เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 “วาสนา นาน่วม” ผู้สื่อข่าวสายทหารชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเฟชบุ๊ก Wassana Nanuam ระบุว่า...
เจาะ แผนเขมร
ไทม์ไลน์ จาก เผาศาลา ตรีมุข
ยึด “สามเหลี่ยมมรกต”
อ้าง ดินแดนเขมร
ตั้ง Morakot Forces ยึดเบ็ดเสร็จ
แต่ ล้ำแดนไทย 150 เมตร
ชัดเจนแล้วว่า ที่เขมร เผาศาลาตรีมุข แล้วเอากำลัง เข้ามา พรึ่บ “มุมไบ” ในพื้นที่ สามเหลี่ยมมรกต รอยต่อ สามแผ่นดิน ไทย-ลาว-กัมพูชา และล้ำมาถึง “ช่องบก” เข้าเขตดินแดนไทย เพราะมีแผนจะ ยึด “สามเหลี่ยมมรกต” นี่เอง
นี่คงเป็นความตั้งใจของ สมเด็จฮุนเซน มายาวนาน และ ก็เป็นจริง !!ในยุคที่ พลเอก ฮุนมาเน็ต ลูกชาย เป็นนายกฯ และ พลเอก เตีย เซรยฮา ลูกชาย พลเอกเตียบันห์ คนเกาะกง เป็น รมว.กลาโหม ต่อจากพ่อ
ทหารเขมร รุกคืบเข้ามาทีละนิดๆ จากเผาศาลาตรีมุข 28 กพ.2568 เข้ามายึดพื้นที่ จนที่สุด ก็ล้ำเข้ามายึดพื้นที่รอยต่อ ถึง 650 เมตร แล้วก็ เข้ามาที่แนวต้นพญาสัตบรรณ ที่เป็นสัญลักษณ์ เขตไทย และตั้งฐานทหาร ด้วยการเอา รถแทรคเตอร์ เข้ามา ขุดคูเรท ยึดพื้นที่
ต่อมาเมื่อทหารไทย รู้ ก็เข้ามา เพื่อที่จะเจรจาให้ทหารเขมรออกไป แต่ทหารเขมร โค่นต้นไม้ มาขวางทางเข้าสู่พื้นที่ ทำให้ทหารไทย ถอยออกมาก่อน เพราะไปกันแค่ ไม่กี่คน
จากนั้น มีการประสานกันในระดับพื้นที่ แจ้งให้ เขมรถอนกำลังออกไป แต่เขมร ไม่ตอบสนอง ยืนยันว่า เป็นดินแดนเขมร
ไม่ใช่แค่ไม่หยุด แต่ทหารเขมร ยังรุก ทางแนวข้างและ ลึกเข้ามา จนมายึด เนิน 745 อย่างที่เราเห็นภาพ จนทหารไทยไปเจรจา ให้ถอยออกไป ซึ่งจุดนี้ ทหารเขมร (ทำที) ว่า ยอมถอย ออกไป
ทหารไทย บอกให้ มากลบคูเรท ที่ขุดไว้ ให้กลับเป็นเหมือนเดิม แต่ตอนนี้ยังไม่มีรายงานว่า เขมร มากลบคู หรือยัง แต่มีรายงานว่า ทหารเขมร ยังไม่ยอมไปไหนไกล จาก เนิน745 เล็งที่จะเข้ามายึดได้เสมอ
ไม่แค่นั้น ทหารเขมร ล้ำแดนเข้ามาในพื้นที่ประเทศไทย ล้ำพิกัด48PWA…..
………..……….ที่เป็นดินแดนไทย ไม่ใช่พื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน เบื้องต้นล้ำเข้ามาถึง 150 เมตร และยังพยายามเข้ามาอีก
และไม่สน คำเตือนของทหารไทย ที่ให้ออกไปจากดินแดนไทย
จนนำมาซึ่ง เหตุปะทะ 28 พค.2568 ที่ทหารไทย นำกำลังเข้าไปแจ้งให้ออกจาก ดินแดนไทย จนฝ่ายทหารเขมร เปิดฉากยิงใส่ ทหารไทย ก่อน จึงต้องมีการป้องกันตนเอง และยิงตอบโต้ ส่งผลให้ ทหารเขมร เสียชีวิต 1 และ บาดเจ็บ 2 นาย สาหัส 1 ที่มีรายงานว่า เสียชีวิต เพิ่ม 1 สังเวย การล้ำแผ่นดินไทย
จนฝ่ายเขมร ขอเจรจา ( ตามแผน) แต่สั่งเสริมกำลัง ซึ่ง เดิมฝ่ายไทย พยายามยื้อเวลา กำหนด31 พค.2568 แต่ ฝ่ายเขมร เร่ง จนนัด 29 พค. ที่ ด่านช่องจอม สุรินทร์
หลังจากที่ระดับ ผู้นำรัฐบาล และผู้นำทหารคุยกัน พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. คุยผ่าน VTC กับพลเอก เมา โซะพัน รองผบ.ทหารสูงสุด/ผบ.ทบ. กัมพูชา ในวันปะทะ
จากนั้น เขมร ก็ทำตามแผน ที่วางไว้มายาวนาน พลเอก เมา โซะพัน รองผบ.ทหารสูงสุด/ผบ.ทบ. กัมพูชา ประกาศบนโต๊ะเจรจา ยืนยัน ไม่ถอนกำลัง เพราะทหารเขารอยู่มาตั้งแต่ก่อน มี MoU 2543
พร้อมออกแถลงการณ์ 4 ข้อ โดยข้อ4 ประกาศไม่ถอนทหาร ด้วยเหตุผลดังกล่าว และ ตบท้ายว่า ผบ.ทบ.2 ชาติ ได้ตกลง และยอมรับ ในข้อตกลงนีั แล้ว ที่เสมือน เป็นการมัดมือชก ว่า ไทยรับรอง การประกาศ ดินแดนของเขมร
ซึ่งกองทัพบกไทย ออก แถลงการณ์ ตามมา ซึ่ง ก็ควรจะบอกว่า นั่นไม่ใช่ แถลงการณ์ร่วม แต่เป็นแถลงฝ่ายเดียวของเขมร แต่กลับไม่ย้ำ ในเรื่องดินแดนไทย แต่อย่างใด
แม้ทหารเขมร จะยอมถอย ก็เฉพาะออกจากจุดปะทะ 28 พค. ก็ตาม แต่ กำลังทหารที่ล้ำแดนไทย นั้น ยังไม่ยอมถอนกำลังออกไป
จากนั้น ทั้ง สมเด็จ ฮุนเซน อดีตนายกฯ รวมทั้ง นายกฯฮุนมาเน็ต และ รมว.กลาโหม ดาหน้าออกมายืนยันว่า เป็นดินแดนเขมร และสั่งระดมกำลังทหาร และ อาวุธยุทโธปกรณ์ เต็มอัตราศึก เข้ามาเสริม
ที่ สมเด็จ ฮุนเซน ขู่จะยิงเครื่องบินรบไทย คาดว่า อ้างถึงปืนใหญ่อัตตาจร ล้อยาง PCL- 09 ปืน 155 มม. “SH-1” ที่เพิ่งซี้อมาจากจีน ระยะยิงไกล 27-53 กม.
สมเด็จ ฮุน เซน ประกาศว่า พื้นทีี “สามเหลี่ยมมรกต” เป็นของกัมพูชามานานแล้ว ตั้งแต่ก่อนข้อตกลงปารีส ก่อนบันทึกความเข้าใจปี 2000 UNTAC อาจให้การเป็นพยานได้
ฮุนเซน ทำตามแผน คือ ท้า ไทย ขึ้นศาลโลก ที่กรุงเฮก อีกครั้ง หากยังไม่ชัดเจน กัมพูชาและไทย สามารถตกลงกันนำเรื่องนี้พร้อมแผนที่อย่างเป็นทางการที่ ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ (ไม่ใช่แผนที่ที่โจรวาดขึ้น เพื่อขโมยที่ดิน) ขึ้นสู่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศในกรุงเฮก เพื่อยุติเรื่องนี้
พร้อม โชว์ ภาพถ่ายที่ถ่ายกับ มาดาม บุนรานี ภรรยา ถ่ายไว้เมื่อกว่า 15 ปีที่แล้ว เป็นหลักฐานชัดเจน เพราะ สวมเครื่องแบบทหารไปถ่ายรูปในดินแดนไทย หรือลาว ในบริเวณนั้นได้
ดังนั้น กัมพูชาไม่สามารถถอนทหารออกจากดินแดนของตนเองตามคำขอของฝ่ายไทยได้
(ซึ่งความจริงแล้ว ศาลาตรีมุข นั้นใครก็มาถ่ายรูปได้ เพราะเป็นพื้นที่รอยต่อ ไทย-ลาว-เขมร แค่ฝ่ายไทย ออกงบฯในการสร้าง ทหารไทย ต้องแบก ปูนทราย ไม้ ไปสร้าง เท่านั้น เพิ่อให้เป็นจุดนัดพบกันของทหาร3 ชาติ เมื่อลาดตระเวน มานัดเจอกัน หรือ พัฒนาสัมพันธ์ และใกล้ฝั่งเขมร มากกว่า ชาวเขมร เดินทางถ่ายรูป ได้ปกติ จะสวมชุดอะไร ก็ได้ ไม่มีใครห้าม เพราะ ไม่ใช่พื้นที่ประเทศไทย )
ก่อนที่ ทางการเขมร จะบล็อคผู้ใช้งานที่ใช้อินเตอร์เน็ตจากประเทศไทย เข้าดูเพจของสมเด็จฮุน เซน ทำให้ผู้ที่ใช้อินเตอร์เน็ตในประเทศไทยไม่สามารถเข้าถึงได้ เพราะฮุนเซน ระบุว่า คนไทยเข้าไปป่วนเพจของตนเอง
เหตุที่ สมเด็จฮุนเซน ประกาศเช่นนี้ เพราะเขมร ยึด สามเหลี่ยมมรกค สำเร็จแล้ว ตั้งฐานที่มั่นทางทหารแล้ว และยังจัดตั้ง Morakot Forces ขึ้นมาดูแล ยุทธบริเวณ มรกต นี้ เพิ่มเติมจาก ที่มี กำลังทหาร ใน3 ยุทธบริเวณ ในการดูแล ปราสาทเขาพระวิหาร และพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อน กับไทย 4.6 ตร.กม. ขณะที่ ฝ่ายไทย นั้น กกล.สุรนารี มี ฉก.1 และ ฉก.2 ดูแลพื้นที่
วันนึ้ มีคำตอบแล้วว่า สมเด็จ ฮุนเซน ที่เป็นทหารเก่า ผ่านมาสมรภูมิรบมาแล้ว วางแผนยึด “สามเหลี่ยมมรกต” โดยลากเส้น พื้นที่ เข้ามาถึง ดินแดนไทย
นี่เป็นการต่อจิ๊กซอว์ ให้เห็นภาพแล้วว่า ที่ทหารเขมร เคลื่อนไหว มาตลอด หลายเดือน นั้น เป้าหมายคือ ยึด สามเหลี่ยมมรกต
แต่ปัญหาคือ ล้ำเข้ามาในเขตไทย ด้วย
ตอนนี้ ทหารไทย ต้องอ่านเกม ต่อจิ๊กซอว์ ภาพเต็ม ให้ได้ ก่อนว่า จากนี้ ทหารเขมร จะทำอะไรต่อ ยึดจุดไหน ด้วยวิธีเดิมๆ ที่ทำมาตลอดกว่า ครึ่งศตวรรษ จนยึด ปราสาทเขาพระวิหาร ไปได้ในปี2505 วันที่ทหารไทย ต้องถอนธงไทย เดืนลงจาก ปราสาทเขาพระวิหาร
แผนของเขมร คือ ให้มีการสู้รบและก็ฟ้องศาลโลก เหมือนการสู้รบ ปี2554 ที่ทหารเขมร เปิดฉากยิงใส่ทหารไทย ที่ไปสร้างถนน ขึ้นวัดแก้วฯ แข่งกับเขมร หลังจากที่เตือน ให้ทหารเขมรหยุดสร้างถนน แล้วไม่ยอมหยุด ทหารไทย จึงเร่งสร้างถนน ขึ้นจากฝั่งไทยบ้าง ทหารเขมรก็ยิงใส่ ก่อนที่จะทำให้เกิดการสู้รบยิงกันตลอดแนว
จากนั้น เมย.ปี2554 เขมร ก็หมายจะยึดพื้นที่ โดยรอบ ของปราสาท ในพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ด้วยวิธีเดิม นำเรื่องฟ้องศาลโลก อีก แต่ยังดีที่ ศาล ให้ อยู่ร่วมกัน พัฒนาพื้นที่ด้วยกัน และ กำหนดพื้นที่ปลอดทหาร ใช้กำลัง ตชด. แทน แต่ก็มีรายงานว่า เอาทหารเขมร มาแต่งชุดตำรวจ มาอยู่ ก็มี จากนั้นรัฐบาลไทย ก็ประกาศ ไม่รับอำนาจศาลโลก อีกต่อไป
มาครั้งนี้ ทหารเขมร ยั่วยุ ทหารไทย มานานหลายเดือน แต่ทหารไทย อดทนสูง ทหารเขมรจึงใช้วิธีการ ล้ำแดนไทย และ รู้ว่า ทหารไทย ต้องมาใช้กำลังทหารกดดัน จนเกิดเหตุปะทะ 28 พค.2568 นั่นเอง
ฝ่ายเขมร เล่นใหญ่ เรียกร้องเจรจา ทันที แม้จะเป็นการปะทะเล็กๆ จนทำให้ ผบทบ 2 ชาติ มาขึ้นโต๊ะเจรจา
เขมรทำตามแผน ไม่ยอมถอนทหาร และออกแถลงการณ์ยืนยัน
ก่อนที่สมเด็จฮุนเซน ออกมาท้า ให้ ขึ้นศาลโลก อีกครั้ง
รอดูการตัดสินใจของ รัฐบาล นายกฯ และ รมว.กลาโหม และ ผู้นำกองทัพ ว่า จะปล่อยไปแบบนี้ ให้ทหารเขมร ยึดดินแดนไทย ต่อไป ปล่อยนานไป เขมรยิงเสริมแกร่ง การใช้กำลังทหาร เข้าตี เพื่อยึดคืน จึงไม่ง่าย และอาจตามมาซึ่งการสู้รบอีกครั้ง
หลังปะทะ2 วันติด ช่วงเช้า ทหารเขมร รัวยืงปืน ราว20 นัด มาทางฝั่งทหารไทย ราวกับต้องการ เช็คว่า ทหารไทย ถอยจากแนว ไปหรือยัง ซึ่งทหารไทยใช้ความอดทนอย่างมาก ในการที่จะไม่ยิงตอบโต้ไปเพราะวันแรก รอการเจรจาในช่วงบ่ายของผบทบ.2 ชาติ ส่วนวันรุ่งขึ้น ก็มีข้อตกลงจากที่ประชุมฯ แล้ว เพราะทหารไทยมีวินัย
หากพูดตามข้อเท็จจริง พื้นที่สามเหลี่ยมมรกต นั้น ไม่ใช่พื้นที่ของไทย เพราะเดิมเป็น พื้นที่ร่วมในการประสานงานของทหาร 3 ชาติ ที่ลาดตระเวน และพัฒนาสัมพันธ์ มานัดเจอกัน ที่ศาลาตรีมุข แล้วก็แยกย้าย กลับดินแดนของตนเอง ทหารเขมรจะยึด ก็ยึดไป
แต่ ดินแดนไทย 150 เมตร ที่ล้ำเข้ามา แม้จะเป็นป่าเขา แต่ทหารไทยใช้เลือดและชีวิตรักษาไว้จนมาถึงรุ่นเรา เรามีหน้าที่ต้องรักษาไว้ ต่อให้แค่ ตารางนิ้วเดียว ก็ตาม
ทหารเขมร ต้องถอนกำลังออกไป !!
.