สภากาชาดไทยเชิญชวนประชาชนทั่วไทยใช้แอพมือถือเพื่อตรวจคัดกรองโรคพาร์กินสันด้วยตนเองก่อนพบแพทย์

ศาสตราจารย์ นายแพทย์รุ่งโรจน์ พิทยศิริ หัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความเคลื่อนไหวผิดปกติโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภากาชาดไทย พร้อมนายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทยและคณะเจ้าหน้าที่สภากาชาดไทยได้นำคณะแพทย์และวิทยากรโครงการลงพื้นที่อำเภอเมือง จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อเผยแพร่การใช้เทคโนโลยีในมือถือตรวจคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงอาจเป็นโรคพาร์กินสันผ่านแอพพลิเคชั่น Check PD

โดยศาสตาจารย์ นายแพทย์รุ่งโรจน์ ในฐานะผู้อำนวยการโครงการได้เปิดเผยว่าขณะนี้ประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้อายุหรือประชาชนไทยจะมีอายุเฉลี่ยยืนยาวขึ้น ขณะเดียวกันผู้สูงอายุดังกล่าวมีแนวโน้มที่มีความเสี่ยงเป็นโรคเพิ่มมากขึ้นโดยเฉพาะโรคที่เกี่ยวกับสมอง เช่น โรคพาร์กินสันที่ผู้มีอายุ 45 ปีขึ้นไปเริ่มเป็นกันมากขึ้น สภากาชาดไทยได้มอบหมายให้ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสัน โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ได้หาวิธีป้องกันหรือบรรเทาอาการของโรคและรักษาโรคดังกล่าว

โดยปัจจุบันศูนย์ศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสัน ได้ค้นคิดค้นแอพพลิชั่น สำหรับใช้คัดกรองและค้นหาประชาชนที่มีความเสี่ยงเป็นโรคพาร์กินสันได้โดยให้ประชาชนที่สงสัยว่าตนเองหรือบุคคลในครอบครัวอาจเป็นโรคพาร์กินสันสามารถทดสอบสภาพร่างกายเบื้องต้นด้วยตนเองด้วยการใช้ แอพพลิชั่น “ Check PD ” ซึ่งโหลดเข้ามาติดตั้งได้ทางโทรศัพท์มือถือของตนเองทั้งระบบ IOS และระบบ Android ซึ่งเมื่อติดตั้งเสร็จประชาชนที่สงสัยว่าตนเองจะเป็นโรคพาร์กินสันหรือต้องการตรวจสอบสภาพสมองของตนเองได้ในเบื้องต้นโดยแอพพลิชั่นดังกล่าวจะมีคำถามต่างๆและแบบทดสอบที่ไม่ยุ่งยากให้บุคคลสามารถตอบคำถามและทำตามคำสั่งต่างๆทางมือถือ

หลังจากนั้น ระบบจะส่งต่อผลการทดสอบมายังศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์โรคพาร์กินสัน วินิจฉัยเบื้องต้นและแจ้งกลับไปยังประชาชนที่ลงทะเบียนเพื่อแจ้งผลการตรวจสอบในเบื้องต้น สำหรับประชาชนที่ผลการทดสอบเป็นปกติก็ไม่ต้องเสียเวลามาพบแพทย์และหากผลทดสอบปรากฏว่าเริ่มมีอาการหรือแนวโน้มที่จะเป็นโรคพาร์กินสันหรือโรคทางสมองก็จะได้นัดให้ไปพบกับแพทย์เครือข่ายตามโรงพยาบาลต่างๆโดยประชาชนไม่ต้องเดินทางมาพบแพทย์หรือมาโรงพยาบาล เป็นการนำบริการด้านการแพทย์และพยาบาลให้เข้าถึงประชาชนโดยตรงรวมทั้งเป็นการลดภาระค่าใช้จ่ายทั้งของประชาชนและงบประมาณด้านการแพทย์อีกด้วย

ด้านนายกฤษฎา บุญราช ผู้ช่วยเลขาธิการสภากาชาดไทยและผู้อำนวยการสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด สภากาชาดไทยได้กล่าวเสริมว่า สภากาชาดไทยมีภารกิจสำคัญประการหนึ่งคือการบริการทางการแพทย์และพยาบาลซึ่งขณะนี้จำนวนแพทย์และบุคคลากรรวมทั้งสถานพยาบาลต่างๆมีจำนวนจำกัดไม่เพียงพอต่อการบริการประชาชน ดังนั้นสภากาชาดไทย จึงได้หาทางใช้เทคโนโลยีและความก้าวหน้าทางวิทยาการแพทย์มาใช้ในการขยายบริการด้านการแพทย์และพยาบาลของสภากาชาดไทยลงไปในพื้นที่ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้โดยโครงการสำรวจประชาชนบางกลุ่มที่มีความเสี่ยงเป็นโรคทางสมองเสื่อมหรือโรคพาร์กินสัน จึงเป็นอีกโครงการหนึ่งที่สภากาชาดไทยได้ใช้ระบบเทคโนโลยีเข้าใช้ในการบริการด้านการแพทย์และพยาบาลโดยได้มอบหมายให้โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ร่วมกับสำนักงานบรรเทาทุกข์และประชานามัยพิทักษ์และสำนักงานจัดหารายได้ ร่วมกันดำเนินการตามโครงการนี้โดยมีสำนักงานบริหารกิจการเหล่ากาชาด ทำหน้าที่ประสานงานกับเหล่ากาชาดจังหวัดและกิจการกาชาดอำเภอ เพื่อประสานงานกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและนายอำเภอ ร่วมทั้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้านและอาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน(อสม.) เพื่อทำการรณรงค์เผยแพร่ให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลทั่วประเทศได้รู้จักและวิธีการลงทะเบียนใช้แอพพลิชั่น Check PD เพื่อตรวจสอบและคัดกรองอาการทางสมองในเบื้องต้นของตนเองก่อนโดยไม่ต้องเสียเวลามาพบแพทย์หรือมาโรงพยาบาล