2 บุคคลประวัติศาสตร์ ‘โอปอล สุชาตา-วิว กุลวุฒิ’ อันดับ 1 ของโลก
KAO_DLIFE June 02, 2025 06:30 PM

ประเทศไทยมีเรื่องให้ยินดีอีกครั้งเมื่อ “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” สร้างประวัติศาสตร์ให้วงการนางงาม ด้วยการคว้ามงกุฎฟ้ามงแรกให้กับไทย ในการประกวดมิสเวิลด์ ครั้งที่ 72 ณ เมืองไฮเดอราบาด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย เป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกันกับที่ “วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์” ก้าวขึ้นสู่การเป็นนักแบดมินตันมือวางอันดับ 1 ของโลก พร้อมกับการคว้าแชมป์สิงคโปร์ โอเพ่น 2025 เรียกได้ว่าสร้างความสุขให้คนไทยทั้งประเทศเป็นอย่างมาก

“โอปอล” ไพ่ตายใบสุดท้าย “แม่ปุ้ย”

โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี คือ ไพ่ตายใบสุดท้ายของ “แม่ปุ้ย-ปิยาภรณ์ แสนโกศิก” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท TPN Global หลังเวทีมิสยูนิเวิร์ส ไทยแลนด์ หลุดมือ เพราะเธอ คือ “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2024” และเมื่อก้าวเท้าขึ้นสู่เวทีใหญ่ เธอทำผลงานได้อย่างดีเยี่ยมจนคว้ารองชนะเลิศอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 มาครอง ปิดฉากความงามตามแบบฉบับบ้าน TPN บนเวทีมิสยูนิเวิร์ส

แม้เส้นทางบนเวทีของโอปอลดูเหมือนจะจบลง ในขณะที่ลิขสิทธิ์เวทีมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ ตกสู่มือ “ณวัฒน์ อิสรไกรศีล” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้อำนวยการกองประกวด บริษัท มิสแกรนด์ แต่แม่ปุ้ยได้ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายเปิดดีลลับกับบ้านบีอีซีเทโร จับมือกันส่งโอปอล เป็นตัวแทนสายสะพายไทยแลนด์เข้าประกวดมิสเวิลด์ 2025 เพื่อให้สาวโอปอลได้เดินตามความฝันอีกครั้ง แต่เมื่อประกาศออกไป องค์กรมิสยูนิเวิร์ส ก็ร่อนแถลงการณ์ถอนเธอออกจากตำแหน่งรองชนะเลิศอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์สทันที

แต่เส้นทางที่ไม่ได้ราบเรียบตั้งแต่ก้าวแรกของโอปอลบนเวทีมิสเวิลด์ 2025 ไม่ได้บั่นทอนกำลังใจของเธอเลยแม้แต่น้อย เมื่อเท้าแตะดินแดนภารต ภารกิจล่ามงฟ้าได้เริ่มต้นขึ้น โอปอลต้องฝ่าฟันเอาชนะสาวงามอีก 117 ประเทศ ด้วยหลายรอบแชลเลนจ์ ทั้ง Multimedia Challenge, Top Model, Head 2 Head Challenge ซึ่งเธอได้พาโครงการ Opal For HER โครงการที่ได้แรงบันดาลใจมาจากครั้งที่สาวโอปอลตรวจพบก้อนเนื้อที่หน้าอก และต้องผ่าตัดออกก่อนจะพัฒนาเป็นก้อนเนื้อร้าย จนเธอตระหนักถึงความสำคัญของมะเร็งเต้านม

โอปอล สุชาตา
REUTERS

โอปอลผ่านทุกแชลเลนจ์สุดหินมาด้วยผลงานดีเยี่ยม กระทั่งวันไฟนอลมาถึง โอปอลได้ปรากฏกายด้วยชุดราตรีสีขาวจากแบรนด์ GL Garlet Design พร้อมผมทรงม้วนตั้งสวยสะใจไทยแลนด์ โบกสะบัดธงไทยบนเวทีอีกครั้ง ก่อนจะทะลุเข้ารอบ 40 คน 20 คน 8 คนสุดท้าย ก่อนจะตอบคำถามด้วยความชาญฉลาดส่งตัวเองเข้ามาเป็น Top 4 บนเวทีมิสเวิลด์ 2025 แบบทำเอาใจแม่ ๆ ชาวไทยมาสุด ๆ และเมื่อเธอตอบคำถามอีกครั้ง แฟน ๆ สังเกตเห็นจูเลีย มอร์ลีย์ ประธานองค์กรมิสเวิลด์ ที่นั่งฟังอยู่ ตบเข่าฉาด เอาละสงสัยเธอจับใจจูเข้าให้แล้ว

และก็เป็นเช่นนั้นจริง ๆ เมื่อพิธีกรประกาศว่า “โอปอล-สุชาตา ช่วงศรี” ตัวแทนจากประเทศไทยคือผู้คว้ามงกุฎเกียรติยศสีฟ้ามาครองได้สำเร็จ นับเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์วงการนางงามไทยที่คว้ามงฟ้า จากเวทีสุดหินที่มีประวัติยาวนานที่สุดในโลกมาครองได้ จากที่ผ่านมาเราทำผลงานได้ดีสุดเป็นเพียงรองชนะเลิศอันดับ 1 เท่านั้น

ต่อมาจูเลียได้เผยว่า “ค่ำคืนนี้ โลกไม่ได้เห็นแค่ ‘ความงาม’ แต่ยังได้เห็นความเฉลียวฉลาด ความกล้าหาญ และเสียงเรียกร้องเพื่อการเปลี่ยนแปลง โอปอลได้พิสูจน์ให้เราเห็นว่า เธอคือมากกว่าผู้ชนะ เธอคือผู้หญิงที่มีเป้าหมาย มีพลังบางอย่างในตัว และที่สำคัญ เธอมี ‘เสียง’ ที่โลกพร้อมจะเปิดใจรับฟังแล้วในวันนี้” และนั่นคือเหตุผลที่เธอคว้ามงมาได้สำเร็จ

หลังจากนี้โอปอล-สุชาตา จะปฏิบัติภารกิจในฐานะทูตสำหรับโครงการการกุศลขององค์กร Beauty with a Purpose รวมถึงการมีส่วนร่วมในความพยายามด้านมนุษยธรรม โครงการด้านการดูแลสุขภาพ การปรับปรุงการศึกษา และโครงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ตลอดการดำรงตำแหน่ง

“วิว กุลวุฒิ” นักแบดมือ 1 โลกชาวไทย

การแข่งขันแบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น 2025 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 750 ที่ประเทศสิงคโปร์ ประเภทชายเดี่ยว รอบชิงชนะเลิศ จบลงด้วยการเป็นแชมป์ของ “วิว-กุลวุฒิ วิทิตศานต์” ที่สามารถเอาชนะ “ลู่ กวางซู” มืออันดับ 15 ของโลก จากประเทศจีนไปแบบขาดลอย 2-0 เกม 21-6 และ 21-10 พร้อมเงินรางวัลกว่า 70,000 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 2.3 ล้านบาท

แชมป์นี้มีความหมายและความสำคัญต่อวิว กุลวุฒิ เป็นอย่างมาก เพราะเป็นการฉลองก้าวขึ้นสู่มือ 1 ของโลกอย่างเป็นทางการ ในประกาศอันดับของสหพันธ์แบดมินตันโลก โดยเก็บเพิ่มได้อีก 4,400 คะแนน รวมเป็น 97,179 คะแนน

ความยอดเยี่ยม คือ วิว กุลวุฒิ คว้าไปถึง 4 แชมป์แล้วในปีนี้ ประกอบด้วย อินโดนีเซีย มาสเตอร์ส รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 500 ต่อด้วยการสร้างประวัติศาสตร์เป็นนักแบดมินตันชายเดี่ยวชาวไทยคนแรกที่คว้าแชมป์เอเชีย รายการเอเชีย แชมเปี้ยนชิพ 2025 จากนั้นคว้าแชมป์โตโยต้า ไทยแลนด์ โอเพ่น 2025 ไปครอง โดยเป็นแชมป์รายการนี้ครั้งที่สองของเจ้าตัว หลังเคยทำได้ในปี 2023 และล่าสุดแชมป์แบดมินตันสิงคโปร์ โอเพ่น รับเงินรางวัล 4 รายการ รวมกว่า 5.7 ล้านบาท

วิว กุลวุฒิ

แต่กว่าจะมีวันนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย ต้องผ่านการฝึกซ้อม ความมีวินัย และความสม่ำเสมอ วิว กุลวุฒิ เริ่มเล่นแบดมินตันเมื่ออายุ 7 ขวบ เนื่องจากต้องตามคุณพ่อซึ่งเป็นผู้ฝึกสอนแบดมินตันไปที่สนาม ในระยะแรก วิวจึงได้เล่นแบดมินตันเพื่อความสนุกสนาน และด้วยความที่เป็นโรคภูมิแพ้อากาศ จึงเล่นกีฬาเพื่อรักษาสุขภาพให้แข็งแรง

ต่อมากุลวุฒิเริ่มฝึกซ้อมแบดมินตันอย่างจริงจังเพื่อลงแข่งขันระดับเยาวชนภายในประเทศ ก่อนที่ปี 2009 จะได้เข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตันรุ่นอายุต่ำกว่า 9 ปี และเริ่มประสบความสำเร็จ ได้รับรางวัลชนะเลิศอย่างสม่ำเสมอ ตลอดช่วงระยะเวลา 3-4 ปีถัดมา

ปี 2014 เมื่อวิว กุลวุฒิ อายุ 13 ปี ได้ย้ายไปอยู่สังกัดโรงเรียนแบดมินตัน “บ้านทองหยอด” ด้วยแรงบันดาลใจที่เห็น “เมย์-รัชนก อินทนนท์” คว้าตำแหน่งแชมป์โลกในประเภทหญิงเดี่ยว

จากนั้นวิวก็ได้รับโอกาสแข่งขันในระดับชาติและระดับนานาชาติ โดยเข้าร่วมการแข่งขันรายการแบดมินตันเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทยเป็นครั้งแรก ในรุ่นอายุต่ำกว่า 14 ปี และได้รับรางวัลชนะเลิศในรายการเดียวกันทุกปีที่แข่งขัน คือ รุ่น 14 ปีในปี 2014 และปี 2015 รวมถึงรุ่น 16 ปีในปี 2016 และรุ่นใหญ่ที่สุด อายุต่ำกว่า 19 ปีในปี 2017

สำหรับระดับนานาชาติ กุลวุฒิเข้าร่วมการแข่งขันรายการแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์เอเชีย รุ่นอายุต่ำกว่า 15 ปี เป็นครั้งแรกในปี 2014 กระทั่งในวันที่ 22 ตุลาคม 2017 ได้รางวัลชนะเลิศในรายการแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภทชายเดี่ยว ที่ประเทศอินโดนีเซีย ด้วยวัยเพียง 16 ปี 5 เดือน นับเป็นแชมป์เยาวชนโลกประเภทชายเดี่ยวคนแรกของประเทศไทย และในปี 2018 วิว กุลวุฒิ สามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในรายการแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลก ประเภทชายเดี่ยวติดต่อกันเป็นสมัยที่ 2  และในปี 2022 กุลวุฒิคว้าเหรียญทองให้กับประเทศไทย ในกีฬาซีเกมส์ 2022 ที่ประเทศเวียดนาม

นอกจากนี้ วิว กุลวุฒิ ยังผ่านเข้าไปชิงชนะเลิศกับ “วิกเตอร์ แอ็กเซลเซ่น” มืออันดับ 1 ของโลกในขณะนั้น จากเดนมาร์ก ในรายการแบดมินตันชิงแชมป์โลก 2022 ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น และได้รองแชมป์มาครอง กลายเป็นนักแบดมินตันไทยคนแรกที่ได้ตำแหน่งรองแชมป์ในรายการนี้ ก่อนจะสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์โลกชายเดี่ยวในเดือนสิงหาคม 2023 ได้สำเร็จ

พร้อมกับจารึกชื่อไว้เป็นตำนาน ด้วยการคว้าเหรียญเงินในศึกโอลิมปิกเกมส์ 2024 ไปครอง นับเป็นประวัติศาสตร์ของแบดมินตันไทยในรอบ 32 ปี ตั้งแต่ถูกบรรจุเข้าไปในโอลิมปิกในปี 1992

© Copyright @2025 LIDEA. All Rights Reserved.