผู้บริหารบริษัท 4 บริษัท นายพีระพันธุ์กลับมาแก้ไขแสดงว่าสิ่งที่ตนเรียกร้องว่านายพีระพันธุ์ถือหุ้นนั้นเป็นความจริงแล้วจึงไปแก้ไข การแก้ไขจึงเป็นความผิดที่สมบูรณ์แล้ว การที่นายพีระพันธุ์ไปเยือนประเทศลาวมีการบอกว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหมายโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในกรณีที่นายพีระพันธุ์ถูกเรียกสอบเรื่องถุงยังชีพ โดยตนได้ไปร้องที่ ป.ป.ช. ต่อมาทาง ป.ป.ช. ได้ออกหมายไปยังนายพีระพันธุ์โดยชอบด้วยกฎหมายทุกประการ

นายสนธิญา กล่าวว่า ตนร้องต่ออัยการสูงสุดกรณีที่นายพีระพันธุ์สมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในระบบบัญชีรายชื่อเมื่อปี 2566 ขณะสมัครยังอยู่ในตำแหน่งเลขาธิการ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สิ่งที่ตามมาคือหลัง กกต.ประกาศว่านายพีระพันธุ์ ได้เป็น ส.ส.บัญชีรายชื่ออันดับ 1 ของพรรครวมไทยสร้างชาติแล้ว นายพีระพันธุ์จึงประกาศลาออกย้อนหลังไปจำนวน 57 วัน การกระทำดังกล่าวขัดหรือแย้งต่อคำวินิจฉัยใช้ของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อปี 2543 หรือไม่ อย่างไร

และประการสุดท้ายการเสนอ พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 ในส่วนของกระทรวงพลังงานจำนวน 2,888 ล้านบาท นายพีระพันธุ์ไม่ได้อยู่ร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎรเพื่อที่จะตอบข้อสงสัยของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่จะอนุมัติงบประมาณ ตนจึงขอถามนายพีระพันธุ์ว่าการไปประเทศจีน ได้แยกแยะความสำคัญออกหรือไม่ ว่าเรื่องใดสำคัญมากกว่ากัน โดยหลีกเลี่ยงการตอบข้อสงสัยในการตอบเรื่องการใช้จ่ายงบประมาณของกระทรวงพลังงานด้วยการเดินทางไปต่างประเทศ ตนได้นำเอกสารหลักฐานทั้งหมดส่งให้อัยการสูงสุดพิจารณาและวินิจฉัยส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย เป็นไปตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการพิจารณาความของศาลรัฐธรรมนูญมาตรา 46, 47 และ 48 หากอัยการสูงสุดไม่ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 60 วัน ตนจะใช้สิทธิในการยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญด้วยตัวเองต่อไป.

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.