Decarbonize Thailand Symposium 2025 จัดต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยทรู ดิจิทัล พาร์ค และนิวเอนเนอร์จี้ เน็กซัส (ประเทศไทย) ด้านบิ๊กคอร์ปอย่าง “ซี.พี.” และ “ซีพีแอ็กซ์ตร้า” ร่วมเผยโรดแมปลดคาร์บอนทั้งห่วงโซ่สู่ Net Zero 2050 ยกระดับความร่วมมือสู่ห่วงโซ่อุปทานที่ยั่งยืน
ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า การทำธุรกิจในยุคนี้เผชิญกับความท้าทายหลายด้าน ทั้งจากภูมิรัฐศาสตร์ที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว ความเสี่ยงจากสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน การเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม การขยายตัวของตลาดคาร์บอน และการเปลี่ยนผ่านด้วยเทคโนโลยี AI
อย่างไรก็ตาม จากความท้าทายดังกล่าว การทำเรื่องความยั่งยืนจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ ซึ่งหลายเรื่องไม่สามารถทำได้ด้วยตัวคนเดียว ภาคเอกชนต้องร่วมมือคู่ค้าขับเคลื่อนไปด้วยกัน ภายใต้กฎกติกาของโลก
ดังนั้น เครือ ซี.พี.ได้กำหนดยุทธศาสตร์ความยั่งยืนในกรอบ 3H ได้แก่ Heart-Health-Home โดยมีเป้าหมายระยะยาว 3 ด้าน ได้แก่ การบรรลุ Net Zero ภายในปี 2050, การขับเคลื่อนเศรษฐกิจหมุนเวียน และการสนับสนุนการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่ประชาชนกว่า 50 ล้านคน
ดร.ธีระพลยังได้ประกาศโรดแมปการลดก๊าซเรือนกระจกในระยะใกล้ (Near-term SBT 2030) โดยตั้งเป้าลด Scope 1 และ 2 ลง 42% และ Scope 3 ลง 25% ภายในปี 2030 ด้วยแนวทางปฏิบัติจริง เช่น เพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียน 50% ผ่านการติดตั้ง Solar PV 3 จิกะวัตต์, การใช้ไบโอแมสและไบโอแก๊ส, เพิ่มประสิทธิภาพพลังงาน 20%, เลิกใช้ถ่านหิน และการจัดการของเสียเป็นศูนย์
ขณะที่การลดคาร์บอนจาก Scope 3 ดำเนินการร่วมกับคู่ค้าในห่วงโซ่อุปทาน เช่น การติด Solar PPA, ส่งเสริมเกษตรกรรมคาร์บอนต่ำกว่า 3.5 ล้านไร่ และการใช้ยานยนต์ขนส่งพลังงานสะอาด เช่น รถ EV และรถไฮโดรเจน
“การลดคาร์บอนไม่ใช่ภารกิจขององค์กรเพียงลำพัง แต่ต้องทำร่วมกับคู่ค้าและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งระบบ ซี.พี.ได้กำหนดแนวทางบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานอย่างรับผิดชอบ ที่เน้นการลดความเสี่ยง เพิ่มประสิทธิภาพ และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว โดยยึด 3 แกนหลัก ได้แก่ Responsible Supply Chain Management, Supply Chain Decarbonization และ Human Rights” ดร.ธีระพลย้ำทิ้งท้าย
ด้านศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) กล่าวต่อว่า CPAxtra ได้ตั้งเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกรวม Scope 1, 2, 3 ให้ได้ 4.18 ล้านตันภายในปี 2030 โดยเฉพาะ Scope 3 ซึ่งถือเป็นสัดส่วนที่ใหญ่ที่สุด ต้องอาศัยความร่วมมือจากคู่ค้าในทุกกระบวนการ
โดยวาง 4 แนวทางสนับสนุน ได้แก่ การใช้แพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อวัดข้อมูล, การอบรมเวิร์กช็อป, การชวนเข้าร่วมโครงการด้านสิ่งแวดล้อม และการผลักดันให้คู่ค้าเป็น Green Supplier ที่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนสีเขียวจากธนาคารพันธมิตร
การเสวนางานนี้ ทำหน้าที่เป็นเวทีสำคัญในการสร้างการแลกเปลี่ยนความรู้ และการร่วมมือกันเพื่อมุ่งสู่อนาคตที่ยั่งยืน จุดประกายนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านสภาพภูมิอากาศที่พัฒนาโดยสตาร์ตอัพและผู้ประกอบการ เพื่อเชื่อมต่อธุรกิจใหม่ ๆ กับนักลงทุนที่มีศักยภาพ บริษัท และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ
ภายในงานยังมีการติดอาวุธ โดยให้ความรู้แก่ผู้มีส่วนร่วมกว่า 300 ราย จากทั้งกลุ่มคู่ค้ารายใหญ่ รายย่อยของเครือ ซี.พี.และบริษัทในเครือ และพันธมิตรจากหลากหลายอุตสาหกรรม มาเผยมุมมองของนักลงทุน จากระดับโลกสู่ระดับท้องถิ่น ได้แก่ GPSC, Atlas Capital Creagy, Google Cloud, Siemens, depa, Skycool, Third Derivative และ Climind AI