เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 68 สมเด็จอัครมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน ประธานองคมนตรี และอดีตนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก ของตนเอง ระบุข้อความว่า
"มีคนไทยหัวรุนแรงบางกลุ่ม เข้ามาในเฟซบุ๊กของผม เพื่อโพสต์ข้อความดูหมิ่นและหยาบคาย ซึ่งจงใจจะทำลายความสัมพันธ์อันดีระหว่างรัฐบาลและประชาชนของทั้งกัมพูชาและไทย และต้องการยั่วยุให้เกิดความตึงเครียดที่อาจนำไปสู่ความขัดแย้งทางทหารระหว่างสองประเทศ
บุคคลบางกลุ่มในประเทศไทยเรียกร้องให้กัมพูชาถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ ซึ่งขณะนี้อยู่ภายใต้การควบคุมของทหารกัมพูชา เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจผิดในประวัติศาสตร์ ผมขอชี้แจง 3 ประเด็นดังนี้
1. พื้นที่สามเหลี่ยมมรกตนี้เป็นดินแดนของกัมพูชา และทหารกัมพูชาได้ประจำการอยู่ในพื้นที่นี้มาตั้งแต่ก่อนข้อตกลงสันติภาพกรุงปารีส - ประมาณ 13 หรือ 14 ปีก่อนบันทึกความเข้าใจ (MOU) เมื่อปี 2543 ด้วยซ้ำ ซึ่ง UNTAC (องค์การบริหารชั่วคราวแห่งสหประชาชาติในกัมพูชา) อาจสามารถเป็นพยานให้ได้ หากยังไม่ชัดเจน กัมพูชาและไทยสามารถตกลงกันเพื่อยื่นเรื่องต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ ณ กรุงเฮก โดยใช้แผนที่ทางการที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล (ไม่ใช่แผนที่ที่วาดขึ้นเองเพื่ออ้างสิทธิในที่ดิน) เพื่อยุติปัญหานี้ให้เด็ดขาดตามหลักการ "ไม่ใช่แค่นั่งดูควัน แต่ต้องดับไฟให้หมด" เพื่อความสุขและความสามัคคีของคนรุ่นหลัง และเพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นซ้ำอีก
2. รูปถ่ายของผม ภรรยา และเพื่อนร่วมงานที่ไปเยี่ยมพื้นที่นี้เมื่อกว่า 15 ปีก่อน เป็นหลักฐานชัดเจนว่านี่คือดินแดนของกัมพูชา เป็นไปไม่ได้เลยที่ผมจะสวมเครื่องแบบทหารแล้วไปถ่ายรูปในดินแดนของไทยหรือของลาวในบริเวณนั้น ขณะนั้นผมกำลังต้อนรับทหารลาวที่หอประชุมแห่งหนึ่งในพื้นที่นั้น (ซึ่งต่อมาถูกเผาทำลายไปเมื่อไม่กี่ปีก่อน)
3. กัมพูชาไม่สามารถถอนทหารออกจากดินแดนของตนเองได้ เพียงเพราะไทยเรียกร้องให้ทำเช่นนั้น กลยุทธ์แบบนี้เคยถูกใช้โดยอดีตนายกรัฐมนตรีไทย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ซึ่งเคยบอกกับผมต่อหน้าอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซียในปี 2554 ว่าทั้งสองฝ่ายควรถอนทหารออกจากพื้นที่ปราสาทพระวิหาร
ผมได้บอกอภิสิทธิ์อย่างชัดเจนว่าผมไม่สามารถถอนทหารกัมพูชาออกจากดินแดนของเราเองได้ และเขาควรเป็นฝ่ายถอนทหารผู้รุกรานของตนออกไปโดยไม่มีเงื่อนไข สิ่งที่เกิดขึ้นในพื้นที่สามเหลี่ยมมรกตเมื่อสามวันที่แล้ว เป็นเพียงอีกตอนหนึ่งของแผนการที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ในการพยายามยึดดินแดนของกัมพูชา โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับล่างเป็นผู้ลงมือ และได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มหัวรุนแรงในไทย"
ล่าสุด มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊กชาวไทย ไม่สามารถเข้าถึงเฟซบุ๊กของ สมเด็จฯ ฮุนเซน ได้แล้ว