ปากกาขนนก / สกุล บุณยทัต
“..เราต่างมีชีวิตที่เป็นชีวิต..ผลิบานแตกดอกออกช่อทั้งความจริงและความหมายภายใต้ตัวตนแห่งตนของตัวเอง..เป็นโครงสร้างอันเปรียบดั่งฤดูกาลประจำของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่ก่อร่างขึ้นมาจากพลังอันดีงามของจักรวาลแห่งใจ..หากได้มีการเฝ้าสังเกตเราก็จะพานพบกับจังหวะและลีลาของความเป็นภาวะอันจริงแท้..ที่คนเราแต่ละคนได้ปรากฎรูปรอยต่างๆออกมา..สอดคล้องและสมดุลกระทั่งกลายเป็นสายทางอันหยั่งเห็นและสะท้อน"ใจแห่งใจภายใน"ของชีวิตอันยากจะลืมเลือน..นิรันดร์!”
..ความรู้สึกเบิกบานและหยั่งลึกที่..กระทบความรู้สึกข้างต้นคือผัสสะอันสำคัญ..ที่เป็น “รากแห่งนัยชีวิต"..ที่ได้รับจากหนังสือสวยงามและรื่นรมย์เล่มหนึ่ง..ที่สร้างความอิ่มเอม ต้องตา...และประทับใจเล่มหนึ่ง..นับแต่..ภาพปก ภาพประกอบ..รูปเล่มที่วิจิตร..ไปจนถึงสาระเนื้อหาด้านในที่อ่อนโยนและละเมียดละไม..!
..“ฉันจะผลิบานในฤดูกาลของตนเอง” งานประพันธ์และสร้างสรรค์ของ “Rapport Mi” (แรปพอร์ต มี)..และแปลเป็นภาษาไทยอย่างสดใสและงดงาม โดย “วิลาสินี ชวาลรติกุล”...โดยเป้าประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ตั้งใจเขียนขึ้นเพื่อเยียวยา และปลุกตื่นให้เราฟื้นคืน..เข้มแข็งขึ้นเมื่อหัวใจของเราตกอยู่ในภาวะรู้สึกของความเศร้าหมอง ให้กลับมามีความหวังและความมีชีวิตชีวาอีกครั้ง..!
“..ภาพวาดมักสะท้อนเรื่องราวตัวอักษร แทนสำนึกมากมายเสมอ..ไม่มีภาพวาดใดที่ไม่มีเหตุผล และไร้ซึ่งความตั้งใจ..”
“แรปพอร์ต มี” ได้แสดงความคิดเห็นด้วยภาษาที่งดงามและกินใจอย่างน่าอิ่มเอมว่า.. “ทุกๆชีวิตย่อมต้องมีเวลาที่เฉิดฉายงดงาม”แม้จะเป็นในช่วงสั้นๆ..หรือมันจะไม่เคยหายไปไหนเลย เพียงแต่แอบซ่อนอยู่ในซอกหลืบของจิตใจ และรอวันที่จะได้กลับมาพบกันใหม่.. “ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว”
..ฉันอยากนับช่วงเวลาเล็กๆทั้งหมดเหล่านั้น..ให้เป็นดอกไม้สักช่อ แล้วมอบให้เธอเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆ..ที่จะทำให้เธอมีพลังขึ้นมา..และ.. “มอบรอยยิ้มให้กับตัวเอง”!
“นี่คือ..หนังสือความเรึยงในแต่ละตอนขนาดหนึ่งหน้าจบ พร้อมภาพวาดสีน้ำละมุนตา..สร้างความอบอุ่นในหัวใจราวกับ..เป็นการเขียนจดหมายสื่อสารกับจิตวิญญาณที่รอเวลาส่งต่อรอยยิ้มให้แก่ใครสักคน..!บริบทแห่งพื้นที่ชีวิตของความเรียงชุดนี้เป็นเช่นนี้น..ผูกร้อยสัมผัสรู้สู่ “ผู้อ่าน” ให้บังเกิดความซาบซึ้งทั้งด้วยความลึกล้ำและตื่นตระการ..ระคนกัน!
ในบทตอนที่พูดถึงการรอคอย..มีข้อคิดที่ทำให้เราได้สัมผัสเนื้อของชีวิตในเชิงประจักษ์ว่า.. “การรอคอย..เด็กๆคือการรอคอย..ซึ่งก็ใช่ว่าเราจะสามารถไขว่คว้าเอาอะไรในทุกสิ่ง..ที่ “สวยงามเจิดจรัส” มาเป็นของตนเอง หรือ.เอามาเป็นของตัวเองได้เสมอไป..สิ่งเหล่านี้จะมาหาเราเองต่างหาก..เหมือนกับความฝัน เหมือนกับความรัก เหมือนกับโชคที่มาในรูปแบบของความอาภัพ..!
และ..ถึงแม้มันจะไม่ใช่ดอกไม้ที่เราต้องการ หรือไม่ใช่ข่าวคราวที่เรารอคอย ก็อย่าได้เสียดายไป..!
ว่ากันว่า..ไม่มีการรอคอยใดที่ไร้ประโยชน์..เนื่องเพราะ ความผิดหวังและความเสียใจนั้น..นับเป็นโอกาสที่จะขัดเกลาจิตใจของเราให้เข้มแข็ง เพื่อเตรียมพร้อมในการเรียนรู้โลกใบนี้ ..!เพราะฉะนั้น..ไม่ว่าจะเป็นการรอคอยใดๆ ก็ควรต้องอดทนเฝ้าคอยมันเถิด..!
วันหนึ่งหากได้ยินเสียงฝีเท้าบนบันได มันก็..อาจจะเป็นเสียงฝีเท้าจากเจ้าของจดหมาย..ที่เธอเฝ้าคอยมันมาโดยตลอดก็เป็นได้...! ดูเหมือนว่า..เราอาจไม่ค่อยรู้จัก “Rapport Mi” มากขึ้นสักเท่าไหร่..นอกจากเรื่องราวในหนังสือและภาพวาดบน Instagram..เธอเป็น “Introvert” เก็บตัวและไม่ค่อยสุงสิงกับใคร..!
..เธอรักการวาดภาพ..และน่าจะเลี้ยงแมวไว้เป็น “เพื่อนรัก”..ภาพวาดในทุกหน้าหนังสือของเธอ..ล้วนน่าประทับใจ..สไตล์การแต่งตัวของเหล่าหญิงสาวในภาพประกอบล้วนมีเสน่ห์..รวมทั้งลีลาการจัดบ้าน และทัศนียภาพที่เธอไปเที่ยว ล้วนน่าประทับใจและดึงดูดใจ..ประหนึ่งราว"ชีวิตในฝัน"ของทุกคน..!
..เหตุนี้ทุกๆถ้อยคำที่เธอได้เขียนไว้ในหนังสือเล่มนี้..จึงทำให้นึกถึงเส้นทางของการเติบโตของชีวิตได้ในหลายๆประเด็น..ไม่ว่าจะเป็น..ความฝัน ความรัก..ความสัมพันธ์..การเติบโต และที่สำคัญที่สุดคือ “การมีชีวิตอยู่”...!
มีนัยชีวิตอยู่หกประการ..ที่ “Rapport Mi” ได้ออกแบบไว้..อย่างมีคุณค่าและ..งดงามลึกซึ้ง..เริ่มต้นด้วยนัยแห่ง “การตามแต่ใจเหมือนดั่งดอกไม้..อันหมายถึงสภาวะ..ที่ย้ำเตือนให้ได้คิดว่า..ยิ่งอายุมากขึ้นเท่าไหร่..ยิ่งหัวเราะได้ยากขึ้นทุกที..เราจึงปรารถนาที่จะหัวเราะให้เต็มที่..เหมือนลีลาความงามของดอกไม้บ้าง” และ..มันจะต้องมีวันแบบนั้นบ้าง..วันที่ชีวิตหยุดนิ่งตลอดทั้งวัน เพียงเพราะคำพูดไม่กี่คำที่ปักลงกลางใจ วันที่น้ำตาหลั่งรินไม่ขาดสาย เพราะเรื่องราวเล็กๆน้อยๆ “..ในวันแบบนั้น ฉันจะเลิกวาดภาพของฉัน..จะเป็นมือเล็กๆที่ช่วยเหลือจิตใจคนได้บ้าง..ในสังคม”
.. “ฉันหวังจะเป็นดอกลิลลี่”..โดย “Rapport Mi” หวังถึงว่า..เธอคนนั้นจะรับซื้อ ดอกลิลลี่ไป แล้วถามฉันว่าดอกลิลลี่หมายความว่าอะไร?..ฉันจะตอบกลับไปด้วยท่าทีที่จริงจังว่า..
.. “มันหมายถึง การเสียสละ ความบริสุทธิ์ และ ความรักอันนิรันดร์..เธอย่อมจะได้รู้ในที่สุดว่า.. “นี่คือการสารภาพรัก”..
*ลองชนแก้ว..ก็ต้องชนแต่พวกตัวเอง..อย่าเจ็บใจไปเลย..ลองหัดใช้ชีวิตคนเดียวอย่างเข้มแข็ง.. อย่าจมจ่อมกับความเศร้าในด้านเศร้าของชีวิต..เพระความโดดเดี่ยวเลย..*
*ชีวิตอาจไม่ต้องการอะไรอีกต่อไปแล้วล่ะ..หากมีเพียงรสสัมผัสจาก.."โซฟานุ่มๆที่โอบกอดฉันไว้ กาแฟเข้มสักแก้ว และ หนังสือเบาสมองสักเล่ม เจ้าเหมียวที่นั่งเจี๋ยมเจี้ยมบนตัก..และตัวฉันเพียงลำพัง..*
*สุดท้ายด้วยวิถีแห่งการซักผ้า.. “Rapport Mi”..ได้อธิบายว่า.."ฉันจะซักผ้าที่รู้สึกเศร้า..มีเรื่องให้คิดมาก..เมื่อเครื่องซักผ้าทำการปั่นแห้งเสร็จ รอยด่างในใจของฉันก็ถูกชะล้างอย่างหมดจด ใจของเราก็ถูกซักล้างแบบนี้ได้เหมือนกัน..ดั่งนี้..ใจก็จะกลับมานิ่มนวลอีกครั้ง..*
..ปรากฏการณ์ทางความรู้สึก..นับเป็นฉากแห่งชีวิตที่สะท้อนจิตวิญญาณแห่งรสสัมผัส..สีสันในลีลาทั้งหมดของหนังสือเล่มนี้กอปรด้วยความงามและความหมายที่ทั้งกระทบตาและกระทบใจ มันคือความละเมียดละไมอันเป็นเสน่หา..ของหนังสือเล่มหนึ่ง..
..หากชีวิตปรารถนาทางออกในรสสัมผัสด้านในของชีวิต..การก่อผัสสะจากใจความ..สู่หัวใจอันจริงแท้ของหนังสือเล่มนี้..จักสามารถสร้างแสงเรืองรอง..สู่ “บ่อน้ำใหญ่” แห่งการยอมรับนับถือตัวเองและสิ่งรอบข้างให้แก่เรา..ได้อย่างล้ำลึก..ตลอดๆไป...!
“..เราทุกคนมีฤดูกาลผลิบานเป็นของตัวเอง..ทุกๆชีวิต..ย่อมมีเวลาที่เฉิดฉาย..แม้จะเป็นช่วงสั้นๆ..แต่ก็ไม่เคยหายไปไหน..เพียงแอบซ่อนอยู่ในซอกหลืบของจิตใจ..แล้วสักวันจะกลับมาพบกันใหม่..ด้วยหัวใจที่เต้นระรัว..!”